ปชป.-พปชร.เดิมพันเดือดสงขลา วัดพลังหลังม่านการเมือง

ปชป.-พปชร.เดิมพันเดือดสงขลา วัดพลังหลังม่านการเมือง

ปชป.-พปชร.เดิมพันเดือดสงขลา ศึกศักดิ์ศรีพรรคร่วมรัฐบาล วัดพลังหลังม่านการเมือง ปชป.สกัดกระแส“ประยุทธ์” ต้านพปชร.ขยายฐาน

“สงขลา”จังหวัดใหญ่ที่เปรียบเสมือนเมืองหลวงของภาคใต้ ขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ จนมีส.ส.ได้ถึง 8 ที่นั่ง ซึ่งปัจจุบนแบ่งกันเกือบครึ่งๆ ระหว่าง “พลังประชารัฐ” 4 ที่นั่ง “ประชาธิปัตย์” 3 ที่นั่่ง โดยมีอีกพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “ภูมิใจไทย” เบียดแทรกเข้ามาได้ 1 ที่นั่ง

เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จึงเป็นการป้องกันแชมป์ของประชาธิปัตย์ เพื่อรักษาฐานที่มั่น ที่กำลังถูกพลังประชารัฐรุกคืบอย่างหนัก 

สถานการณ์ในโค้งสุดท้าย ของการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา ยิ่งทวีความดุเดือดในช่วงสัปดาห์สุดท้าย แม้เดิมพันการชิง ส.ส. 1 เก้าอี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับรัฐบาล แต่เป็นศึกศักดิ์ศรีที่ยอมแพ้กันไม่ได้ 

แม้แชมป์เก่า เจ้าของพื้นที่จะมาจากประชาธิปัตย์ โดย “ถาวร เสนเนียม” อดีต ส.ส.สงขลา หลายสมัย ครองพื้นที่นี้มาอย่างยาวนาน แต่การชิงพื้นที่ครั้งนี้ “ถาวร” ไม่ได้เปิดตัวสนับสนุน “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ผู้สมัครเบอร์ 1 ของพรรค แต่กลับมีความเคลื่อนไหวทางลับว่า คอยบัญชาเกมอยู่หลังม่าน “โบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ผู้สมัครเบอร์ 3 ของพรรคพลังประชารัฐ

การเคลื่อนเกมของ “ถาวร” จึงมีผลอย่างมากที่ทำให้ผลเลือกตั้งสนามนี้พลิกผัน และนักสังเกตการเริ่มเห็น “อนุกูล” ทำแต้มเบียด “สุภาพร” ได้อย่างสูสี

ฉะนั้น นอกจากการเคลื่อน “ทัพหลวง” ของทั้งพรรคประชาธิปัตย์-พรรคพลังประชารัฐ ที่พยายามโหมกระแสให้ “สุภาพร-อนุกูล” ในช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว เกมหลังม่านของคีย์แมนการเมือง ที่ไม่ปรากฏตัวสนับสนุนขั้วใด จึงเป็นจุดสำคัญที่สามารถชี้ขาดชัยชนะครั้งนี้

ต้องไม่ลืมว่า “ถาวร” เป็นเจ้าของพื้นที่มานาน บรรดา “หัวคะแนน” ในพื้นที่ย่อมรู้จักมักคุ้นกันดี ต่างกับ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ แม้บารมีในจ.สงขลาอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่สำหรับพื้นที่เขต 6 จ.สงขลา ไม่ใช่ถิ่นฐานทางการเมืองของ “นายก ชาย”

“กรุงเทพธุรกิจ” ชำแหละพื้นที่เลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 จ.สงขลา เพื่อฉายภาพให้เห็นว่าระหว่าง “สุภาพร-อนุกูล” ใครได้เปรียบใครเสียเปรียบ ท่ามกลางการแย่งชิงที่มีเดิมพันระหว่าง 2 พรรคร่วมรัฐบาล

ปชป.-พปชร.เดิมพันเดือดสงขลา วัดพลังหลังม่านการเมือง

โดยในเขตเลือกตั้งที่ 6 ประกอบด้วย อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอหาดใหญ่ (เฉพาะตำบลบ้านพรุและตำบลพะตง) และอำเภอสะเดา (ยกเว้นตำบลสำนักแต้วและตำบลสำนักขาม  จำนวนมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 129,000 กว่าคน มีหน่วยเลือกตั้ง 215 หน่วย

อ.คลองหอยโข่ง มี 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.คลองหอยโข่ง มี 7 หมู่บ้าน ต.ทุ่งลาน มี 9 หมู่บ้าน ต.โคกม่วง มี 9 หมู่บ้าน ต.คลองหลา 7 หมู่บ้าน โดยอ.คลองหอยโข่ง เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับอ.หาดใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มว่า “สุภาพร” ได้เปรียบอยู่มากพอสมควร จึงทำให้ “อนุกูล” ต้องจัดเวทีปราศรัยเพื่อเรียกคะแนนในช่วงโค้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.

โดย อ.คลองหอยโข่ง แม้จะมีพื้นที่ติดกับอ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ของ “พยม พรหมเพชร” ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ แต่ฟากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงเดิมที่เป็น “แฟนคลับ” ของพรรคที่เหนียวแน่นพอสมควร

ต่อด้วย อ.หาดใหญ่ เฉพาะ ต.บ้านพรุ มี 11 หมู่บ้าน ต.พะตง มี 8 หมู่บ้าน พื้นที่นี้ค่อนข้างสูสีอย่างมาก โดย ต.บ้านพรุ “สุภาพร” ค่อนข้างมีเสียงตอบรับที่ดีพอสมควร ขณะที่ “อนุกูล” ซึ่งมีขุมธุรกิจบางส่วนของทางครอบครัวมีที่ตั้งอยู่ใน ต.พะตง ซึ่งมีโอกาสสูงที่คะแนนจะเทมาทาง “อนุกูล” มากกว่า

ทำให้ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เฉพาะต.บ้านพรุและต.พะตง ทั้ง “สุภาพร-อนุกูล” แบ่งแต้มกันไปฝั่งละครึ่ง ซึ่งต้องรอติดตามว่าใครจะเบียดคะแนนขึ้นไปได้มากกว่ากัน

ปชป.-พปชร.เดิมพันเดือดสงขลา วัดพลังหลังม่านการเมือง

พื้นที่ อ.สะเดา (ยกเว้นตำบลสำนักแต้วและตำบลสำนักขาม) ทำให้เหลือ 7 ตำบล ประกอบด้วย ต.สะเดา ยกเลิกระบบหมู่ ต.ปริก มี 11 หมู่บ้าน ต.พังลา มี 7 หมู่บ้าน ต.ทุ่งหมอ มี 7 หมู่บ้าน ต.ท่าโพธิ์ มี 8 หมู่บ้าน ต.ปาดังเบซาร์ 12 หมู่บ้าน ต.เขามีเกียรติ มี 5 หมู่บ้าน

ต้องยอมรับว่าพื้นที่ อ.สะเดา เป็นฐานเสียงของ “อนุกูล” เพราะถือเป็นบ้านเกิด แถมยังเป็นที่ตั้งหลักของธุรกิจครอบครัว ทำให้ “อนุกูล” มีฐานเสียงค่อนข้างหนาแน่น

ขณะที่ “สุภาพร” วางเลือกพื้นที่เจาะฐานเสียงของ “อนุกูล” โดยให้น้ำหนักไปที่ ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งมีประชากรมากรองลงมาจากต.สะเดา โดย “เดชอิศม์-สุภาพร” เน้นลงพื้นที่ต.ปาดังเบซาร์มากเป็นพิเศษ เพราะหากสามารถยึดต.ปาดังเบซาร์มาได้ โอกาสที่จะแย่งแต้มจาก “อนุกูล” มีสูง แถมยังเป็นการชิงพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์มาได้ด้วย

ทั้งหมดคือพื้นที่ฐานคะแนนของทั้ง “สุภาพร-อนุกูล” ที่จะต้องขับเคี่ยวกันจนนาทีสุดท้าย เพราะทุกพื้นที่ต่างมีตัวแปร และปัจจัยพลิกผันอื่นที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

เมื่อเดิมพันครั้งนี้จะถูกนำไปต่อยอดการหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง “ประชาธิปัตย์” จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาฐานที่มั่น เพื่อหยุดกระแสนิยม “นายกฯประยุทธ์” สกัดไม่ให้แต้มไหล่ไปที่ “พลังประชารัฐ” ที่ต้องการขยายฐานเสียงยึดเมืองสงขลาให้ได้เช่นกัน

ปชป.-พปชร.เดิมพันเดือดสงขลา วัดพลังหลังม่านการเมือง