“ยุทธพงศ์”จ่อร้องนายกฯยุติเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำหวั่นอันตราย

“ยุทธพงศ์”จ่อร้องนายกฯยุติเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำหวั่นอันตราย

“ยุทธพงศ์”จ่อร้องนายกฯยุติเปลี่ยนเครื่องยนต์เรือดำน้ำ บอกไม่ใช่เครื่องยนต์ที่ระบุไว้ในสัญญา หวั่นเป็นอันตราย ชี้ บ.เอกชน ดำเนินการเรื่องดังกล่าวเคยบริจาคเงินให้พปชร. จี้ “ประวิตร” รับผิดชอบ

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสเถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า เรือดำน้ำมีทั้งหมด 3 ดำได้ทำการซื้อไปแล้ว 1 ลำ อีก 2 ลำ ก็จะซื้อแต่พรรคเพื่อไทยคัดค้านไว้ อย่างไรก็ตามเมื่อซื้อปัญหาที่ตามมาคือความไม่โปร่งใส โดยโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ จีน 3 ลำ ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลำที่ 1 มีมูลค่า 1,424 ล้านบาท อยู่ระหว่างการก่อนสร้าง (งบปี 2560-2566) ลำที่ 2 และ 3 มูลค่า 22,500 ล้านบาท

โดยที่ยังไม่ได้ซื้อเพราะพรรคเพื่อไทยคัดค้าน ไม่ใช่เพราะพล.อ.ประยุทธ์เห็นแก่ความอดอยากของประชาชน ได้มีการตั้งงบประมาณมาแล้วแต่ถูกพรรคเพื่อไทยการค้า มูลค่าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยงบประมาณทั้งหมด 44,222 บาท โดยมีเรือดำน้ำ 3 ลำ และยังมีเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำ 1 ลำ และยังมีโครงการท่าจอดเรือดำน้ำ โดยระยะที่ 1งบประมาณ (ปี 2563-2564) 900 ล้านบาท ระยะที่ 2 งบประมาณ (ปี 2564-2566) 950 ล้านบาท รวมเป็น 1,850 ล้านบาท

ทั้งนี้ตนเคยชี้แจงไปแล้วว่าการที่รัฐบาลออกมาบอกว่าเป็นการจัดซื้อแบบจีทูจี เป็นการจัดซื้อจีทูจีที่ไม่จริง บริษัทที่มาเซ็นสัญญากับกองทัพเรือไม่ใช่รัฐบาลจีนหรือกระทรวงกลาโหมของประเทศจีนแต่เป็นบริษัท China Shipuilding and Offshore International (CSOC) ซึ่งสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่ง บริษัทดังกล่าวทำหน้าที่เป็นนายหน้าค้าอาวุธให้กับรัฐบาลจีน
 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เมื่อบริษัท CSOC ได้งานไประบุว่าต้องส่งคนเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำโครงการต่างๆที่ได้เซ็นสัญญาไป ซึ่งได้ทำการเบิกเงินล่วงหน้า 15 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ผ่านมาแล้ว 10 เดือนปรากฏว่างานยังเป็นศูนย์ อย่างไรก็ตามมีหนังสือเรียนมาถึงกรมช่างโยธาทหารเรือแต่คนที่บริษัท CSOC ส่งเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น 1.ผู้จัดการโครงการ 2.รองผู้จัดการโครงการ 3.รองผู้จัดการโครงการฝ่ายก่อสร้าง 4.หัวหน้าฝ่ายควบคุมคุณภาพ 

โดยตนได้ตามไปดูเรื่องการขออนุญาตเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งตนพบว่าทั้ง 4 คน ขอใบอนุญาตเข้าประเทศไทยมาสอนภาษาจีน ซึ่งอย่างนี้ถือว่าเป็นการหลอกรัฐบาลไทยหลอกกองทัพเรือหรือไม่ คนพวกนี้ยังได้ไปประชุมร่วมกับนายทหารเรือของกรมช่างโยธา ต้นได้บอกมาตลอดว่าบริษัทนี้ไม่ได้เป็นบริษัทของรัฐบาลจีนเราไม่ได้ทำสัญญา จีทูจี จริง แล้วเป็นไปได้หรือที่รัฐบาลจีนจะส่งครูสอนภาษาจีนมาสร้างท่าจอดเรือดำน้ำให้กับประเทศไทยและความคืบหน้าในตอนนี้ก็เป็น 0 เปอร์เซ็นต์

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ตามแผนเดิมเรือดำน้ำลำที่ 1 ที่ได้ซื้อไปแล้วในปีหน้าจะต้องส่งมอบให้กับกองทัพเรือไทยนั้น ไม่มีเครื่องยนต์เพราะประเทศจีนผลิตเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับเรือดำน้ำไม่ได้ต้องไปซื้อต้องไปซื้อจากประเทศเยอรมัน โดยในสัญญาที่ได้เซ็นกับทาง CSOC ระบุว่า เครื่องยนต์ที่จะติดตั้งจะต้องเป็นยี่ห้อยี่ห้อMTUเท่านั้น แต่ปรากฏว่าประเทศเยอรมันไม่ขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำMTU ให้กับประเทศจีน กลายเป็นว่าเรือดำน้ำลำที่ 1 มีแต่ตัวเรือไม่มีเครื่องยนต์และ
 

ขณะนี้ตนทราบมาว่าทางบริษัทCSOC กำลังจะเปลี่ยนเครื่องยนต์จะไม่เอาเครื่องยนต์ที่อยู่ในสัญญามาใส่ให้แต่จะเอาเครื่องยนต์ของจีนมาใส่ให้ ตนจะทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการทหารเรือ บอกว่าห้ามเปลี่ยนเพราะเครื่องยนต์ของเรือดำน้ำ เพราะถ้าเกิดเครื่องยนต์เสียหรือขัดข้องขึ้นมาอันตรายต่อผู้ที่อยู่ในเรือดำน้ำมากเพราะต้องดำลงไปใต้น้ำ และตรวจสอบโครงการ

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การเชื่อมโยงระหว่างบริษัท CSOC มีตัวแทนในประเทศไทยคือ บริษัท ณัฐพล จำกัด มีกรรมการบริษัท 4 คน ประกอบด้วย นายอาณัติ อำนวยพล นายชินะวัฒน์ อำนวยพล นายสันติ อำนวยพล และ นางเทพินทร์ ทัฬหิกรณ์ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ปี 2555 นายอาณัติ 1 ในกรรมการบริษัทตัวแทน ได้บริจาคเงินจำนวน 2 ล้านให้กับมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภาคตะวันออก โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบ ในฐานะประธานมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด 

ทั้งนี้นายวรพจน์ อำนวยพล หรือ เสี่ยบอย-SKY เป็นลูกชายของนายอาณัติ และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทณัฐพล และเป็นเจ้าของบริษัท สกายไอซีที ที่ได้บริจาคเงิน 5 ล้านบาทเพื่อซื้อโต๊ะจีนพรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 งานนี้พล.อ.ประวิตรต้องรับผิดชอบ เพราะพล.อ.ประวิตร เป็นบิดาแห่งเรือดำน้ำไทยและยังเคยพูดไว้ว่าเรือดำน้ำมีประโยชน์มากในฝั่งทะเลอันดามันในระยะ 200 ไมล์ทะเล พูดไว้เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 สมัยยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

โดยในปีเดียวกันเองนั้นก็ได้เซ็นซื้อเรือดำน้ำลำแรก พล.อ.ประวิตรรับผิดชอบหรือไม่ที่ซื้อเรือดำน้ำและไม่มีเครื่องยนต์มันเป็นไปได้อย่างไร ทำไมไม่ไปซื้อเรือดำน้ำกับเยอรมันหรือทางยุโรปที่สามารถผลิตเครื่องยนต์ได้เอง แต่ประเทศจีนผลิตเครื่องยนต์เองไม่ได้ต้องไปซื้อกับทางเยอรมันแต่ทางเยอรมันไม่ขายให้จะทำอย่างไรจะกล้าเอาเครื่องยนต์ประเทศจีนมาติดใส่เรือดำน้ำของไทยไหมหากดำลงไปและไม่ลอยขึ้นมาจะทำอย่างไร พล.อ.ประวิตรจะรับผิดชอบอย่างไร เทอร์บายจีนที่อ้างเอาครูสอนภาษาจีนมาสร้างท่าจอดเรือดำน้ำ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ครูสอนภาษาจีนจะมีความรู้เขาไม่ได้เป็นวิศวกร จึงทำให้โครงนี้มีปัญหาเรือดำน้ำก็ไม่มีเครื่องยนต์ ท่าจอดเรือก็สร้างไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ตนจึงขุดเรื่องของเสี่ยบอย-SKY ต่อเนื่อง เพราะพ่อของเสี่ยบอย-SKY ก็เป็นคนขายเรือดำน้ำ และเสี่ยบอย-SKYก็ถือหุ้นอยู่ในบริษัทตัวแทนขายด้วย ซึ่งเรือดำน้ำแต่ไม่มีเครื่องยนต์เรื่องใหญ่หรือไม่ สร้างท่าจอดเรือดำน้ำแต่ไม่เอาวิศวกรมาสร้างไปเอาครูสอนภาษาจีนมาสร้างและจะสร้างได้อย่างไร ทั้งนี้ทำไมพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตรวจสอบ เป็นถึงรัฐมนตรีกลาโหม ส.ส ได้พูดในสภา หูได้ยินบางหรือไม่