แม่หมอกระต่าย ร้อง "กมธ.กฎหมาย" สอบคู่ขนาน ห่วงคดีเงียบ

แม่หมอกระต่าย ร้อง "กมธ.กฎหมาย" สอบคู่ขนาน ห่วงคดีเงียบ

แม่หมอกระต่าย พร้อมทนายความยื่น กมธ.กฎหมายฯ ขอให้ตรวจสอบ คดี คู่ขนาน หวั่นเรื่องเงียบหาย เผยปมคาใจ ใช้ความเร็วเกินกำหนด

         นางรัชนี สุภวัตรจริยากุล มารดาของพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย พร้อมด้วยนายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฏหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่พญ.วราลัคน์ ถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชนที่ทางม้าลายจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนกมธ.มารับหนังสือ

 

         โดยนางรัชนี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนไม่อยากให้ลูกสาวตายฟรี และตนก็รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวอีกคนที่มีลูกซึ่งหวาดกลัวไม่กล้าข้ามถนน จึงอยากให้สังคมพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ตนขอความกรุณาจากรัฐสภา ช่วยชี้นำสังคมให้ร่วมกันพัฒนาประเทศและอย่าให้คดีของหมอกระต่ายเงียบหายไป เหมือนคดีอื่นๆ  เพราะจะไม่ส่งผลดีต่อประเทศ 

       "ลูกสาวของแม่ไม่ได้ข้ามถนนด้วยความประมาท หลายคนอาจจะมองว่าเวลาเกิดปัญหาแบบนี้ เป็นการโยนความผิดให้ผู้ใช้ถนนซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง เพราะเป็นการจากไปที่ไม่มีโอกาสได้ป้องกันตนเอง ไม่มีโอกาสได้ รักษา เพราะหากขับรถมาเบากว่านี้อาจได้รักษา แต่ลูกสาวแม่เสียชีวิตคาที่ แม่รับไม่ได้ ขอให้ประชาชนทุกคนช่วยให้กำลังใจ ให้ความเป็นธรรม และหน่วยงานต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบด้วย" นางรัชนี กล่าว

 

        ด้านนายณัฐพล กล่าวว่า ของกมธ.การกฎหมาย ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนาน เพราะผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตนไม่ได้หมายความว่าไม่เชื่อใจตำรวจ แต่ต้องการให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้นละเอียด โดยเฉพาะประเด็นที่ครอบครัวหมอกระต่ายคาใจ คือ การบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะจุดที่เกิดเหตุเป็นทางม้าลายแต่กลับมีรถวิ่งด้วยความเร็ว ทั้งที่เป็นพื้นที่ใกล้โรงพยาบาล ที่ควรจำกัดความเร็ว 

 

            "มีคนบอกว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้ความเร็วเกิน 80 กม. ทั้งที่จุดตรงนั้นเป็นแหล่งชุมชนและใกล้โรงพยาบาล เป็นการใช้ความเร็วเกินไปหรือไม่ เพราะเมื่อปี 2564 มีการออกกฎกระทรวงโดยนายกรัฐมนตรีเรื่องการจำกัดความเร็ว ถามว่ามันครอบคลุมแล้วหรือ เพราะจุดตรงนั้นควรจะใช้ความเร็วได้ 20-30 กม. อีกทั้งนักวิชาการต่างๆ ก็คงจะบอกได้ว่าหากรถใช้ความเร็วเกิน 80 กม. ชนคนจะเท่ากับคนตกตึกกี่ชั้น จึงอยากฝากให้กมธ.กฏหมายฯ ช่วยดูว่ากฎหมายลำดับรองเพียงพอแล้วหรือยัง การบังคับใช้กฎหมายมีอะไรบ้าง"นายณัฐพล กล่าว

 

            ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะโฆษกกมธ. กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพญ.วราลัคน์ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสะเทือนใจ ซึ่งกมธ.กฏหมายจะให้ความสำคัญอย่างแน่นอน เพราะในกรณีนี้มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้การเดินทางเท้าและการข้ามถนนมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งในระยะหลังมีการตื่นตัวในเรื่องนี้แต่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งต้องเข้าไปปรับปรุงแก้ไขระเบียบ ข้อบังคับ กฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งหลังจากนี้กมธ.จะไปพูดคุยร่วมกันและหารือกันว่าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใด อาทิ กรมการขนส่งทางบก สตช. กรุงเทพมหานคร รวมถึงบุคคลอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าครอบครัวจะได้รับความเป็นธรรมและมาร่วมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาบ้าง ป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก