"ชินวรณ์" ประณามเกมล่มสภาของฝ่ายค้าน-สั่งสอบส.ส.รัฐบาลขาดแสดงตน

"ชินวรณ์" ประณามเกมล่มสภาของฝ่ายค้าน-สั่งสอบส.ส.รัฐบาลขาดแสดงตน

"ชินวรณ์" ประณามเกมล่มสภาของฝ่ายค้าน จี้ "สุชาติ" ประสานงานทุกฝ่ายใกล้ชิด พร้อมสั่งสอบส.ส.รัฐบาลขาดแสดงตนเกิน10ครั้ง - ยันไม่เล่นเกมนับองค์ประชุม ระหว่าง ฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไป

         นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงถึงกรณีสภาฯล่มเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ระหว่างการพิจารณารายงานประจำปีของหน่วยงานต่างๆ ว่า ตนขอประณามการกระทำของพรรคเพื่อไทย เพราะจงใจใช้สภาฯ เป็นเกมทางการเมือง เพื่อให้สภาฯล่มต่อเนื่อง และหวังผลให้สภาเป็นตัวประกันทางการเมือง  ทั้งนี้หลังจากเหตุการณ์สภาล่มตนได้หารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงการปรับปรุงการประสานงานในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมนี้ให้เข้มข้นขึ้น

 

 

        นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมล่ม แบ่งได้เป็น 3 กรณี   คือ 1.ฝ่ายค้านเล่นเกมในสภากับพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้านเล่นเกมกับฝ่ายค้าน , 2.กรณีไม่แสดงตน จะเกิดขึ้นเมื่อฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับกฎหมายหรือญัตติสำคัญ แต่หากไม่แสดงตนเพราะอยากให้สภาฯ ล่มนั้น ตนคิดว่าคณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นประธาน ต้องหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้เมื่อวานนี้ที่ตนไม่ได้แสดงตน เพราะลงมาติดตามความคืบหน้า ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติราชทัณฑ์(ฉบับที่...) พ.ศ....  เมื่อมีการเสนอนับองค์ประชุมพร่ำเพรื่อก็กระทบต่อส.ส.ที่ตั้งใจทำงาน ตนอยากเรียกร้องให้ผู้เสนอนับองค์ประชุมและผู้ไม่แสดงตนรับผิดชอบด้วย 

        นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า 3.กรณี ส.ส.ไม่แสดงตนต่อเนื่องหลายครั้งติดต่อกัน วิปรัฐบาลเห็นว่าควรจะร้องขอไปยังพรรคการเมืองกำชับส.ส.ของพรรค  และตนเห็นว่าหากไม่แสดงตนเกิน 10 ครั้งควรตรวจสอบ และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตนได้รับมอบหมายจากนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้หารือกับพรรคการเมืองต่างๆ ว่าเหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ขอให้ร่วมมือกันรับผิดชอบองค์ประชุมและภาพลักษณ์ของสภาฯ

 

         นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า จากการหารือกับนายชวนว่า ในวันที่ 17-18 กุมภาพันธ์ สภาฯ มีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 152 จะให้ความร่วมมือกับฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ แม้ ส.ส.รัฐบาลแม้จะมีสิทธิพูดตามรัฐธรรมนูญ แต่เราจะใช้โอกาสนี้ให้น้อยที่สุดและให้รัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจง ฉะนั้นหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี และหวังว่าฝ่ายค้านจะไม่เสนอนับองค์ประชุมในญัตติตนเอง

        เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการประชุมจะไม่ล่มอีก นายชินวรณ์ กล่าวว่า การที่สภาล่มติดต่อกัน ทำให้ภาพลักษณ์ของสภาเสียหาย และฝ่ายที่เสียหายมากที่สุดคือฝ่ายนิติบัญญัติ โดยเฉพาะฝ่ายค้าน เพราะญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุมเป็นเรื่องของ ส.ส.ทั้งหมด ในญัตติรายงานเรื่องที่กมธ.พิจารณาเสร็จแล้วเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าจะมีการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ซึ่งเป็นญัตติของฝ่ายค้าน ฉะนั้น ตนมั่นใจว่าถ้าฝ่ายรัฐบาลให้ความร่วมมือในการประชุม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชี้แจงอย่างเต็มที่ตามเวลาที่กำหนด ทุกคนเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลง ก็ไม่มีปัญหา  และตนยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ขอนับองค์ประชุมในระหว่างการอภิปราย   และจะให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

 

           "สัปดาห์สุดท้ายก่อนปิดประชุมสมัย จะมีการพิจารณากฎหมายที่เสนอโดยทุกฝ่าย คือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งก็เกือบจะไม่มีประเด็นข้อขัดแย้งแล้ว มีเพียงเรื่องกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น ในประเด็นการกำหนดหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และส.ส.เขต ว่าจะให้เป็นหมายเลขเดียวกันหรือไม่ และในส่วนการจัดทำไพรมารี่โหวต มีการเห็นแย้งว่าควรทำตามขั้นตอนเดิม หรือควรให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเด็นนี้สามารถไปหารือในชั้นกมธ.ได้ ตนในฐานะรองประธานวิปรัฐบาลขอความร่วมมือจากเพื่อสมาชิกรัฐสภาทุกฝ่ายว่า เรายังเหลือเวลาอีก 2 สัปดาห์ก็ควรจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้ต่อเนื่อง" นายชินวรณ์ กล่าว

 

         นายชินวรณ์ กล่าวมั่นใจว่าสภาชุดนี้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยเมื่อเปิดประชุมสมัยหน้า มีวาระสำคัญ 2 วาระ คือ 1.พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ที่เสนอโดยรัฐบาล ซึ่งฝ่ายรัฐบาลยังมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน และที่ผ่านมาไม่เคยมีการนับองค์ประชุมเรื่องนี้ และไม่เคยเห็นฝ่ายค้านล้มพ.ร.บ.งบฯ ได้  และ 2.การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ ตามมาตรา 151 หากฝ่ายค้านอยากล้มรัฐบาลจริงๆ ก็ขอให้ใช้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ.