“ธรรมนัส”สั่งลุย ล้ม“ลูกหมี” เกมใต้ดินชี้ขาด ยึด“ชุมพร”

“ธรรมนัส”สั่งลุย ล้ม“ลูกหมี”  เกมใต้ดินชี้ขาด ยึด“ชุมพร”

แม่ทัพตัวจริงฝั่ง “พลังประชารัฐ” คือ "ธรรมนัส" ที่มุ่งล้มแชมป์ให้ได้ ลงทุนฝังตัวในพื้นที่ต่อเนื่อง เดินเกมที่ตัวเองถนัด ขนทีมงานชุดเดิมที่เคยผ่านงาน “เลือกตั้งซ่อม” ที่ “นครศรีธรรมราช” มาบู๊ที่ “ชุมพร” อีกหน

สัญญาณการแข่งขันสนามเลือกตั้งซ่อม ชุมพร เขต 1 เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย กำลังจะได้รู้แล้วว่าใครจะอยู่ใครจะไป ระหว่าง 2 ตัวเต็ง จาก 2 พรรคร่วมรัฐบาล อย่าง เสี่ยตาร์ท “อิสรพงษ์ มากอำไพ” ผู้สมัครจาก “ประชาธิปัตย์” และ ทนายแดง “ชวลิต อาญหาญ” ผู้สมัครจาก “พลังประชารัฐ

สังเวียนนี้ แทนที่คอการเมืองจะโฟกัสที่ตัวผู้สมัคร จุดสนใจกลับไปอยู่ที่บรรดาองคาพยพ หรือขุมกำลังที่ขับเคลื่อนงานเบื้องหลังในการช่วงชิงเก้าอี้ผู้แทนฯ ที่ว่างตัวนี้

แน่นอนว่า บุคคลระดับผอ.เลือกตั้งของ “ประชาธิปัตย์” คือ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง และ “พลังประชารัฐ” ที่ส่ง “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง มานั่ง ผอ.เลือกตั้งครั้งนี้ อาจเป็นเพียงตัวประกอบ

“ลูกหมี”ขุมกำลังท้องถิ่น ครบเครื่อง

คีย์แมนสำคัญที่เป็นคนกำหนดเกม ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือ เจ้าถิ่น “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส อดีตเจ้าของเก้าอี้ ส.ส.ชุมพร เขต1 ที่ขุมกำลังท้องถิ่นหลายระดับนับว่าครบเครื่อง จึงไม่ใช่เรื่องหมูๆสำหรับผู้ท้าชิง

จุดแข็งของ “ลูกหมี” บิ๊กพลังประชารัฐเองก็รู้ว่ากำลังเจอของแข็ง ทั้งศักยภาพ และเครือข่ายในพื้นที่

นพพร อุสิทธิ์” หรือ นายกฯโต้ง นายกฯอบจ.ชุมพร คนปัจจุบัน ก็เป็นน้องเขย “ลูกหมี” ที่เพิ่งเอาชนะ “ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย” ที่ย้ายมาช่วย “พลังประชารัฐ” ช่วย “ทนายแดง” หมาดๆ

เมื่อคราวชิงชัยนายกฯ อบจ.ชุมพร “นายกฯโต้ง” กวาดไปถึง 147,326 คะแนน ส่วน “ศิริศักดิ์” ที่ได้มาเพียง 59,115 คะแนน ทิ้งห่างกันเกือบ 9 หมื่นคะแนน ผลลัพธ์ตรงนี้สะท้อนความเข้มแข็งสนามท้องถิ่นเรื่อยไปจนถึงการเมืองระดับชาติของฝั่งเจ้าถิ่นเป็นอย่างยิ่ง

จนแทบจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ในใจลึกๆ ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเอง ก็หมายตา อยากได้ “ลูกหมี” มาเสริมแกร่ง ในการเลือกตั้งใหญ่สมัยหน้า

สุดท้าย ดีลล่มไม่เป็นท่า เมื่อ “ลูกหมี” เจอเกมเตะตัดขาจาก ขาใหญ่ใน “พลังประชารัฐ” ที่ร่ายมนต์กล่อม “บิ๊กป้อม” จนเคลิ้ม เปลี่ยนใจกลับมติกรรมการบริหาร จากที่ “พลังประชารัฐ” จะหลบเขต 1 ชุมพร ก็กลายเป็นส่ง “ทนายแดง” ลงสนามสู้

 

“ธรรมนัส”ออกโรง เดินเกมเผด็จศึก

แม่ทัพตัวจริงในสนามนี้ ของฝั่ง “พลังประชารัฐ” คือ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคที่มุ่งล้มแชมป์ให้ได้ โดยลงทุนฝังตัวในพื้นที่ต่อเนื่อง คอยเดินเกมที่ตัวเองถนัด มีการขนทีมงานชุดเดิมที่เคยผ่านงาน “เลือกตั้งซ่อม” ที่ “นครศรีธรรมราช” มาบู๊ที่ “ชุมพร” อีกหน

งานนี้ “ธรรมนัส” ออกหน้าคุมทัพ สั่งลุยด้วยตัวเอง กลยุทธ์ซึ่งเป็นจุดชี้ขาดสนามนี้ จึงวัดกันที่ “เกมใต้ดิน

คีย์แมนของพรรคที่ร่วมลงพื้นที่หาเสียงของ “พลังประชารัฐ” ยอมรับว่า สนามชุมพรมีความซับซ้อน และคู่แข่งคนสำคัญก็ไม่ธรรมดา

 

"อารี” มือดี แดนใต้ สายผู้กอง

การเปิดเกมปูพรมทำพื้นที่ของ “ธรรมนัส” คงไม่สามารถฉายเดี่ยวได้ลำพัง ต้องอาศัยมือดีเข้ามาช่วย หนึ่งในนั้น มีขื่อของ “อารี ไกรนรา” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ คอยเป็นมือดีลเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้หลายจังหวัด ใช้ความเป็นลูกพ่อขุนคอนเน็กชั่น พาให้ผู้กองได้ผูกมิตรกับผู้นำในท้องถิ่นมากมาย 

ด้วยความที่ “อารี” กว้างขวางมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากมาย ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษา รั้วรามคำแหง เพื่อนพี่น้องหลายคนในวันนั้น มาถึงวันนี้ต่างเติบโตมีบทบาทในพื้นที่ภาคใต้ จนสามารถต่อยอดทางการเมืองให้ผู้มีอำนาจได้เป็นอย่างดี

เรียกได้ว่า “อารี” วันนี้ ขึ้นหม้อ จน “ผู้กอง” ไม่สามารถเอาไว้ห่างกายในยามต้องเปิดศึกในสมรภูมิแดนใต้

 

ตัดตอน“ประยุทธ์” ชู“ประวิตร”

มีข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า นอกจากเกมใต้ดินแล้ว เกมบนดินของ “พลังประชารัฐ” นั้น แทบจะตัดขาดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อย่างสิ้นเชิง

หลายเวทีปราศรัย แกนนำขาใหญ่ของ “พลังประชารัฐ” ต่างผลัดกันเล่นบทอวย “บิ๊กป้อม” กันฉากใหญ่ มีผลงานอะไร ต่างก็ยกเครดิตให้หมด

ในทางกลับกัน ส.ส.ใต้ของพรรคบางคน รู้ดีว่า กระแสของ “ประยุทธ์” ยังขายได้ ขืนยังฝืนขัดใจคนใต้ มีหวังลำบาก จึงยังพอได้ยินว่ามีการพูดถึง “นายกฯ” บนเวทีปราศรัย เพื่อเรียกคะแนนเสียงอยู่บ้าง

เช่นเดียวกับ “ประชาธิปัตย์” ที่มักจะได้ยินการปราศรัยของขุนพลหลายคน ในหลายเวที ด้วยการสวมบทโหน “นายกฯลุงตู่” เช่น การปราศรัยเน้นย้ำบทบาทของ “ลูกหมี” ที่สนับสนุน “ลุงตู่” มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เป็นต้น

 

สัมพันธ์ “ทนายแดง-ลูกหมี”

ในส่วนของ “ทนายแดง” หรือ “ชวลิต อาจหาญ” ที่กำลังมุ่งหาเสียงอย่างเต็มที่ เปิดเผยว่า การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายนั้น เน้นนำเสนอนโยบายสำคัญ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโครงการคนละครึ่ง เป็นต้น

“ทนายแดง” ระบุว่า ผู้ใหญ่ของพรรคได้กำชับให้ตนลงพื้นที่พบประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เดินเท้า เคาะประตูบ้าน แนะนำตัวอย่างเดียวในช่วงโค้งสุดท้าย ถึงแม้ตนจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมา 20 ปีแล้วก็ตาม เกิดที่ อ.สวี และมาเติบโตที่ อ.เมือง ชุมพร มีวิชาชีพเป็นนักกฎหมายมา 24 ปี ช่วยชาวบ้านด้วยการให้คำปรึกษาทางคดีมามากมาย

ขณะที่ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ “ลูกหมี” นั้น “ทนายแดง” เปิดเผยว่า คุ้นเคยกันมาตั้งแต่เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เมื่อปี 47 สมัยที่ “อำนวย บัวเขียว” เป็นนายกฯอบจ.ชุมพร ตนเป็นส.อบจ.เขต อ.สวี ส่วนลูกหมี เป็นส.อบจ.เขต อ.เมือง ก็เคารพกันอยู่ แม้ว่าวันนี้ต้องลงสนามแข่งขันกันในทางการเมืองก็ตาม

 

ใต้ดินดุเดือดโค้งแรกถึงโค้งสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้เห็นบริบทของทั้ง 2 ฟากฝั่ง ก็ยังยากที่จะฟันผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ชุมพร เขต 1 อยู่ดี คงต้องติดตามกันจนนาทีสุดท้าย

แต่ระหว่างนี้ เสียงร่ำลือกันหนักถึงการใช้อำนาจการเมืองเข้ามาบริหารจัดการ ทั้งคนและพื้นที่อย่างเต็มอัตราศึก

ทีมเบื้องหลัง ลุยกันด้วยเกมใต้ดินตั้งแต่โค้งแรกยันโค้งสุดท้าย เพื่อเผด็จศึก 

ที่ถูกจับตาหนัก คือการล็อกเป้าไปที่กลุ่มคนบางกลุ่มที่มีบทบาท และกุมฐานเสียงในระดับพื้นที่จูงใจให้มาซุกปีกผู้มีอำนาจ และการบล็อคหัวคะแนนคู่แข่งให้ขยับลำบาก จนเดินเกมไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่การรุกไล่ หรือแม้แต่กระแสกดดันคนที่มีธุรกิจบางประเภทให้สยบยอม แลกกับเงื่อนไขบางประการ

วันนี้บรรดาผู้นำท้องถิ่นระดับล่างใน “ชุมพร” ต่างรับรู้ถึงฤทธิ์เดช และการเปิดเกมรุกหนักของคีย์แมนบางพรรคขนาดไหน

หากสิ่งหนึ่งที่สามารถฟันธงได้แน่ๆ คือ 2 ขั้ว ซึ่งมาจากพรรคร่วมรัฐบาล สู้กันดุเดือด ใช้ทุกกลเม็ดเด็ดพราย ชนิดที่คนในพื้นที่ยังต้องลุ้นระทึกไปตามๆ กัน