"อนุทิน" เผยปม "สายสีเขียว" บทจบอาจโหวต ใน "ครม."

"อนุทิน" เผยปม "สายสีเขียว" บทจบอาจโหวต ใน "ครม."

"อนุทิน" ชี้ รอความชัดเจน สายสีเขียว ปม โอนทรัพย์สินจาก รฟม. ให้ กทม. ยัน มีสิทธิสงวนความเห็น ถ้ายังผิด ไม่ใช่ใครอยากทำอะไรก็ได้ ต้องแก้ให้ถูก ทุกฝ่ายรับได้ หากไม่ได้จริง พร้อมมอบให้ "ครม." โหวต โยนถาม "นายกฯ" เสี่ยงตายคาสภาหรือไม่ ย้ำ สัมพันธ์ยังปึ้ก

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ 7 รัฐมนตรีของพรรค ไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่พิจารณาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในอนาคตหรือไม่ ว่า ต้องดูเป็นประเด็นๆ ไป เพราะกระทรวงคมนาคม ได้ทำความเห็นออกมาแล้วเป็นหนังสือ 8 ฉบับ และหากกระทรวงคมนาคมคลายความกังวลหรือข้อวิตกแล้วก็ดำเนินต่อไปได้ เราไม่ได้ไม่เห็นชอบเรื่องต่อหรือไม่ต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่เราต้องการความชัดเจนขอให้ทำตามขั้นตอนที่ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังขาดอยู่คือ เรื่องการรับโอนทรัพย์สินจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มอบให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ถือเป็นส่วนเดียวที่คมนาคมเกี่ยวข้อง 

เมื่อถามว่าหากสุดท้ายกระทรวงมหาดไทย และกทม. แก้ไขแล้วยังไม่ตรงกับที่กระทรวงคมนาคมต้องการจะมีผลอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถามนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว นี้เป็นเรื่องความเห็นของการทำงานที่ ครม. มีสิทธิเห็นไม่ตรงกันได้ 

“ถ้าให้ภารกิจนี้เดินต่อไป ก็ต้องลงมติ แต่ถ้าคนที่เห็นว่ายังผิดอยู่เขาสามารถสงวนสิทธิได้ และเป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ทำมา ไม่ได้ขัดขวางอะไรเลย และที่เราไม่เข้าประชุม ครม. เพราะเห็นมีการบรรจุวาระดังกล่าวเข้ามาล่วงหน้า และก่อนหน้านี้ก็ได้นำความกราบเรียนนายกฯ ตลอดเวลา เรามีความลำบากใจในประเด็นนี้ และถ้าจะให้ผ่านไปโดยไม่ต้องทะเลาะโต้เถียงกันหรือปะทะคารมกัน ชี้แจงกันไปกันมาทำให้บรรยากาศการประชุมเสียเราจึงทำความเห็นเป็นหนังสือชี้แจงเหตุผลของทั้ง 7 คนไป ซึ่งเราก็นึกว่าเรื่องผ่านไปแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า หลังการประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมา ได้ชี้แจงกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ชี้แจงแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นวันอังคาร ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกฝ่ายรับทราบกันหมด ทั้งทีมงานนายกฯ ก็ได้ประสานงานโทรคุยกันหมด 

เมื่อถามว่า พรรค ภท. เล่นไม้เดิมเวลาพิจารณาเรื่องนี้ ก็จะมีคำถามใหม่ของกระทรวงคมนาคมเพิ่มมาตลอด นายอนุทิน กล่าวว่า ภูมิใจไทยเล่นอะไร ไม่ได้เล่นอะไรเลย ถามนำอีกแล้ว ตรงไปตรงมา 

