อหังการ์ "ธรรมนัส" อุ้มบ้านใหญ่ยึด 14 จว.ใต้

อหังการ์ "ธรรมนัส"  อุ้มบ้านใหญ่ยึด 14 จว.ใต้

สมรภูมิภาคใต้สมัยหน้า จึงขับเคี่ยวกันแค่ 3 พรรคคือ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย การเลือกตั้งซ่อมชุมพร-สงขลา จึงเป็นบททดสอบของ 2 แม่ทัพใต้คือ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

 นับแต่ชัยชนะเลือกตั้งซ่อมที่นครศรีธรรมราช ต้นปีที่แล้ว ตามมาด้วยการยึดเก้าอี้นายก อบจ.ที่สุราษฏร์ธานี และระนอง ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มีความมั่นใจในสมรภูมิเลือกตั้ง ส.ส. 14 จังหวัดภาคใต้ สมัยหน้า โดยไม่ต้องพึ่งแบรนด์ลุงตู่

 ดังนั้น ในเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพร และสงขลา จึงมีภาพลุงป้อมและผู้กองธรรมนัส คู่กับผู้สมัคร ส.ส. เหมือนจะบอกว่า สองคนนี้ขายได้ คนใต้เชื่อมั่น

 ช่วงที่ไม่มีหัวโขนรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ลงมาลุยพื้นที่ภาคใต้ ค้นหาตัวผู้สมัคร ส.ส.โดยยึดสูตรต้องเป็นคนในตระกูลบ้านใหญ่ หรือไม่ก็เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่

 ลึกๆ แล้ว ร.อ.ธรรมนัส รู้ดีว่า 13 ส.ส.ใต้ของพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.นกแล ได้เข้าสภาฯ เพราะกระแสความสงบจบที่ลุงตู่ จึงไม่อยากได้ผู้สมัคร ส.ส.ประเภทไม่มีฐานเสียง ไม่มีทุน อาศัยกระแสอย่างเดียว

 ไม่แปลกเลยที่ ร.อ.ธรรมนัส จะแนะนำ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ กลางเวทีปราศรัยหาเสียงที่สงขลา ด้วยการประกาศ สเปคคนที่จะเป็น ส.ส.ยุคนี้ว่า “หนึ่ง ชาติตระกูลต้องดี..สอง ต้องมีตังค์..”

 สำหรับผู้สมัคร ส.ส.ของพลังประชารัฐ ในศึกเลือกตั้งซ่อมชุมพร-สงขลา ปรากฏว่า อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ตรงสเปคธรรมนัส เพราะเป็นทายาทนักธุรกิจและนักการเมืองท้องถิ่น ที่เรียกกันว่า บ้านใหญ่สะเดา

 ส่วนที่ชุมพร ผู้กองธรรมนัสเล็งไปที่ “จุลใสแฟมิลี่” บ้านใหญ่ชุมพร แต่เกิดความหวาดระแวงแคลงใจกันเรื่องอดีตแกนนำ กปปส. เตรียมจัดพรรคใหม่ และจะส่งคนลงสนามผู้ว่าฯ กทม. เลยพลิกเกมกลับมาดันทนายแดง หรือชวลิต อาจหาญ ลงสนาม

 ลำพังทนายแดงเพียวๆ ก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอได้ ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต ส.ส.ชุมพร คู่แค้นของตระกูลจุลใส มาเป็นพี่เลี้ยง ร.อ.ธรรมนัส จึงสั่งเดินหน้าลุยเต็มที่ โดยกระโจนลงไปเป็นแม่ทัพเลือกตั้งเอง

 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยกทีมมาเปิดปราศรัยใหญ่ที่ อ.สวี และหน้าที่ว่าการ อ.เมืองชุมพร ทำให้ทนายแดง มีโอกาสลุ้นในเขต 1 ชุมพร ขึ้นมาทันที

 สัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ร.อ.ธรรมนัสฝังตัวที่ชุมพร เพื่อจัดทัพช่วยทนายแดง เพราะรู้ดีว่า ฐานเสียงและเครือข่ายของทนายแดงตกเป็นรองบ้านใหญ่จุลใส

 หากทนายแดงเอาชนะอิสรพงษ์ มากอำไพ หลานภรรยาของชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร ก็เท่ากับว่าบ้านใหญ่จุลใสพ่ายผู้กองธรรมนัส และพลังประชารัฐยึดประตูสู่ทักษิณได้สำเร็จ

 เลือกตั้งสมัยหน้า ร.อ.ธรรมนัสคงกางแผนที่ปักธงยึดชุมพร ระนอง สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช แทบจะไม่เหลือที่ยืนให้ ปชป.

อย่าลืมว่า ปลายปีที่แล้ว ทีมนายก อบจ.ของธรรมนัส ชนะเลือกตั้ง 2 จังหวัดคือ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฏร์ธานี และ ธนกร บริสุทธิญาณี นายก อบจ.ระนอง

 ร.อ.ธรรมนัส เพิ่งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ส่วนใหญ่เป็นทีมงานของ พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว ถือว่าเป็นการเขย่าขวัญ ปชป. เนื่องจากการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ค่าย ปชป.ชนะยกจังหวัดที่สุราษฏร์ธานีเท่านั้น

 เลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฏร์ฯ กำนันศักดิ์เอาชนะอดีต ส.ส.หลายสมัย ที่สวมเสื้อ ปชป.อีกต่างหาก ฉะนั้น แกนนำ ปชป.จึงรู้สึกหนาวๆร้อนๆ ถ้าธรรมนัสโค่นลูกหมีลงได้ที่ชุมพร

 ก่อนสิ้นปี ธรรมนัสยังโชว์บารมีคว้าตระกูลธรรมเพชร บ้านใหญ่พัทลุง มาสวมเสื้อพลังประชารัฐ มินับตระกูลยาวอหะซัน บ้านใหญ่นราธิวาส ที่เป็นแกนหลักที่ปลายด้ามขวาน

 สมรภูมิภาคใต้สมัยหน้า จึงขับเคี่ยวกันแค่ 3 พรรคคือ ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย โดยมีพรรคประชาชาติ จะแทรกเข้ามาได้เฉพาะพื้นที่ปลายด้ามขวาน

 การเลือกตั้งซ่อมชุมพร-สงขลา จึงเป็นบททดสอบของ 2 แม่ทัพใต้คือ เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ

 ขณะที่ “เจ๊เปี๊ยะนาที รัชกิจประการ แม่ทัพใต้ ค่ายภูมิใจไทย เฝ้าสังเกตการณ์ ไม่ว่าพรรคไหนชนะ ก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของภูมิใจไทย

 ฤาภูมิทัศน์การเมืองภาคใต้จะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ นับแต่เสาไฟฟ้าล้มเกลื่อนกลาด เมื่อ 24 มี.ค.2562 ปิดฉากพรรคของคนใต้ ย้อนไปสู่ยุคบ้านใหญ่อุปถัมภ์ ซึ่งผลการเลือกตั้งซ่อม 16 ม.ค.2565 ที่ชุมพรและสงขลา จะให้คำตอบแก่พรรคเก่าแก่อีกครั้ง