"โรม" เปิดคำให้การ "พล.ต.ต.ปวีณ" ขอลี้ภัย โยง "ประวิตร" ไม่ปกป้อง "ขรก.น้ำดี"

"โรม" เปิดคำให้การ "พล.ต.ต.ปวีณ" ขอลี้ภัย โยง "ประวิตร" ไม่ปกป้อง "ขรก.น้ำดี"

"รังสิมันต์"ซัด "ประวิตร-ประยุทธ์" ไม่ปกป้องข้าราชการน้ำดี เปิดเอกสารคำให้การขอลี้ภัย "พล.ต.ต.ปวีณ" อภิปรายกลางสภาฯ พร้อมเชื่อ คดีโรฮงญา มีคนกองทัพอีกอื้อรู้เห็น แขวะเป็นช่องทางทำให้ทหารรวย

             นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ  ถึงประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ ที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปกป้องกระบวนการค้ามนุษย์ ไม่แก้ปัญหา และทำให้กระบวนอยุติธรรมและขบวนการที่ไร้สำนึกความเป็นคนหากินกับชีวิตคนอื่นยังคงเกิดขึ้น อย่างไรก็ดีการสืบสวนกลุ่มกระบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8 อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ทำคดีและเปิดเผยข้อมูล จนต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้ตนขอเปิดเผยคำให้การของ พล.ต.ต.ปวีณ ที่ให้ไว้กับรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อขอลี้ภัย  โดยระบุ

 

             นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่าในการตรวจสอบของพล.ต.ต.ปวีณ นั้น ได้ขยายผลและออกหมายจับ  พ.ต.อ. อ. หัวหน้าชุด พบหลักฐานการโอนเงินค้ามนุษย์ เช่น เจ้ง้อ ตนทราบว่า เจ้ง้อ มีสายสัมพันธ์ นายทหาร อดีต ผบ.ทบ.ที่อยู่ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทั้งนี้มีสิ่งที่แปลก คือ ลูกสาว เจ้ง้อ ถูกจับที่ จ.นนทบุรี เมื่อสิงหาคม 2564 หลังคดีผ่านมาแล้ว 6 ปี  และเกิดขึ้นหลังจากที่ประเทศไทยถูกลดระดับ เป็น เทียร์สอง วอตช์ลิสต์ ดังนั้นอาจต้องเร่งทำผลงาน 

 

             นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่าหลังจากที่ขยายผลและออกหมายจับ พบว่ามี นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง อดีตนายกอบจ.สตูล ด้วย แต่เลือกมอบตัวกับ  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สมัยที่ดำรงตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. เพราะเคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ดูแล พื้นที่สงขลาและสตูล ปี 54- 55 ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์สำรวจพื้นที่หรือไม่ว่า เคยมีค่ายโรฮิงญากี่แห่ง 

 

 

             นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่าส่วนกรณีของพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยคดีค้ามนุษยย์โรฮิงญา ตามคำให้การของ พล.ต.ต.ปวีณ ระบุว่า หลังออกหมายจับไม่กี่วัน ได้รับสายโทรศัพท์นายตำรวจคนสนิท ของพล.อ.ประวิตร อ้างว่าต้องการให้ปล่อยตัว หลังจากนั้น พล.ท.มนัส ได้มอบตัวกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ขณะนั้น ในกทม. เมื่อถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งตัวตรงจากกรุงเทพไปหาดใหญ่ และเมื่อ พล.ท.มนัส ทราบว่าพนักงานสอบสวนไม่ให้ประกันตัว ไม่พอใจอย่างยิ่ง อ้างว่า ผบ.ตร. อนุญาตให้ประกันตัว ซึ่งเรื่องดังกล่าว พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. สมัยนั้น ฐานะผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.ปวีณ เขียนคอลัมภ์ในหนังสือพิมพ์ระบุว่า ได้ยิน พล.ต.อ.สมยศ พูดกับพล.ท.มนัสว่า เป็นพี่น้องกันจะให้ความเป็นธรรม เมื่อสอบสวนแล้วจะให้ประกันตัวไป เมื่อไม่ได้ประกันตัว พล.ท.มนัสโวยวาย โดนหลอก

