“สกลธี” ปักหมุด “ผู้ว่าฯ เมืองหลวง” ชูอิสระ ธงนำ“กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้”

“สกลธี” ปักหมุด “ผู้ว่าฯ เมืองหลวง” ชูอิสระ ธงนำ“กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้”

บรรดาคีย์แมนที่สนับสนุน “สกลธี” จึงมีความมั่นใจลึกๆ ว่ายังมีความหวัง ต้องไม่ลืมว่า ฐานเสียงกปปส. ในกรุงเทพฯ ก็ยังพอมี รอแค่งัดแท็กติกอะไรมาเล่นเพื่อให้จุดติดเท่านั้น

เปิดตัวลงชิงเก้าอี้ “ผู้ว่าฯกทม.” เต็มตัว สำหรับ เดอะจั้ม “สกลธี ภัททิยกุล” ที่เพิ่งยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง “รองผู้ว่าฯ กทม.” ไปหมาดๆ

สนามผู้ว่าฯ กทม. เป็นความตั้งใจ สำหรับแคนดิเดตรายนี้มาตั้งแต่ต้น มีความพยายามหมายมั่นปั้นมือ เตรียมการวางแผนทุกขั้นตอนเอาไว้เรียบร้อย ไม่ใช่ไขก๊อกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

โดยก่อนหน้านี้ หลังจากแกนนำ กปปส. หลายคน หมดบทบาทในพรรคพลังประชารัฐ “สกลธี” ก็ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค เบนเข็มปลุกปั้นพรรคการเมืองใหม่ ในนาม “พรรคไทยสร้างสรรค์

ตามกำหนดการเดิมจะเปิดตัวพรรคในช่วงไตรมาสแรกของปี 65 พร้อมกับการเปิดตัวชิง “ผู้ว่าฯ กทม.” ของ “สกลธี” เพื่อสร้างกระแสพึ่งพากันไปทั้งสองส่วน แต่สถานการณ์ทางการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

จากเดิมที่พรรคไทยสร้างสรรค์ มุ่งจะทำพรรคการเมืองของตัวเองจริงจัง ก็ได้รับสัญญาณเบรกจากผู้มีอำนาจ ให้ไปรวมร่างกับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” สานต่อภารกิจหนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัย

สอดรับกับท่าทีของ “สกลธี” ที่ประกาศตัวในนามอิสระ ภายใต้สโลแกน “กรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้” ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญ จากที่จะอิงกับพรรค กลายมาลงอิสระ

ถึงขนาดที่ว่า เตรียมคนลง ส.ก. เอาไว้แล้วบางส่วน รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. พลังประชารัฐ บางคนที่แนบแน่นใกล้ชิด “สกลธี” หากพร้อมสู้ศึกสนามนี้ด้วยกันจริงๆ อาจจะได้เห็นการถอดเสื้อ“พลังประชารัฐ” เพื่อมาร่วมงานกัน

ขณะที่ ข้อมูลอีกมุม ส.ส.กทม. พลังประชารัฐ บางคน กำลังเล่นตัว คิดว่ากำลังเนื้อหอม เป็นที่รุมจีบของหลายคนอยากให้มาช่วย สนามผู้ว่าฯ และส.ก. เช่น พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เป็นแกนนำ ก็เตรียมคนลง ส.ก. ด้วย

การลงสนามเมืองหลวงของ “สกลธี” อาจจะคล้ายโมเดล “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” แคนดิเดตผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ เต็งหนึ่งตามผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ความนิยมมาอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องประมาณกว่า 30 % ก็ได้ฐานเสียงสนับสนุนหลักจาก “พรรคเพื่อไทย” ที่ส่งผู้สมัครส.ก. ลงสู้ครบ50 เขต ตระเวนบอกชาวบ้านให้เลือก “ชัชชาติ” อย่างไม่ต้องปิดบัง

อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานของ “สกลธี” ก็มีการทำโพลสำรวจความนิยมทุกสัปดาห์ ควบคู่กันพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ประมาณ 40% ยังไม่ตัดสินใจจะเลือกใครเป็น “ผู้ว่าฯ กทม.” ส่วน “ชัชชาติ” ความนิยมอยู่ที่ประมาณ 20% และความนิยมของ “เดอะจั้ม” มีอยู่ระดับหนึ่ง แตกต่างจากตัวเลขของโพลบางสำนักพอสมควร

ดังนั้น บรรดาคีย์แมนที่สนับสนุน “สกลธี” จึงมีความมั่นใจลึกๆ ว่ายังมีความหวัง ต้องไม่ลืมว่าฐานเสียงกปปส. ในกรุงเทพฯ ก็ยังพอมี รอแค่งัดแท็กติกอะไรมาเล่นเพื่อให้จุดติดเท่านั้น

อีกอย่าง “สกลธี” เคยเป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญของ “พลังประชารัฐ” ทำพื้นที่กทม. ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีส่วนกับความสำเร็จในสนามเมืองหลวง เป็นอีกคนที่รู้พื้นที่ ได้จับงานบริหารในกทม. พอจะรู้งาน รู้ระบบมากกว่าแคนดิเดตหลายคน

สังเวียนสู้ศึก “ผู้ว่าฯ กทม.” สำหรับ “สกลธี” เพิ่งจะเริ่มต้น ยังมีบททดสอบที่โหดหินรออยู่อีกหลายด่าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย

ต้องติดตามต่อว่า แคนดิเดตหนุ่มรายนี้ จะมีดีพอเรียกกระแสคนกรุงได้แค่ไหน โดยหลังการแถลงเปิดตัวเป็นทางการ เปิดหน้าเปิดตาทีมงานและชุดนโยบาย คงจะได้เห็นความชัดเจนกันมากขึ้น ว่าจะปังหรือแป๊ก ยืนระยะสู้คู่แข่งสายแข็งได้มากน้อยแค่ไหน