“เรืองไกร” ทิ้งพปชร. อ้างอยากทำงานเต็มที่ ปัดร่วมทีม"ธรรมนัส"

“เรืองไกร” ทิ้งพปชร. อ้างอยากทำงานเต็มที่ ปัดร่วมทีม"ธรรมนัส"

“เรืองไกร” ทิ้งพปชร. อ้างอยากทำงานเต็มที่ แต่เคยถูกขอสั่งชะลอสอบ นายกฯ ปัดซบ “เศรษฐกิจไทย” ขอทำงานอิสระก่อน-ยังไม่ได้คุย “ธรรมนัส”

23 ม.ค. 2565 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยถึงสาเหตุหลังเตรียมยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่า ตนนั้นสมัครมาเป็นสมาชิกพรรคได้ประมาณกว่า 8 เดือนแล้ว และได้รับโอกาสทำงานที่ชอบคือ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ในสัดส่วนพรรคพลังประชารัฐ

นายเรืองไกร ยังกล่าวต่อว่า นอกจากการเป็น กมธ. ดังกล่าว ตนก็ไม่ได้ช่วยทำงานอื่นให้พรรคแต่อย่างใด จะทำก็เฉพาะงานตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐ และพรรคการเมืองต่างๆ ในนามส่วนตัว ตามความถนัด อย่างมีอิสระ แต่การจะตรวจสอบเรื่องวาระนายกฯจะครบ 8 ปี ตามที่ตนให้ข่าวไปเมื่อต้นปี ตนได้รับการร้องขอให้ชะลอเรื่องไปก่อน กรณีนี้ทำให้ตนรู้สึกไม่อิสระ แต่ก็รอได้ เพราะยังมีเวลาอีกประมาณ 7 เดือน และนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจจะพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ก่อนก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งจากตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ตลอดเวลา ยังมีหลายเรื่องหลายประเด็นที่ควรร้องขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจดำเนินการต่อไป ซึ่งจะมีทั้ง นรม. ส.ส. รมต. จนท.รัฐ รวมทั้งพรรคการเมืองต่างๆ

โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ นายกฯ มีประเด็นสำคัญหลายเรื่อง ที่อาจทำให้หลุดจากตำแหน่งหรือถูกดำเนินคดีตามมาได้ ซึ่งหากตนยังอยู่ พปชร. ต่อไป ก็คงตรวจสอบได้อย่างไม่อิสระ

นายเรืองไกร บอกอีกว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่มั่นคง สภาล่มบ่อย รัฐบาลได้รับการติติงมาก แต่ฝ่ายค้านส่วนมากก็ไร้ฝีมือ มีแต่ฝีปาก ไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างที่คุยโว ค้านแบบไม้หลักปักขี้เลน มีแต่สำบัดสำนวน ไร้สาระ ไร้น้ำยา

นายเรืองไกร เสริมว่า ตนเห็นประเด็นสำคัญหลายเรื่อง จึงมีงานที่ต้องทำ และน่าจะทำได้ดีกว่าฝ่ายค้าน ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเพื่อให้การทำงานตรวจสอบของตนดำเนินการได้อย่างอิสระ การไม่เป็นสมาชิกพรรค น่าจะเหมาะสมกว่า

"ดังนั้น ผมจึงคิดว่าควรลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. ทั้งนี้จะเข้าไปยื่นหนังสือลาออกด้วยตัวเองที่พรรค ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) เวลา 10.00 น."

ถามถึงกระแสข่าวว่าเตรียมย้ายไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจใหม่ นายเรืองไกร ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจจะย้ายไปอยู่พรรคไหน หรือกับใคร พร้อมเผยว่าฝ่ายค้านบางพรรคก็ได้ติดต่อทาบทามไปร่วมทำงานด้วยแต่ตนก็ปฏิเสธไปเบื้องต้นแล้ว เพราะอยากทำงานตรวจสอบแบบอิสระไปก่อน ยังมีหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ ส่วนในอนาคตจะตัดสินใจอย่างไรค่อยว่ากัน อีกทั้งขอดูสถานการณ์ทางการเมืองควบคู่ไปด้วย

ถามต่อว่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ชวนไปร่วมทำงานด้วยหรือไม่ นายเรืองไกร บอกว่า ยังไม่ได้คุยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายเรืองไกรยังมีในส่วนของยางสดศรี สัตยธรรม สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ล่าสุดได้ยื่นหนังสือต่อนายทะเบียนพรรค เพื่อขอลาออกจากสมาชิกพรรคฯ ด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยมีผลนับจากวันที่ 20 มกราคม 2565 นี้เป็นต้นไป