            “พล.ต.อ.สมยศ เรียนเตรียมทหารรุ่น15 ส่วนพล.ท.มนัส เรียนรุ่น 16 เป็นพี่น้องกันจริงๆ ตามที่พล.ต.อ.สมยศบอก การไปมอบตัวกับ ผบ.ตร. หากเป็นอาชญากรรมทั่วไปคงไม่ได้รับเกียรติ นอกจากนี้ กรณี ผบ.ตร. และ พล.อ.ประวิตร ต้องการให้ พล.ท.มนัส ได้ประกันตัว เป็นความพยายามไม่เคารพกฎหมาย ใช้เส้นสายเพื่อช่วยพวกพ้อง เพราะคดีนี้เป็นคดีกระทำเกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร คนที่จะสั่งให้ประกันหรือไม่ คือ อัยการสูงสุด” นายรังสิมันต์ อภิปราย

 

            นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่า พล.ท.มนัส มอบตัว ได้ข่มขู่พยานสำคัญและพล.ต.ต.ปวีณ ว่า เป็นคนมีพวก ให้ระวังตัว จากนั้นพล.ต.ต.ปวีณ ยังถูกกดดันจากตำรวจ และทหาร เช่น มีนายตำรวจที่ปัจจุบันเป็นผช.ผบ.ตร. เคยคุมเรื่องตำรวจราบ บอกว่า ทหารไม่พอใจที่ออกหมายจับ พล.ท.มนัส แต่พล.ต.ต.ปวีณ ออกหมายจับนายทหารบก 3 นาย และทหารเรือ 1 นาย แต่เมื่อรายงานให้ พล.ต.อ.เอก ฐานะผู้บังคับบัญชาทราบ ถูกสั่งให้เก็บหมายจับและไม่ให้สื่อรู้ และส่งจดหมายไปให้เงียบๆ ผลที่ตามมา พล.ต.อ.เอก ถูกย้ายออกนอกสังกัดตำรวจไปเป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 

 

            “เรื่องนี้ หากไม่อยากให้สิ่งที่ทำมาสูญเปล่า พล.ต.ต.ปวีณ ต้องสอบสวนเรื่องนี้เสร็จก่อนที่พล.ต.อ.เอก จะถูกย้าย 30 กันยายน 2558 ซึ่งทีมสอบสวนชองพล.ต.ต.ปวีณ สรุปสำนวนส่งอัยการสูงสุด ได้699 แฟ้ม ออกหมายจับ  153 คน  แต่คดีปัจจุบันอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่เมื่อวันที่  21 ตุลาคม 2558 การประชุม ก.ตร. ที่พล.อ.ประวิตรเป็นประธาน ได้ย้ายพล.ต.ต.ปวีณ จากรองผู้บัญชาการภาค8 ไปรักษาราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ ทั้งที่ไม่สมัครใจ และขอทบทวนการสั่งย้าย เพราะพื้นท่ีชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ขบวนการค้ามนุษย์แน่นหนา และอิทธิพลทหารไม่พอใจ พล.ต.ต.ปวีณ จึงเสี่ยงที่กลุ่มผู้เสียประโยชน์จะเอาคืน ผมขอถามพล.อ.ประวิตร ว่า ต้องการให้ พล.ต.ต.ปวีณ จบชีวิตที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ใช่หรือไม่”  นายรังสิมันต์ อภิปราย

 

            นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ให้เหตุผลของการย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ว่า ได้รับคำแนะนำ จาก พล.ต.ท.เทศา ศิริวาดท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8แนะนำ เพราะ เชี่ยวชาญคดีด้านความมั่นคง แต่หลังจากที่ พล.ต.ต.ปวีณ ลี้ภัยเพียงเดือนเดียว พล.ต.ท.เทศา ระบุว่า ไม่เอาไว้เพราะไม่มีวินัย ไม่เชื่อฟัง ทั้งนี้ พล.ต.ท.เทศา คือเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ท.มนัส

 

            “ผมได้คุยกับพล.ต.ต.ปวีณ ส่วนตัว เขาบอกว่า คดีนี้สืบสวนได้อีกมาก ขบวนค้ามนุษย์ขนาดใหญ่ที่คนจำนวนมากลงเรือเข้าน่านน้ำไทย แต่จับทหารเรือยศแต่ นาวาโท 1คน และทหารบก อีก 2 คน เป็นไปได้หรือที่นาวาโทคุมทั้งทะเลอันดามันเปิดทางให้เข้ามาได้ หากได้สืบคดีนี้ต่อไป เชื่อว่า ทัพเรือภาคสาม ได้ละลายทั้งภาค หรือบ้านของพล.ท.มนัส ที่ไม่ได้สืบขยายผลค้นหาหลักฐานอะไร น่าคิดว่ามีทหารเรือ ทหารบกรายอื่นสมคบหรือไม่ หรือสนับสนุนกันทั้งกองทัพหรือไม่ สิ่งที่ใครตั้งคำถามว่าทำให้ทหารรวย นี่เป็นสาเหตุ แท้จริงมีใครใหญ่และสูงกว่า พล.ท.มนัสหรือไม่หรือคนของรัฐบาลที่รอชี้แจงในสภาตอนนี้มีส่วนร่วมหรือไม่ ดังนั้นการขัดขวางสอบสวนของพล.ต.ต.ปวีณเพื่อตัดตอนคดีนี้ และสาวไปไม่ไกลกว่า พล.ท.มนัส ที่เสียชีวิตและซัดทอดใครไม่ได้ ทั้งนี้ผมได้รับข้อมูลจากคนที่เคยยร่วมห้องขังพล.ท.มนัส ว่า ตอนทำรับผลประโยชน์ทุกตน ทำไมตอนโดนโดนคนเดียว หากออกไปได้ จะเอาคืนทั้งหมด ไม่แน่ใจว่าเป็นสาเหตุให้พล.ท.มนัสที่แข็งแรง หัวใจวายตาย” นายรังสิมันต์ อภิปราย

 

            นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่า คำให้การของพล.ต.ท.ปวีณ ระบุด้วยว่า หลังจากการลาออกจากราชการเมื่อ 5 พฤศจิกายน 58 ได้รับสายตำรวจใหญ่ ที่รู้จักในแวดวงชั้นสูง ชื่อ พล.ต.ท. “ฐ” อ้างว่าเบื้องบนได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น และเสียดายหากลาออกจากนั้น ได้เรียนสายกับนายทหารใหญ่มาก พล.อ. “จ." ยศขณะนั้น พล.ท. ยืนยันว่าการย้ายไปภาคใต้ เท่ากับส่งไปตาย ผลของการติดต่อครั้งนั้นทำให้ พบกับ พล.อ.อ. “ส." ข้าราชการชั้นสูงเบอร์ต้นของประเทศ เสนอถอนใบลาออกกับ ผบ.ตร. และเสนอใบสมัครพิเศษ เฉพาะคนที่ถูกเลือกเเข้าไปทำในหน่วยพิเศษ ซึ่ง พล.ต.ต.ปวีณ ได้กรอกประวัติแล้ว แต่ไม่ได้ยื่นเพราะต้องการไม่ได้เข้าหน่วยนี้ ต้องการทำงานปราบการค้ามนุษย์

\"โรม\" เปิดคำให้การ \"พล.ต.ต.ปวีณ\" ขอลี้ภัย โยง \"ประวิตร\" ไม่ปกป้อง \"ขรก.น้ำดี\"

            นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า เมื่อคุยแล้ว พล.อ.อ. "ส.” ให้ตัวเลือกว่าจะทำให้กับเขาหรือทำงานค้ามนุษย์ ในกองบัญชาการสอบสวนกลาง นอกจากนี้มีนายตำรวจระดับสูง คือ พล.ต.อ. “จ.”  ให้ตัวเลือกที่สาม คือ ลาออก แล้วอยู่เงียบๆ 

 

            “พล.ต.ท.ปวีณตอนนั้น เชื่อจริงๆว่า จะได้รับสิทธิเลือกว่าจะรับผิดชอบคดีค้ามนุษย์ในฐานะตำรวจต่อไป เชื่อว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเห็นความสำคัญกับการปราบปรามมนุษย์พร้อมปกป้องคุ้มครอง จึงแจ้งกับ พล.อ.อ. “ส.” และถอนใบลาออกกับ ผบ.ตร. ลงนามต่อหน้านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายคน แต่ตามคำให้การของ พล.ต.ท.ปวีณ ระบุว่า ได้ไปพบกับ ผบ.ตร. คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พี่กับผมไม่มีอะไรกัน ต้องลาออก แล้วอยู่เงียบๆ จากนั้นต่อ สายถึง พล.ต.อ."จ.”  ที่ยืนยันให้ลาออก แล้วอยู่เงียบๆ เป็นบทสรุปว่าไม่ไว้วางใจผู้บังคับบัญชาและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ว่าการเลือกนั้นเป็นชนวนยัดคดีมาตรา 112 ที่มีคดีเสียชีวิตปริศนาในเรือนจำ ทำให้ต้องตัดสินใจลี้ภัย  16 พฤศจิกายน 2558 ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปวีณไม่ยอมเลือกตัวเลือกที่เขาต้องการ” นายรังสิมันต์ อภิปราย

 

            นายรังสิมันต์ อภิปรายด้วยว่ากรณีที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. สมัยนั้นได้คุ้มครอง อะไรหรือไม่ หรือ พล.อ.ประวิตร ฐานะประธานก.ตร. ได้ปกป้องตำรวจน้ำดีหรือไม่ และพล.อ.ประยุทธ์ ได้คุ้มครองตำรวจน้ำดีแบบนี้หรือไม่ รัฐบาลแบบนี้ไม่มีค่าให้ใครไว้วางใจได้ฝากชีวิต 

 

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายรังสิมันต์อภิปรายแล้วเสร็จ ผู้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกชี้แจงต่อที่ประชุมในประเด็นการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวรวมถึงการแก้ปัญหาความยากจน 

 

            ปรากฎว่า นายรังสิมันต์ ได้ลุกขึ้นประท้วงพร้อมขอให้นายกฯชี้แจงในประเด้นที่ตนได้อภิปรายก่อนหน้านี้"ผมเพิ่งอภิปรายเรื่องตำรวจ ท่านนายกฯจะเดินหนีแบบนี้จริงหรือครับ ท่านจะไม่ตอบหน่อยหรือว่าเพราะอะไรคุณปวีณถึงต้องลี้ภัย ท่านจะใจดำอำมหิตแบบนี้จริงๆหรือ" 

            แต่นายสุชาติ ตัดบทว่า นายกฯยังมีเวลาชี้แจงในโอกาสต่อไป ขณะที่นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงขอให้นายรังสิมันต์ถอนคำพูดคำว่า "อำมหิต" 
หลังจากที่นายสุชาติ ได้ขอให้ นายรังสิมันต์ ถอนคำพูด แต่รังสิมันต์ยืนยันว่า ไม่ถอน

            นายสุชาติ จึงระบุว่า ตามขอบังคับหากขอให้ถอนคำพูดแล้วไม่ถอน ก็จะต้องเชิญออกจากห้องประชุม

            โดยนายรังสิมันต์ ยืนยันว่า ตนไม่ถอน และยินดีออกจากห้องประชุม