"กองทัพเรือ" เร่งปฏิบัติการ หลัง "เรือน้ำมัน5แสนลิตร"อับปางกลางอ่าวไทย

"กองทัพเรือ" เร่งปฏิบัติการ หลัง "เรือน้ำมัน5แสนลิตร"อับปางกลางอ่าวไทย

"กองทัพเรือ" เร่งตรวจสอบคราบน้ำมัน กรณีเรือบรรทุกน้ำมัน  5 แสนลิตร อับปางกลางอ่าวไทย พบความรุนแรงระดับ1 ปล่อยให้คราบน้ำมันสลายตัวตามธรรมชาติ

        พล.ร.ท. ปกครอง  มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา เวลา 19.15 น. ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับแจ้งว่า เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล ชื่อ ป. อันดามัน 2 ซึ่งจอดทอดสมอและอับปาง ที่บริเวณอ่าวไทย ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเลโดยภายในเรือ มีน้ำมันอยู่ประมาณ 5 แสนลิตร ทั้งนี้ พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ เรือ ต. 114 พร้อมอากาศยานจากกองการบินทหารเรือ ออกปฏิบัติการในการเข้าพื้นที่ โดยจากการลาดตระเวณของอากาศยานพบคราบน้ำมันลอยเป็นแนวยาวประมาณ 10 กิโลเมตรโดยมีความกว้างประมาณ 100-200 เมตร เคลื่อนที่ขึ้นไปทางทิศเหนือ ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ระดับความรุนแรงอยู่ในระดับที่ 1  

\"กองทัพเรือ\" เร่งปฏิบัติการ หลัง \"เรือน้ำมัน5แสนลิตร\"อับปางกลางอ่าวไทย            "จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เรือ ปออันดามัน 2 มี นายวายุ  หมอยาดี เป็นนายเรือ มีลูกเรือจำนวน 5 นาย ซึ่งทั้งหมดปลอดภัย โดยได้รับการช่วยเหลือจากเรือวีนัส 21  ซึ่งเป็นเรือที่จ่ายน้ำมันให้กับเรือ ป.อันดามัน 2  ก่อนที่เรืออันดามัน 2 จะจม โดยในขณะนี้ ได้มีการประสานกับ บริษัทแหลมทองค้าน้ำมันประมงไทยจำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเรือให้รับทราบรวมถึงเตรียมยาสลายคราบน้ำมันกรณีเกิดน้ำมันรั่วไหลพร้อมทุ่นรับน้ำมันบริเวณเรือจมรวมถึงทำการกู้เรือต่อไป" โฆษกกองทัพเรือ ระบุ

        ทั้งนี้ มีรายงานล่าสุดว่า จากการตรวจสอบคราบน้ำมันที่กระจายตัวพบว่า ลักษณะของน้ำมันเป็นฟิล์มน้ำมันบางๆ ดังนั้นจะใช้การสลายตัวตามธรรมชาติ   เนื่องจากชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบของคราบน้ำมันว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงในลักษณะใดบ้าง เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมต่อไปคือการกักและเก็บทำได้โดยใช้ทุ่นน้ำมัน  จำกัดขอบเขตการแพร่กระจายของน้ำมันเอาไว้

 

           และช่วงกู้เรือ สำหรับใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันเป็นวิธีการที่ใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันบนผิวน้ำได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งต้องทำภายใน 24 ชม.เมื่อเกิดเหตุจากชนิดของน้ำมันในครั้งนี้คือ ดีเซล ซึ่งจัดเป็น น้ำมัน เบา  


 โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า กองทัพเรือ  มีความพร้อมทั้งยุทโธปกรณ์และกำลังพล  ในการขจัดคราบน้ำมันในทะเล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งได้มีการฝึกซ้อมกัน อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญของกองทัพเรือ  เพื่อพิทักษ์รักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องทะเล ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งผลประโยชน์ของชาติที่สำคัญของประเทศ ให้คงไว้อย่างยั่งยืน โดยความคืบหน้าทางกองทัพเรือจะรายงานให้ทราบในโอกาสต่อไป