"นายกฯ" เผยใช้ "ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" จัดประชุม "เอเปค" ปลายปีนี้

"นายกฯ" เผยใช้ "ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" จัดประชุม "เอเปค" ปลายปีนี้

"นายกฯ" เผยใช้ "ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" จัดประชุม "เอเปค" ปลายปีนี้ ลั่น ไทย ต้องหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง เร็วที่สุด มุ่ง แก้จนแบบพุ่งเป้า ระบุ ภาคเอกชน เข้าใจ ไม่ถามถึงสถานการณ์การเมือง ชี้ปมไล่แอมเนสตี้ ต้องใช้กฎหมาย โยน สังคมตัดสิน "ชลน่าน" นั่งหลับในสภา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังนายสแตนลีย์ คัง (Mr. Stanley Kang) ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย(Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: JFCCT) และคณะเข้าเยี่ยมคารวะ ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ถึงการเตรียมความพร้อมจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ ช่วงปลายปีนี้ ว่า เขาแถลงอยู่แล้วเรื่องความคืบหน้า  โดยสถานที่คือ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่สร้างใหม่ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของสิ่งที่มีความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย ส่วนสถานที่จัดเลี้ยงจะเป็นพื้นที่กองทัพเรือ ให้คนได้เห็นว่าประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปแล้วบ้าง 

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้สมาคมหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งทำงานกับเรามาโดยตลอดหลายปี มีความรักประเทศไทย และพร้อมที่จะร่วมมือ ลงทุนในประเทศเราให้มากขึ้น ตนได้ย้ำไปแล้วว่า ไม่ใช่เพื่อเขา และเพื่อเรา แต่ต้องลงทุนให้โลกใบนี้ด้วย ประเทศไทยจะต้องหลุดพ้นจากประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลางให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้มีรายได้สูงขึ้นตั้งแต่วันนี้

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องแก้ไขปัญหาความยากจน บางทีที่ทำงานมาทั้งหมดก็ตอบสนองได้ไม่ครบ เพราะเป็นก้อนใหญ่ บางคนเข้าถึง บางคนเข้าไม่ถึง นี่คือ นโยบายของเรา และนอกจากนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน แบบพุ่งเป้าแล้ว ยังมีเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้สิน จึงต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อลดภาระ หนี้ก็คือหนี้ เราไม่สามารถที่จะเอาเงินไปอุดหนุนเขาได้ทั้งหมด

นายกฯ กล่าวว่า ขณะที่หนี้สาธารณะ ก็ได้มีการแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย จะมีการชี้แจงในสภาฯ อะไรผิดอะไรถูก ก็ให้ว่ากันไป โดยภาคเอกชนไม่ได้มีการสอบถามถึงสถานการณ์การเมืองแต่อย่างใด ไม่เคยถามอะไรตน ในเรื่องการเมือง เพราะเขาคิดว่าประเทศไทยอย่างไรก็อยู่ได้ เขาเข้าใจ และเห็นว่าการพัฒนาประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาตามลำดับ และต่อเนื่อง เขาเข้าใจดีเนื่องจากอยู่มาหลายปีแล้ว อะไรที่ไม่เป็นสาระเขาก็ไม่สนใจ วันนี้โลกเปลี่ยน เราก็ต้องปรับขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกคน อยู่บนฐานข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ไม่ใช่เอาอันนั้นอันนี้มาพูด รัฐบาลพูดอย่างนั้นไม่ได้รัฐบาลต้องเอาทุกภาคส่วนมาวิเคราะห์ข้อมูล ถ้าเอาข้อมูลอันใดอันหนึ่งมาพูดเพียงอันเดียวไม่ได้ เพราะไม่ใช่ข้อมูลที่จะนำไปสู่การปฏิบัติได้เลย เมื่อเช้าตนก็ฟังอยู่ แต่ไม่ว่าอะไรเขาหรอก

เมื่อถามว่า รู้สึกสบายใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะว่าสบายก็ไม่ใช่ ตนไม่ได้เอาชนะใคร แต่ต้องการทำงานของตนให้สำเร็จ และการทำงานของตนก็ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด้วย ที่ทำงานกับตนมาหลายปี กว่าจะถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่ง่าย สิ่งแรกที่สำคัญซึ่งคนอาจจะลืม เรื่องปัญหาความขัดแย้งลดลง ซึ่งความขัดแย้งอยู่ในเวทีบางเวที ในโซเชียลมีเดีย เมื่อเราไม่สนใจ มันก็จบ

ส่วนเครือข่ายพสกนิกรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ยื่นหนังสือขับไล่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย นายกฯ กล่าวว่า ก็รับมา ต้องใช้กฎหมาย จะมาตีกันเองไม่ได้ ยิ่งใช้นอกกฎหมายยิ่งมีปัญหา

ทั้งนี้ กรณีนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำท่าทีเหมือนหลับ หลังลุกขึ้นเปิดอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ก่อนนายกฯ จะลุกขึ้นชี้แจง นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาคงเตรียมการข้อมูลดึกไปมั้ง นอนไม่หลับ ก็แล้วแต่ท่าทีกิริยา ขอสังคมเป็นผู้ตัดสินเอง

 

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์