"จุรินทร์" รับ "ธรรมนัส" ขนส.ส.ย้ายพรรคกระทบเสถียรภาพรัฐ ปัดตอบปมยุบสภา

"จุรินทร์" รับ "ธรรมนัส" ขนส.ส.ย้ายพรรคกระทบเสถียรภาพรัฐ ปัดตอบปมยุบสภา

"จุรินทร์" รับ "ธรรมนัส" ขนส.ส.ย้ายพรรคกระทบเสถียรภาพรัฐบาล ลุ้นเกมสภาเข็นกฎหมาย ชี้ปมยุบสภา อำนาจนายกฯ หวั่นสูญญากาศร่างกฎหมายลูกไม่แล้วเสร็จ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลโพลของนิด้าที่เกี่ยวกับชนะของพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ว่า ผลสำรวจดังกล่าว สรุปว่าประชาธิปัตย์ชนะทั้งที่ชุมพร สงขลา ด้วย 2 เหตุผลหลัก คือ

1. เป็นเพราะพรรคประมาณ 70%

2. เป็นเพราะผู้สมัครของเราเด่นกว่า 30% ซึ่งมันก็เป็นแนวเดียวกับที่เราวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่เราได้รับชัยชนะนี้เกิดจากเหตุผลอะไร แต่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพรรค 70 ผู้สมัคร 30 ที่เด่นกว่าผู้สมัครพรรคอื่นนั้น แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเสียงสวรรค์ของพี่น้องประชาชนที่มอบให้ เพราะไม่ว่าพรรคจะเด่นอย่างไร ผู้สมัครจะเด่นอย่างไร ถ้าพี่น้องไม่มาลงคะแนนให้โอกาสชนะมันก็ไม่มี

“ขอถือโอกาสขอบคุณพี่น้องชาวชุมพร กับสงขลาอีกครั้ง และวันที่ 29 ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะลงไปที่สงขลา เพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนที่นั่นที่ช่วยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และเพื่อไป ยืนยันว่าพรรคก็จะกำกับดูแลผู้แทนของพรรคทั้ง 2 คนที่เป็นหน้าใหม่ ให้ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบทั้งหน้าที่ในพื้นที่ และหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรต่อไปให้คุ้มค่ากับที่ประชาชนมอบความไว้วางใจให้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

 

 

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่แยกตัวจากพรรคพลังประชารัฐไป 21 เสียงนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเป็นปัญหาภายในของพรรคพลังประชารัฐ ตนไม่ขอวิจารณ์ลึกลงไปในรายละเอียด แต่ถ้าจะถามว่าจบหรือยังนั้น ตนก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะไปตอบแทนได้ว่าจบหรือไม่จบอย่างไร

ถ้าถามว่ามีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ในภาพรวมก็ต้องยอมรับว่าอาจมีผลกระทบ แต่ทั้งหมดก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าในการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรนั้น ผลจะปรากฏออกมาอย่างไร รัฐบาลยังมีเสียงที่แน่นเหนียวกับรัฐบาลจำนวนเท่าไหร่ และฝ่ายค้านเหลือเท่าไหร่ ฝ่ายค้านเขาก็มีของเขาอยู่แล้ว

แต่ทั้งหมดก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงด้วยว่าสุดท้ายแล้วเสียงจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้คิดว่ายังแกว่งอยู่ ยังคาดการณ์เป็นข้อสรุปขั้นสุดท้ายยังไม่ได้ เพราะยังปรากฏข่าวที่ค่อนข้างสลับซับซ้อนว่าสุดท้ายแล้วเสียงที่อยู่กับรัฐบาลมีเท่าไหร่ เสียงที่คาดว่ายังไม่มีความแน่นอนนั้นมีจำนวนเท่าไหร่ ก็ต้องดูต่อไป
 

ส่วนคาดการณ์ถึงอุบัติเหตุทางการเมืองภายในปีนี้นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่เกิดอุบัติเหตุ หลายคนก็พยายามถามเรื่องยุบสภาว่าจะมียุบสภาหรือไม่ อันนี้ตนก็ยิ่งตอบไม่ได้ เพราะยุบสภาเป็นอำนาจท่านนายกฯ และประเทศไทยของเราส่วนใหญ่ถ้ายุบสภา ก็หมายความว่ามันจะต้องเกิดอุบัติเหตุ หรือเกิดปัญหาทางการเมือง ซึ่งขณะนี้มันก็ยังไม่เกิด

แต่ถ้าเกิดมายุบตอนนี้มันจะมีปัญหาอีกข้อนึงตามมา ก็คือปัญหาเรื่องกฎหมายลูกที่ยังไม่มี เพราะฉะนั้นจะไปต่อได้อย่างไร ถ้าเกิดยุบสภามีแต่รัฐธรรมนูญ กฎหมายลูกที่จะเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ กติกา และการกำกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงยังไม่ออกมาแล้วจะไปยังไง อันนี้ก็เป็นคำถามอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไรในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์กล่าวว่า จุดยืนประชาธิปัตย์นั้นมีความชัดเจนอยู่แล้วในเรื่องการทำงานกับรัฐบาล อย่างที่เคยย้ำไว้ เราเป็นสถาบันทางการเมือง เรารู้หน้าที่ดีว่า หน้าที่ของเราคืออะไร ทั้งหน้าที่ในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหารในคณะรัฐบาล และหน้าที่ในฐานะพรรคร่วมรัฐสภาในระบบรัฐสภา 

“พรรคประชาธิปัตย์รู้ว่าอะไรคือหน้าที่ของเรา อะไรคือสิ่งที่เราควรทำ และอะไรคือสิ่งที่เราต้องทำ อันนี้ไม่ต้องกังวล และผมก็ยืนยันแล้วว่า ยุคนี้ประชาธิปัตย์ต้องเน้นเรื่องการทำหน้าที่ ทุ่มเท ทำงานหนักให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะเรามีเวลาจำกัด โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ว่ารัฐบาลอยู่ได้ไม่เกินเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาที่มีอยู่จำกัดนี้ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชนให้ได้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

อย่างไรก็ดีความเป็นห่วงในกฎหมายฉบับไหนที่จะไม่ผ่านการพิจารณาของสภาหรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า ยังไม่ได้ไปดูลึกลงไปในรายละเอียดขนาดนั้น แต่เบื้องต้นก็ต้องชัดเจนให้นิ่งเสียก่อนว่า ตกลงแล้วรัฐบาลมีกี่เสียง ที่ขณะนี้ยังแกว่ง ยังไม่มีความชัดเจนเต็มร้อย