เมื่อถามย้ำว่า การที่รัฐมนตรีไม่เข้าประชุม ครม. 7 คน เป็นการส่งสัญญาณต่อไปจะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในเรื่องสายสีเขียวใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลไหน ไม่ใช่พวกมากลากไป ไม่ใช่ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้ ถ้าคิดอย่างนั้นได้ก็ไม่ต้องมีอะไรมาเข้าที่ประชุม ครม. อย่างนี้ถ้าตนอยากบรรจุข้าราชการสาธารณสุขอีก 5 หมื่นคน ตนก็ทำได้เลย ไม่ต้องมาเข้า ครม.ไม่ต้องมาขอ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไม่ต้องขอ ผอ.สำนักงบประมาณ เพราะสุดท้ายต้องเป็นเรื่องที่เราต้องมาหารือในรัฐบาล และหากประเด็นยังค้างคาก็ต้องนำไปแก้ไขให้ถูกต้องทุกฝ่ายรับได้ นั้นคือ เป้าหมาย ถ้าหากรับไม่ได้จริงๆ ก็ต้องโหวต

นายอนุทิน กล่าวว่า พรรค ภท. เห็นว่ามี ครม.มี 36 คน ถ้าจะผ่านให้ได้โหวตอย่างไรเราก็แพ้อยู่แล้ว เพราะมีเสียงเพียง 7 ต่อ 36 แต่ทำไมเราต้องไปถึงจุดนั้น ทำไมต้องทำความลำบากใจมาให้นายกฯ เราจึงทำหนังสือสงวนสิทธิ์ของเราไปให้นายกฯ และหากนายกฯ เห็นว่ามันต้องผ่านก็ผ่านมติ ครม.ก็นำไปปฏิบัติได้ แต่ถ้ามีเรื่องราวอะไรภายหลังร้องเรียนคดีความต่างๆ ครม.ก็ต้องรับผิดชอบส่วนบุคคลอยู่ แต่รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรค ภท. ก็มีหนังสือยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่นำเสนอในวันที่ 8 ก.พ.65 ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ในรัฐบาลเพราะยังดีอยู่ ปึ้กแน่นอน ฟังเสียงปึ้กดูก็รู้

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอย้ำว่าถ้ามีการปรับปรุงอะไรแล้วเราไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายโอนทรัพย์สินระหว่าง รฟม. และกทม. เพราะยังเป็นสมบัติของ รฟม. ที่เป็นหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม ซึ่ง กทม.ก็ควรโอนให้เรียบร้อย รฟม.พร้อมแล้ว 

เมื่อถามถึงสัญญาณทางการเมืองที่เกิดขึ้นต่างๆ หลายคนมองว่าน่าจะมีการยุบสภา นายอนุทิน กล่าวว่า หลายคนที่ว่าอยู่ข้างนอกทั้งนั้น หลายคนที่ว่านั้นอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ได้คุยไลน์กับ พล.อ.ประยุทธ์ และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หลายคนที่ว่านั้นรู้ว่าในไลน์กลุ่มคณะรัฐมนตรี (ครม.) คุยอะไรกันหรือไม่ อย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่เหตุบังเอิญที่จะไปเรียกร้องหรือต่อรอง ถ้าต่อรองไม่มีแค่ 7 รัฐมนตรีหรอก 

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเศรษฐกิจไทยลงมติเห็นชอบกับร่างกฎหมายที่พรรคฝ่ายค้านเสนอ นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนนี้ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ส่วนที่มีภาพตนกับ ร.อ.ธรรมนัส นั้น ตนเดินผ่าน จะไม่ให้ทักได้อย่างไรเพราะเป็นเพื่อนกัน ขณะที่รัฐบาล ส่วนรัฐบาล สภาส่วนสภา 

นายอนุทิน กล่าวว่า การไปของรัฐบาลมาจาก 1.นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง 2.นายกฯ ลาออก 3.นายกฯ ยุบสภา และ 4.รัฐบาลไม่ได้รับความไว้วางใจ ในส่วนนี้ต้องรวมที่ตัวนายกฯ ด้วยเรื่องเหล่านี้มีข้อกำหนดอย่างชัดเจน 

เมื่อถามว่า หากความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเศรษฐกิจไทย ยังเป็นแบบนี้อยู่ มีโอกาสเสี่ยงที่จะตายคาสภา และยุบสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามคนที่ยุบสภา เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด สิ่งที่เราทำได้ไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ.65 คือ การทำหน้าที่ของเรา โดยทำหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยงการโต้เถียงและความเห็นที่ไม่ตรงกันในที่ประชุม ครม. เรื่องนี้เป็นเรื่องการทำงานของแต่ละคน เราไม่ใช่นักบู๊ และตีรันฟันแทง เราใช้สติทำงาน

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะไปเพราะศัตรู จนทำให้มีอันเป็นไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลเป็นของประชาชน ไม่มีศัตรู เพราะรัฐบาลมีศัตรูไม่ได้ 

เมื่อถามว่า ในการประชุม ครม.สัปดาห์ต่อไป รัฐมนตรีของพรรค ภท. จะเข้าประชุมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว และเคลียร์กันหมดแล้ว จากนี้ไปจะไม่มีการไม่เข้าประชุม ครม.แล้ว ถ้าเข้าประชุมหมายความว่าพร้อมที่จะรับฟัง นายศักดิ์สยาม จะเข้ามาซักถามหรือโต้แย้ง หากนายกฯ เห็นว่ามีความจำเป็น และต้องดำเนินต่อไปในทางใดทางหนึ่ง นายกฯ ก็สามารถสั่งการได้ เราถือว่าเราหลบและหมอบแล้ว ในเรื่องของความเห็นไม่ตรงกัน พูดให้ชัดเจนคือ เมื่อถึงเวลาโหวตแล้วไม่เกิดการแก้ไขอะไรเลย เราก็โหวตโน แต่ถ้าแก้ไขมาและไม่มีความกังวลว่าจะมีอะไรตามมาบ้างหลังจากที่พ้นตำแหน่ง และถูกต้องตามกระบวนการทุกอย่าง ค่าโดยสารถูกลง เรามีแต่จะเร่งให้รีบโอน และทำให้สำเร็จโดยเร็ว  

เมื่อถามว่า หากไม่โหวตร่วมกับ ครม. จะรอดพ้นจากความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ก้าวก่ายแล้ว เพราะเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ไม่โหวตเพราะกลัวว่าเราจะเป็นอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ผิดกฎหมาย เป็นไปตามขั้นตอน ประชาชน ประเทศชาติ และรัฐบาลต้องได้ประโยชน์เราพยายามอยู่ในแนวทางนี้ 

เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นการกดดันให้นายกฯ หนักใจ และให้นายกฯต้องเลือกระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กับนายอนุทิน ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ส่ายหัวพร้อมกล่าวเสียงดังว่า “ระหว่าง พล.อ.อนุพงษ์ กับนายอนุทิน ไม่ต้องถามเลยว่านายกฯ จะเลือกใคร ท่านเป็นพี่น้องกัน ผมรู้สี่ รู้แปด รู้ใหญ่ รู้เล็ก ไม่ได้เทียบกันตรงนั้นคนละเรื่องกัน ผมไม่ต้องการให้เลือก เพราะต้องเลือกประชาชน”

เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงว่า หากประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวยังไม่จบ อาจจะทำให้มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 157 นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำตามหน้าที่ ที่พึงปฏิบัติทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร มีแต่เจตนาที่จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชน มุมมองของแต่ละฝ่ายแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติของการทำงาน 

เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ นายอนุทิน กล่าวว่า ควรจะพิจารณาให้รอบคอบ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับความเป็นความตายเหมือนกัน ใน ครม.ชุดนี้ มีคนที่เคยเข้าฟังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาแล้วกี่คน ตอนนี้มีแค่ตน นายวิษณุ เท่านั้นที่เคยเข้าไปฟังศาล ถามว่ามีความสุขหรือไม่ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ตอนเข้า ครม.ทุกอย่างก็ถูกหมด สุดท้ายเป็นอย่างไร ทั้งเรื่องกล้ายางห้องแล็บ ซีทีเอ็กซ์ หวย 

เมื่อถามว่า ไม่อยากซ้ำรอยแบบเมื่อตอนคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ครั้งเดียวก็เกินพอ 

เมื่อถามว่า แสดงว่าความเห็นของ 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ยืนยันว่าทำได้ เชื่อไม่ได้ ใช่หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่รู้ เรื่องความรับผิดชอบส่วนตัวเราไม่เอาแล้ว  และเรื่องแบบนี้ไม่ตอบหรอก อัตตาหิ อัตตโน นาโถ

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์