เปลี่ยนโจทย์ดัน “แพทองธาร” - “เพื่อไทย”ปรับสูตรรัฐบาลปรองดอง

เปลี่ยนโจทย์ดัน “แพทองธาร” - “เพื่อไทย”ปรับสูตรรัฐบาลปรองดอง

ลึกๆ แล้ว ทักษิณหวังให้ลูกสาวเป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ว่า “รอบนี้ เถ้าแก่สู้จริง” เพราะช่วงนั้น มีข่าวเลือดไหล ส.ส.เพื่อไทยเตรียมย้ายพรรคนับสิบ เหมือนเช่นวันนี้ พลังดูดสีน้ำเงินมาแรง “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” จึงต้องออกมาเป็นยามห้ามเลือดอีกครั้ง

สปอตไลท์การเมืองที่สาดจับ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” มาอย่างต่อเนื่อง รอสัญญาณทางไกลว่าจะเปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ท่ามกลางคำถามและเสียงวิจารณ์ถึงบารมีการเมือง

โจทย์ใหม่โทนี่ วู้ดซัม วันนี้ อาจไม่ใช่ปั้นลูกสาว “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” เป็นนายกฯ เหมือนสมัยน้องสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะบริบทสังคมการเมืองเปลี่ยน โจทย์ปรองดองจึงเป็นเรื่องใหญ่

วันที่ 22 ก.พ.2565 ที่พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุม ส.ส.ของพรรคประจำสัปดาห์ เตรียมความพร้อมเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เกิดเรื่องฮือฮาในกลุ่ม ส.ส. เมื่อ อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมรับฟังการประชุมด้วย โดยนั่งร่วมกับกลุ่ม ส.ส.หญิง บริเวณกลางห้องประชุม

จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้โพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊กว่า “วันนี้ คุณอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม พรรคเพื่อไทยค่ะ

ปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร ตัดสินใจดันลูกสาวคนเล็กเข้าสู่ถนนการเมือง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย บ้างก็ว่าเป็นการลงทุนครั้งสุดท้าย โดยหยิบกล่องดวงใจออกมาเป็นไพ่ใบใหม่

ลึกๆ แล้ว ทักษิณหวังให้ลูกสาวเป็นตัวแทนเชิงสัญลักษณ์ว่า “รอบนี้ เถ้าแก่สู้จริง” เพราะช่วงนั้น มีข่าวเลือดไหล ส.ส.เพื่อไทยเตรียมย้ายพรรคนับสิบ เหมือนเช่นวันนี้ พลังดูดสีน้ำเงินมาแรง “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” จึงต้องออกมาเป็นยามห้ามเลือดอีกครั้ง

แม้สื่อทุกสำนักจะมองว่า “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” จะเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เอาเข้าจริงแล้ว สถานการณ์การเมืองวันนี้ ก็ต่างจากยุคยิ่งลักษณ์เยอะ

จะว่าไปแล้ว บทบาทของอุ๊งอิ๊ง ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ก็ยังไม่เห็นมีผลงานอะไรออกมาที่ชี้ให้เห็นว่า นี่คือซอฟท์พาวเวอร์ หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่จับต้องได้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พยายามอธิบายบทบาทอุ๊งอิ๊งว่า จะเข้ามาร่วมกันผลิตนโยบายเพื่อดึงคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาร่วมกับพรรคเพื่อไทย

2-3 เดือนที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยก็มุ่งเล่นเกมสภา หวังกดดันให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ยังไม่เห็นนโยบายใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์คนรุ่น Gen X Gen Z

ในสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร”อาจเป็นแค่ตัวละครในกลยุทธ์การตลาดการเมือง มากกว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ เหมือนยิ่งลักษณ์ เนื่องจากคนดูไบมีดีลพิเศษว่าด้วยนายกรัฐมนตรีคนกลางอยู่แล้วใช่หรือไม่

ถึงจะการันตีกับ ส.ส.เพื่อไทยด้วยการส่ง “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” มาเป็นเครื่องการันตีว่า นายห้างดูไบเอาจริง ไม่มีแตกแบงก์พันเหมือนปี 2562 แต่ ส.ส.นกรู้จำนวนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย ก็เตรียมขยับไปตามพลังดูด

เวลานี้ นายห้างดูไบจัดวางยุทธศาสตร์เลือกตั้งไว้ที่ภาคเหนือ และภาคอีสานเป็นหลัก ส่วนภาคกลาง กรุงเทพฯ และภาคใต้ ก็สู้ตามสภาพความเป็นจริง

ภาคเหนือ มีชลน่าน ศรีแก้ว เป็นแม่ทัพใหญ่ กำกับโดยเจ๊แดงคนเดิม เที่ยวนี้ เหนือตอนบนต้องกวาดให้หมด ไม่แบ่งให้กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ส่วนเหนือตอนล่าง ก็พยายามทำให้ดีกว่าหนที่แล้ว เจ๊แดงพยายามจะดึงกลุ่มวราเทพ รัตนากร กลับมา

คู่แข่งในภาคเหนือ ก็มีแค่กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส และพรรคพลังประชารัฐ ที่แบ่งเป็นกลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มหิมาลัย ผิวพรรณ สำหรับพรรคก้าวไกลก็น่าจับตาในพื้นที่เขตเมืองใหญ่ จะเป็นก้างขวางคอเพื่อไทย

ภาคอีสาน มีเฮียเพ้ง พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ดูแลทั้งหมด โดยเกรียง กัลป์ตินันท์ และประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นผู้ช่วย

คู่แข่งในภาคอีสานคือ พรรคภูมิใจไทย ที่หวังจะเพิ่มจำนวน ส.ส.อีสาน ให้ได้ถึง 30 คน จากเดิมที่มีอยู่ 16 คน ส่วนพรรคก้าวไกลกำลังมาแรง อาจได้ ส.ส.เขต 5-6 คนในโซนอีสานเหนือ

สาเหตุหนึ่งที่มีอาการเลือดไหลในเพื่อไทย เพราะคนแดนไกล มอบนโยบายใหม่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมัยหน้า ต้องช่วยเหลือตัวเองมากกว่า 50% จะมาหวังพึ่งที่พรรคอย่างเดียวไม่ได้

เถ้าแก่ดูไบมาสูตรเดิม พรรคจะปั้นนโยบาย ปั่นกระแส ส่วนผู้สมัคร ส.ส.ก็รอขี่กระแสเข้าสภาฯ เหมือนปี 2554