“แอมเนสตี้” จับตาใกล้ชิดปมยูเครน-รัสเซีย แนวโน้มเลวร้าย ขอทุกฝ่ายยึด กม.

“แอมเนสตี้” จับตาใกล้ชิดปมยูเครน-รัสเซีย แนวโน้มเลวร้าย ขอทุกฝ่ายยึด กม.

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” จับตาใกล้ชิด! แสดงความกังวลปม “รัสเซีย” บุก “ยูเครน” มีแนวโน้มเลวร้ายต่อชีวิตมนุษย์-สิทธิมนุษยชน ขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักกฎหมาย อนุญาตองค์กรด้านมนุษยธรรมเข้าช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2565 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล (Amnesty International) เรียกร้องให้มีการเคารพต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างจริงจัง หลังจากรัสเซียใช้ปฏิบัติการโจมตียูเครนทั้งทางบกและทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของเรากลายเป็นความจริงขึ้นมา หลังความตึงเครียดที่ทวีขึ้นหลายสัปดาห์ การรุกรานของรัสเซียมีแนวโน้มว่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายต่อชีวิตมนุษย์และสิทธิมนุษยชนได้เริ่มขึ้นแล้ว

“ขณะที่มีการยิงระเบิดและจรวดใส่ฐานทัพของยูเครน และมีรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับการใช้อาวุธสงครามอย่างไม่เลือกเป้าหมายของกองทัพรัสเซีย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ขอย้ำอีกครั้งถึงข้อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องประกันการคุ้มครองชีวิตของพลเรือน บ้านเรือน และโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาต้องได้รับความคุ้มครอง การโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมาย และการใช้อาวุธสงครามต้องห้าม เช่น ระเบิดลูกปราย จะต้องไม่เกิดขึ้น เรายังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอนุญาตและอำนวยความสะดวกให้องค์กรด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสงครามด้วย” เลขาฯแอมเนสตี้ ระบุ

โดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเปิดเผยการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศที่กระทำโดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง