"ครม."ไฟเขียวระเบียบสำนักนายกฯ ปราบ"เฟคนิวส์" ตั้งศูนย์3ระดับบูรณาการ

"ครม."ไฟเขียวระเบียบสำนักนายกฯ ปราบ"เฟคนิวส์" ตั้งศูนย์3ระดับบูรณาการ

"ครม. เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกฯ ป้องปราบ "เฟคนิวส์" บนสังคมออนไลน์ ตั้ง ศูนย์ประสานงาน 3 ระดับ ส่วนกลาง-กระทรวง-จว. บูรณาการ มอบ กรมประชาฯ แก้ข่าวปลอมทันที ภายใน 1 ชม. ให้อำนาจ "ดีอีเอส" ลบข้อมูลออกจากระบบคอมพิวเตอร์

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ พ.ศ. ....  เป็นแนวทางและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหา การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ร่วมกันของหน่วยงานของรัฐ เพื่อคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยและได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์  

ทั้งนี้ จะให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ได้แก่ 1.ศูนย์ประสานงานกลาง 2.ศูนย์ประสานงานประจำกระทรวง และ 3.ศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของหน่วยงานของรัฐในการแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์

โดยสาระสำคัญร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ อาทิ 

กำหนดนิยามคำสำคัญ เช่น “สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)” และ “ข่าวปลอม”  

จัดตั้งศูนย์ประสานงานกลาง ให้สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดตั้ง“ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์กลาง” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการ ให้ทุกกระทรวงจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ประจำกระทรวง” และให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาการเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์ ประจำจังหวัด” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้รับมอบหมายทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด 

ให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวปลอม ดำเนินการแถลงข่าวทันทีที่พบว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวปลอมและแจ้ง กรมประชาสัมพันธ์ภายใน 1 ชั่วโมงและให้บังคับใช้กฎหมาย ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบและต้องจัดให้มีการร้องทุกข์หรือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนโดยเร็ว

กรณีข่าวปลอมใดที่เข้าข่ายหรือสมควรดำเนินการระงับการทำ ให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ ให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบตามระเบียบนี้ แจ้งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ออกจากระบบคอมพิวเตอร์

กำหนดตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ ของงานเพื่อการประเมินผลการดำเนินงานตามระเบียบนี้ 

"ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหา การเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคมออนไลน์  นี้จะเป็นกรอบในการขจัดข่าวปลอม (Fake news) ที่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชน และสังคมในวงกว้างโดยเฉพาะข่าวที่สร้างความแตกแยกในสังคม การยั่วยุ ข่าวที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสังคม ข่าวที่ทำลายภาพลักษณ์ต่อประเทศ ทำให้มีผลกระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เด็กและเยาวชน ตลอดจนกระทบต่อเศรษฐกิจ วัฒนธรรมอันดี และสถาบันหลักของชาติ ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการสร้างและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างและเผยแพร่ ข่าวปลอม (Fake news) ผ่านสื่อสังคมออนไลน์มีแนวโน้ม ที่จะขยายตัวมากขึ้น” นายธนกร กล่าว