ผบ.ตร. การันตีความปลอดภัย "พล.ต.ต.ปวีณ" หากกลับไทย

ผบ.ตร. การันตีความปลอดภัย  "พล.ต.ต.ปวีณ" หากกลับไทย

"พล.ต.อ.สุวัฒน์ " ยัน ดูแลความปลอดภัย "พล.ต.ต.ปวีณ" หากกลับไทย เผยไม่มีใครทำอะไรและไม่พบถูกแจ้งดำเนินคดี ย้ำติดต่อส่วนตัวบอกข้อมูลได้ตลอดเวลา เผยการทำงานปราบค้ามนุษย์ ตำรวจมีผลงานเพิ่มขึ้นตลอด

22 ก.พ.2565 กรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองผบช.ศชต.) อดีตทีมสอบสวนคดีขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่พบศพบนเทือกเขาไม้แก้ว จ.สงขลา ซึ่งมี พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และพวกอีกกว่า 100 คน เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ เหตุเกิดเมื่อปี 2558 ได้ออกมาเปิดเผยว่าถูกกดดันและคุกคาม จนต้องลาออกจากตำรวจและลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย ทั้งยังถูกดำเนินคดี แต่ศาลยกฟ้องแล้ว

ล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้หลายปีแล้ว มีข่าวสารพัดเลยว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีกับพล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งตนได้ตรวจสอบเบื้องต้นก็ยังไม่พบ ยังไม่มี ใครมีข้อมูลก็ส่งมา แต่ตรวจสอบแล้วก็ยังไม่พบว่ามีการดำเนินคดีกับพล.ต.ต.ปวีณ

“ ส่วนที่กลัวเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ผมตอบในนามตำรวจ 2 แสนกว่านายว่า ถ้าท่านกลับมาจะดูแลความปลอดภัยให้ กลัวอะไรก็มาบอกกัน รับรองว่าไม่มีเรื่อง ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครไปทำอะไรหรอก ทางตำรวจดูแลได้อยู่แล้ว”

เมื่อถามว่ามีข่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร.ฟ้องพล.ต.ต.ปวีณ ในนามส่วนตัว ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วไม่มี ถามต่อว่าขณะนั้นมีการฟ้องส่วนตัวหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดตอนนั้น แต่วันนี้มีข้อมูลตรวจสอบแล้วยังไม่พบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีอะไร รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่มีการฟ้องร้องพล.ต.ต.ปวีณในนามองค์กร

“ผมก็ไม่ทราบว่าท่านกลัวอะไร แต่ว่าจะอะไรก็ช่างผมยืนยันว่าปลอดภัย ไม่มีใครมาทำอะไร ผมดูแลให้ได้ ถ้าอยากจะกลับมาก็บอกกันล่วงหน้าจะจัดการให้ไม่ต้องห่วง ทั้งนี้ไม่ทราบสถานะปัจจุบันของพล.ต.ต.ปวีณว่าเป็นพลเรือนของออสเตรเลียหรือไม่ แต่ท่านก็เป็นคนไทย อย่างไรก็ต้องดูแลเหมือนกันอยู่แล้ว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่มีการติดต่อไปยังพล.ต.ต.ปวีณ และทางพล.ต.ต.ปวีณยังไม่มีการติดต่อกลับมาเช่นกัน”

พล.ต.อ.สุวัฒน์ บอกอีกว่า จริงๆ แล้วถ้าท่านอยากจะกลับไม่มีใครไปห้ามท่าน ไม่ทราบรายละเอียดว่ามีใครไปอะไรหรือเปล่า เอาเป็นว่าในหน้าที่ของตำรวจ ถ้าคิดว่าจะกลัวไม่ปลอดภัย เราดูแลให้ได้ รับประกัน ว่าไม่มีเรื่อง ไม่มีใครมาทำอะไร

เมื่อถามว่าในคดีโรฮีนจา ทางผบ.ตร.ก็เป็นหนึ่งในคณะทีมสืบสวนสอบสวนที่ลงไปร่วมด้วยในขณะนั้นมีแรงกดดัน หรืออิทธิพลอะไรที่จะทำให้ระดับพล.ต.ต.ปวีณต้องกลัว พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่เห็นมีแรงกดดันอะไร คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นร้อย พนักงานสอบสวนก็เยอะมากไม่ได้มีแค่ 1-2 ท่าน หัวหน้าพนักงานสอบสวนก็เป็นทางอัยการสูงสุด ในส่วนของตำรวจมีรองผบ.ตร.ดูแล คนเป็นร้อยทำคดีนี้ ไม่เห็นว่ามีใครมาบอกว่าใครไปโดนใครขู่อะไรยังไง ทั้งนี้ข้อมูลอยู่ที่พล.ต.ต.ปวีณ แต่เท่าที่รู้ไม่พบเรื่องพวกนี้

ถามต่อว่าได้มีการเรียกทีมพนักงานสอบสวนมาคุยหรือไม่ ทางพล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ได้เรียก เพราะเรื่องนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว และคดีก็อยู่ในชั้นศาล หากจะเรียกมาก็ต้องมีเหตุมีผลกันหน่อยว่าประเด็นอะไร ฝากบอกท่านว่าถ้าจะกลับมาเราดูแลความปลอดภัยให้

ส่วนกรณีที่พล.ต.ต.ปวีณพูดถึง“ปลาตัวใหญ่ ”พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ไม่ทราบต้องไปถามท่านว่าปลาตัวใหญ่คืออะไร ไปดูในสำนวนการสอบสวนก็ได้ทำได้ครบถ้วน ออกหมายจับไว้เป็นร้อยราย อาจจะจับได้ไม่หมดก็พยายามเร่งรัดกันอยู่ประมาณ 30 รายที่ยังจับไม่ได้ ส่วนจับได้ก็เป็นร้อยกว่าราย ที่ฟ้องส่วนใหญ่ศาลก็ลงโทษ ตอนนี้อยู่ในชั้นฎีกา เชื่อว่าของแบบนี้มันปิดกันไม่ได้หรอก คนเป็นร้อยๆ จะไปทำอะไร จะไปปิดคนขนาดนั้นได้อย่างไร และเรื่องนี้ก็ตั้งนานแล้ว

ถามต่อว่าประเด็นนี้ทำให้เรื่องการปราบปรามค้ามนุษย์ของไทยถูกจับตาอีกครั้งหนึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า การปราบปรามการค้ามนุษย์เราตั้งใจทำอยู่แล้ว และผลงานก็มีแต่เพิ่มขึ้นตลอด จริงๆ ขบวนการก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ใช่ขนาดนั้น มันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น เราจัดการได้หมดอยู่แล้ว

“ ก็ฝากว่าถ้าท่านกลัวอะไร ไม่กล้าบอกใคร บอกผมส่วนตัวก็ได้ อย่างไรก็แล้วแต่ผมยืนยัน ในนามตำรวจ 2 แสนกว่านายเราจะดูแล เรื่องปราบปรามค้ามนุษย์เราตั้งใจทำพร้อมชี้แจงทุกประเทศ”