“ประยุทธ์” ขู่ยุบสภา ขี่พรรคร่วม “ภท.” แก้บ่วงสายสีเขียว สะสมไมล์ 4 ปี

เรียบร้อยโรงเรียนตู่ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาศัยสถานการณ์ทางการเมืองที่บีบคั้น จี้ใจดำไปที่พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะภูมิใจไทย ไม่ให้แตกแถวได้สำเร็จ

โดยในวงหารือไม่เป็นทางการระหว่างนายกฯ และแกนนำรัฐบาล หลังเสร็จการประชุม ศบค. เมื่อ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีหลายคนร่วมด้วย ไฮไลท์สำคัญหนีไม่พ้น อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ ศักดิ์สยาม ชิดชอบรมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์เล่นเกมจิตวิทยา เปรยว่ามีทางเลือกไม่มากนัก พร้อมกับหล่นคำว่า “ยุบสภา” กลางวง จนเป็นที่มาของซีนที่ “อนุทิน”โพล่งขึ้นมาทันทีว่า “ท่านนายกฯ มีทางเลือกเดียวคืออยู่ครบเทอม”

พร้อมกับการยืนยันของอนุทินว่า ฝ่ายค้านจะรวมเสียงได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ส่วนเสียงสนับสนุน นายกฯ มั่นใจจะสามารถหาได้ไม่น้อยกว่า 260 เสียงอย่างแน่นอน

ก่อนที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะควักโพยโชว์ตัวเลข 260 ส.ส. ในมือกางให้นายกฯ ดู ซึ่งส่วนนี้ยังไม่นับกลุ่มส.ส.ของพรรคเศรษฐกิจไทย นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา

บางช่วงของการหารือ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเปรยทีเล่นทีจริงตามสไตล์ ทำนองว่า “ถ้ามีปัญหามากก็ย้ายไปอยู่ภูมิใจไทยให้หมด” ทำเอาเลขาฯ พรรคค่ายสีน้ำเงิน ต้องรับลูกทันควันว่า ถ้าอย่างนั้นต้อง “คนละครึ่ง” เรียกเสียงฮา กลบความตึงเครียดไปชั่วขณะ

ท่าทีของ อนุทิน สะท้อนชัดว่า “ภูมิใจไทย” ก็มีทางเลือกไม่มากเช่นเดียวกัน คือต้องถูลู่ถูกังกันไปให้ครบเทอม

แม้จะมีประเด็นขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เข้ามาสร้างความไม่ลงรอยกันอยู่บ้างก็ตามหลังจุดยืนของภูมิใจไทย บอยคอตเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด สวนทางกับท่าทีของคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่ ที่อยากให้เร่งสะสางปัญหาให้ลุล่วง

จึงอาจได้เห็นบทบาทหยวนๆ ของภูมิใจไทยในเรื่องนี้ แทนเกมแตกหัก หรือถอนตัวร่วมรัฐบาลเพื่อสะสมไมล์อยู่ต่อไปให้ครบวาระ 4 ปี

ความเคลื่อนไหวภายในของภูมิใจไทยเวลานี้ จึงพยายามหาทางออกอย่างเคร่งเครียด ระหว่างการประชุมพรรคล่าสุด เพื่อรับมือศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ในสมัยประชุม พ.ค.นี้

ที่ค่อนข้างแน่นอนว่า ฝ่ายค้านจะนำเผือกร้อนรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาเป็นประเด็นชำแหละรัฐบาลกลางลานประหารอย่างเลี่ยงไม่ได้

ครั้นภูมิใจไทยจะสงวนสิทธิ "โหวตโน" ในวง ครม. แล้วไปโหวต “ไว้วางใจรัฐบาล” ในศึกซักฟอกก็จะขัดกับจุดยืนของพรรค แต่ถ้าหากโหวต "ไม่ไว้วางใจ" หรือ "งดออกเสียง" ก็จะกระทบกับสถานะของรัฐบาล 

ดังนั้น ปมร้อนเรื่องการขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว อาจเป็นเงื่อนไขที่ภูมิใจไทยต้องหาทางแก้บ่วงนี้ด้วยตัวเอง ว่าจะให้พรรคยืนอยู่ได้อย่างไร

เมื่อใจหนึ่งก็ค้านการต่อสัมปทาน แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะอยู่ในอำนาจแบบม้วนเดียวจบ เพราะไม่มั่นใจว่าหาก เลือกตั้งเร็วด้วยบัตร 2 ใบ จะได้ ส.ส.มากน้อยกว่าครั้งก่อนหรือไม่

ที่สำคัญ “คนแดนไกล” ยังแค้นฝังหุ่น ปม“เนรคุณ”หักหลัง ถึงขนาดมีประกาศิตว่า ภูมิใจไทยจะเป็นพรรคสุดท้ายที่จะดึงมาร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยเลยทีเดียว 

ฉะนั้น การยื้อ หรือเกาะเกี่ยวในอำนาจให้นานที่สุด อาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุดในขณะนี้

การเมืองตานี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังพลิกเกมขี่พรรคร่วม ด้วยเงื่อนไข “ยุบสภา” ที่เป็นของแสลงของนักเลือกตั้ง ที่อยากอยู่ ตุนกระสุนให้สุดลิ่ม จนถึงนาทีสุดท้าย