ผู้ตรวจการแผ่นดิน -ศาล รธน. ทำเอ็มโอยู ให้ ปชช. ใช้สิทธิฟ้องหน่วยงานรัฐ

ผู้ตรวจการแผ่นดิน -ศาล รธน. ทำเอ็มโอยู ให้ ปชช. ใช้สิทธิฟ้องหน่วยงานรัฐ

ผู้ตรวจการแผ่นดิน -ศาล รธน. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ด้านการเผยแพร่และให้ความรู้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 51 และ มาตรา 213 สร้างความรู้ให้ประชาชน ใช้สิทธิ ฟ้องหน่วยงานของรัฐ เมื่อถูกละเมิด

26 มกราคม 2565 นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการเผยแพร่และให้ความรู้ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและผู้ตรวจการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 51 และมาตรา 213 ณ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร 

สำหรับความร่วมมือระหว่างผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญในการดำเนินงาน ตามความร่วมมือด้านการเผยแพร่และให้ความรู้ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและผู้ตรวจการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 51 และมาตรา 213 เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิชาการเพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านการใช้สิทธิของประชาชนหรือชุมชนในการฟ้องร้องขอความเป็นธรรมเมื่อถูกละเมิดโดยหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานที่ใช้อำนาจรัฐ เพื่อรักษาประโยชน์และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

ตลอดจนเสริมศักยภาพและการบูรณาการความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของทั้งสององค์กรให้เอื้อประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริงมีประสิทธิภาพภายใต้บทบาท อำนาจและหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและผู้ตรวจการแผ่นดินที่บัญญัติไว้ในมาตรา 51 และมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 

มาตรา 51 ของรัฐธรรมนูญ เป็นบทบัญญัติที่รับรองสิทธิของบุคคลและชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมอันเนื่องจากการที่หน่วยงานของรัฐยังมิได้ปฏิบัติหน้าที่ ตามหมวด 5 ของรัฐธรรมนูญ ให้ถูกต้องครบถ้วน มีสิทธิที่จะติดตามและเร่งรัดให้รัฐดำเนินการ และฟ้องร้องหน่วยงานของรัฐเพื่อจัดให้ประชาชนหรือชุมชนได้รับประโยชน์นั้น

โดยมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 กำหนดให้บุคคลหรือชุมชนที่ได้ร้องขอให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเพื่อให้ตนหรือชุมชนได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐแล้ว แต่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธไม่ดำเนินการหรือไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลา และบุคคลหรือชุมชนได้โต้แย้งเป็นหนังสือต่อหน่วยงานนั้นแล้ว มีสิทธิยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งหากผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่าหน่วยงานของรัฐยังไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วน ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาสั่งการได้ และหากบุคคลหรือชุมชนเห็นว่าการสั่งการของคณะรัฐมนตรียังมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ บุคคลหรือชุมชนก็มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยได้ 

ส่วนมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ เป็นบทบัญญัติที่รับรองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อมีคำวินิจฉัยว่าการกระทำนั้นชัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาตรา 46 และมาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 กำหนดให้บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้หรือเห็นว่าการละเมิดนั้นเป็นผลจากบทบัญญัติ
แห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มีสิทธิยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อขอให้พิจารณากลั่นกรองและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป แต่หากผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยไม่ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่ยื่นคำร้องภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง บุคคลผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

พร้อมกับกำหนดกรอบความร่วมมือ 8 ด้าน คือ การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ร่วมกัน การประชาสัมพันธ์ร่วมกัน การสัมมนาทางวิชาการร่วมกัน  การวิจัยร่วมกัน การบริหารจัดการคดีด้วยระบบงานคดีรัฐธรรมนูญอิเล็กทรอนิกส์ (E-Court) การเข้าร่วมประชุมระดับภูมิภาคและระดับโลก การบริหารจัดการงบประมาณ และงานอื่น ๆ ทางวิชาการ

      นอกจากนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้จัดให้มีการบรรยายพิเศษ เรื่อง การปฏิบัติพันธกิจ
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 213 โดย ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และในช่วงบ่ายมีการสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง แนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินในการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 213 โดย ดร.เชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และนายอดิศร ร่มสนธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน