“ธาริต” แห้ว! ศาล รธน.ชี้ต้องมีหน้าที่พิสูจน์ทรัพย์สินคดีรวยผิดปกติ 53 ล.

“ธาริต” แห้ว! ศาล รธน.ชี้ต้องมีหน้าที่พิสูจน์ทรัพย์สินคดีรวยผิดปกติ 53 ล.

“ธาริต-เมีย” แห้ว! ศาล รธน.มติเอกฉันท์ ต้องมีหน้าที่พิสูจน์ให้ทราบว่าทรัพย์สินที่ได้มามิได้เกิดจากร่ำรวยผิดปกติ หลังโดน ป.ป.ช.ชี้มูลรอบสอง ส่งศาลแพ่งยึดทรัพย์กว่า 53 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 6/2564 กรณีศาลอุทธรณ์ส่งคำโต้แย้งของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส 2 ผู้คัดค้านในศาลแพ่ง คดีร่ำรวยผิดปกติ เพื่อขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 81 วรรคสอง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 24, 26, 27 หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 81 วรรคสอง ที่บัญญัติว่า ในคดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ให้ผู้ถูกกล่าวหามีภาระการพิสูจน์ที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่า ทรัพย์สินดังกล่าวมิได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติ ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25, 26, 27 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม

“ธาริต” แห้ว! ศาล รธน.ชี้ต้องมีหน้าที่พิสูจน์ทรัพย์สินคดีรวยผิดปกติ 53 ล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว นายธาริต ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ โดยพบว่ามีพฤติการณ์ให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาท และถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ กรณีดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอด้วย ต่อมาในปี 2564 เจ้าตัวถูก ป.ป.ช. ชี้มูลอีกครั้ง ในคดีร่ำรววยผิดปกติ และส่งศาลแพ่งยึดทรัพย์รอบใหม่ วงเงินกว่า 53 ล้านบาท

ทั้งนี้ มาตรา 81 ใน พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 ระบุว่า ให้อัยการสูงสุด (อสส.) หรือประธานกรรมการ แล้วแต่กรณี ดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 80 ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ในคดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ให้ผู้ถูกกล่าวหามีภาระการพิสูจน์ที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าทรัพย์สินดังกล่าวมิได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติ