เบี้ยหัวแตก โจทย์ใหญ่ค่าย“ประยุทธ์” เกมเสี่ยงบัตร 2 ใบ ชนขั้ว “โทนี่”

เบี้ยหัวแตก โจทย์ใหญ่ค่าย“ประยุทธ์” เกมเสี่ยงบัตร 2 ใบ ชนขั้ว “โทนี่”

หาก "พล.อ.ประยุทธ์" ยังลังเล ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร ปล่อยให้พวกเดียวกัน ต่างคนต่างเดินแบบไร้ยุทธศาสตร์ ก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าพรรคคนแดนไกลจะฉลองชัยชนะแลนด์สไลด์ล่วงหน้า

อาการไม่สู้ดีขั้นสูงสุดสำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องเผชิญศึกรอบด้าน รุมขย่มให้ร่วงคาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

สถานภาพของสภาที่ร่อแร่ องค์ประชุมล่มเป็นว่าเล่น ย่อมเป็นแรงกดดันรัฐบาลให้ยุบสภาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อไม่สามารถทำงานผ่านกฎหมายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง และประชาชนได้

 

บวกกับ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเผชิญแนวรบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คู่แค้นฝังหุ่น ที่ขน 20 ส.ส. ไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย จนกลายเป็นตัวแปรสำคัญให้เสียงของรัฐบาลง่อนแง่นเข้าไปทุกขณะ

 

สร้างความวิตกกังวลให้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเห็นได้ชัด ช่วงหลังมานี้ โทนเสียงการให้สัมภาษณ์ดูจะแผ่วลงชัดเจน ต่างจากช่วงก่อนหน้านี้ มักพูดเสียงดังฟังชัด ว่าไม่ยุบสภา หรือไม่ปรับ ครม.

เนื่องจากรู้ดีว่า คิวอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงเปิดสมัยประชุมสภา พ.ค.นี้ สุ่มเสี่ยงจะโดนคว่ำทางออกที่ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาคือ ต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตาม รับข้อเสนอ “ปรับ ครม.” ให้พรรคเศรษฐกิจไทย แต่ก็คงไม่ใช่คำตอบของคนชื่อประยุทธ์อย่างแน่นอน

เกมยุบสภาหนีศึกซักฟอก จึงถูกคาดหมายว่า “นายกฯ” อาจตัดสินใจใช้วิธีนี้เพื่อผ่าทางตัน ไม่ช้าไม่นานจากนี้ เพื่อเลือกตั้งกันใหม่

พลังประชารัฐ” ที่ระส่ำอย่างหนัก ส.ส.แทบทุกโซนต่างเตรียมกระโดดหนีหาบ้านใหม่กันเป็นแถว พรรคการเมืองพรรคนี้อาจเป็นคำตอบสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่พร้อมใช้งานทันที ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องลงมาคุมทัพเอง เพื่อหยุดภาวะเลือดไหล ฟื้นกระแสความนิยมขึ้นมาใหม่

หรืออาจตัดสินใจทิ้งพลังประชารัฐ ไปปลุกปั้นพรรคการเมืองใหม่ โดยเฉพาะ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่ใครก็รู้ว่าเป็นพรรคจริงสายตรงประยุทธ์

การเลือก “พลังประชารัฐ” หรือ “รวมไทยสร้างชาติ” ล้วนมีเงื่อนไขให้ต้องขบคิดหลายชั้น หากเลือกเกมยึด “พลังประชารัฐ” จะเคลียร์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้พ้นทาง เพื่อเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคแทนได้อย่างไร

ในทางกลับกัน หากเลือก “รวมไทยสร้างชาติ” ที่การเซ็ตอัพพรรคยังไม่ชัดเจน จะทันเวลาพร้อมใช้งานหากต้องยุบสภาแบบกะทันหันหรือไม่

ที่สำคัญ การเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยระบบบัตร 2 ใบ ดูจะไม่ตอบโจทย์ฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ แม้แต่น้อย เมื่อพรรคแกนหลักอย่างพลังประชารัฐ แตกแยกย่อย มีพรรคเกิดใหม่ และเตรียมจะเปิดตัวตามมาอีกหลายพรรค เมื่อถึงเวลาย่อมจะดึงคะแนนเสียงในฟากฝั่งเดียวกัน

ลองประเมินคร่าวๆ จะเห็นว่าพลังประชารัฐ หรือรวมไทยสร้างชาติ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เลือกพรรคไหนก็ตาม ย่อมถูกพรรคอื่นๆ เช่น พรรคกล้า พรรคไทยภักดี พรรคสร้างอนาคตไทย พรรคไทยสร้างสรรค์ หรือแม้แต่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่เว้นแม้แต่ ประชาธิปัตย์ พร้อมแชร์คะแนนกัน จนกลายเป็นเบี้ยหัวแตก

ดังนั้น โจทย์ใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำอย่างไร ให้พรรคการเมืองที่จะรองรับการขับเคลื่อนการเมืองกระดานต่อไป สามารถรวบรวมขุนพลเป็นปึกแผ่น กลายเป็นพรรคใหญ่สอดคล้องกับระบบเลือกตั้งใหม่

หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังลังเล ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร ปล่อยให้พวกเดียวกันต่างคนต่างเดินแบบไร้ยุทธศาสตร์ ก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าพรรคคนแดนไกลจะฉลองชัยชนะแลนด์สไลด์ล่วงหน้า

ไม่เว้นแม้แต่ “ก้าวไกล” ที่เคยส่ายหน้า ไม่เอาระบบบัตร 2 ใบ ก็อาจจะได้ ส.ส.แบบคาดไม่ถึงเพราะฐานเสียงที่สนับสนุนไม่สวิงหายไปไหน จึงมีโอกาสจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยได้ในอนาคต ก็ไม่แน่

โดยมีตัวแปร อย่างพรรคเศรษฐกิจไทยที่เตรียมเปลี่ยนชื่อ และโลโก้พรรค เข้าร่วมรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” ได้อีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่พรรคภูมิใจไทย ที่ต้องจับตา เพราะมักเลือกข้างอยู่กับผู้ชนะ เกาะเกี่ยวอยู่ในอำนาจมาได้ตลอดต่อเนื่อง

ทุกก้าวของ พล.อ.ประยุทธ์ นับจากนี้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กลับเต็มไปด้วยหลุมพรางและขวากหนามดักรอรายทาง เลยต้องลุ้นกันว่า จะฝ่าเส้นทางวิบากไปได้ไกลแค่ไหน

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์