“หมิ่นคนใต้”วาทกรรมโค้งสุดท้าย ค่ายสะตอขยี้”ธรรมนัส-พปชร.”

“หมิ่นคนใต้”วาทกรรมโค้งสุดท้าย ค่ายสะตอขยี้”ธรรมนัส-พปชร.”

การเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา “ประชาธิปัตย์” ถนัดเล่นเกม "ไอโอ" มากเป็นพิเศษ ยิ่งคู่แข่งมาตายน้ำตื้นแบบนี้ ยิ่งเป็นโอกาสให้ “ประชาธิปัตย์” ฉวยสถานการณ์ลดแต้มคู่แข่ง

โค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา และ ส.ส.เขต 1 ชุมพร “ผู้สมัคร” ต่างงัดทุกกลยุทธมาพิชิตใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในพื้นที่ เพื่อโกยแต้มหวังเข้าวิน

“ผู้สมัคร” ทุกคน "จัดทัพเล็ก" พลังมดลงพื้นที่หาเสียงถี่ยิบทุกวัน อยู่ที่ “ผู้สมัคร” แต่ละคนจะจัดวางยุทธศาสตร์อย่างไร บางคนบุกทุกตลาดนัด ทั้งเช้า-เย็น เพื่อพบปะประชาชนที่จะแวะเวียนมาเดินตลาด บางคนบุกทุกร้านน้ำชา ซึ่งเป็นแหล่งร่วมตัวของคนใต้ที่มักจะจับเข่านั่งคุยการเมือง

โดย “ทัพเล็ก” สามารถพบปะพูดคุยประชาชนได้ตัวต่อตัว ถามไถ่ทุกข์-สุขกันได้โดยตรง สร้างความสัมพันธ์ประสานความเข้าใจได้เป็นกันเอง ซึ่ง “ผู้สมัคร” ทุกคนต่างใช้ยุทธศาสตร์ “ทัพเล็ก” เพื่อเข้าถึงประชาชนทุกระดับ

ขณะเดียวกันบรรดา “ทัพหลวง-ทัพหน้า” ที่เคลื่อนพลลงมาช่วย “ผู้สมัคร” หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก็สำคัญไม่แพ้กัน โฟกัสหลักพุ่งไปที่ “ทัพหลวงพลังประชารัฐ” และ “ทัพใหญ่ประชาธิปัตย์” ที่วางโปรแกรมอัดแน่น เน้นจัดเวทีปราศรัย ประชันกันเกือบทุกวัน

“ทัพหลวงพลังประชารัฐ” ที่นำโดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกตัวแรง ประเดิมขึ้นเวทีใหญ่ชุมพร เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ช่วย “ทนายแดง” ชวลิต อาจหาญ ผู้สมัครเบอร์ 4 แบบดุเด็ดเผ็ดมัน สร้างความคึกคักไม่น้อย

ทว่า “ทัพหลวงพลังประรัฐ” กลับเสี่ยงทำพลาด ในการปราศรัยช่วย “โบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ผู้สมัครเบอร์ 3 ที่ จ.สงขลา เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาฯพรรค ปราศรัยแทงใจดำคนใต้

“ธรรมนัส” พกความมั่นใจขึ้นปราศรัยว่า “ในนามพรรคพลังประชารัฐและเขาตั้งใจในฐานะของคนรุ่นใหม่ ไฟแรงและมีตังค์ พี่น้อง เราเลือก ส.ส. เราเลือกตัวแทนของพวกเรา เราต้องเลือกคนที่มีความพร้อม ถูกต้องไหมพี่น้อง”

“หนึ่ง ชาติตระกูลต้องดี นั่นคือ ศรีตรัง ใช่รึเปล่าก็ไม่รู้ สอง ต้องมีตังค์ ไม่มีตังเหรอ เวลาไปช่วยชาวบ้าน สวัสดีครับพี่น้องครับ โบ๊ตไม่มีตังครับ แต่สวัสดีครับพี่น้อง อ๋อพี่น้องเดือดร้อนเหรอครับ เดี๋ยวโบ๊ตเอานี้ไปใช้ก่อน อย่างนี้ชอบไหม เอาไหม ” พร้อมด้วยท่าประกอบ ควักกระเป๋ากางเกง

จากคำปราศรัยของ “ผู้กองมนัส” ท่ามกลางการแข่งขันสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 สงขลา ทำให้ “ธิวัชร์ ดำแก้ว” ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคก้าวไกล ได้ทียื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบเนื้อหาคำปราศรัยเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ประเด็นจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตัวเอง หรือผู้สมัครอื่น การสนอให้ สัญญาว่าจะให้ อาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม มิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ข้อร้องเรียนของ “ธิวัชร์-พรรคก้าวไกล” ต้องรอให้ “กกต.” ตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ และต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ที่ไม่ต้องรีรอ คือปฏิกิริยาของคู่แข่งอย่าง “ประชาธิปัตย์” ที่รอโอกาส ชิงกระแสโจมตีกลับ “อนุกูล-พลังประชารัฐ” ทันที เพราะคำพูดสองแง่สามง่ามของ “ธรรมนัส” ถูกตีความว่าดูถูก “คนใต้”

“นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ สามีของ “น้ำหอม” สุภาพร ขาวทอง ผู้สมัครเบอร์หนึ่ง สวนกลับ “อย่ามาเหยียบคนใต้”

“บางพรรคประกาศชัดเอาคนตระกูลดี เอาคนมีเงิน เหยียบผม เหยียบพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เป็นไร แต่มาเหยียบคนสงขลาไม่ได้ ใครก็ไม่อยากเป็นคนจน แต่มันเลือกเกิดไม่ได้ เราไม่ชอบให้เขามาเหยียบคนสงขลา ชีวิตผมขายอะไรก็ได้ ขายที่ดินก็ได้ แต่ไม่ขายศักดิ์ศรีเด็ดขาด”

สัญญาณที่ “เดชอิศม์” พยายามสื่อสารกับคน จ.สงขลา เพื่อชี้ให้เห็นถึงความคิดของ “ธรรมนัส” ที่สะท้อนผลลบไปยัง “อนุกูล” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา “ประชาธิปัตย์” ถนัดเล่นเกม "ไอโอ" มากเป็นพิเศษ ยิ่งคู่แข่งมาตายน้ำตื้นแบบนี้ ยิ่งเป็นโอกาสให้ “ประชาธิปัตย์” ฉวยสถานการณ์ลดแต้มคู่แข่ง

ผนวกกับสงครามในโซเชียลมีเดีย ทุกคีย์เวิร์ดที่ “ธรรมนัส” พูดออกมา จะถูกนำมาผลิตซ้ำ เพื่อตอกย้ำตัวตนจริงๆของ “พลังประชารัฐ” ที่สะท้อนถึงคนใต้

ดังนั้นจึงต้องจบตา “ทัพใหญ่พลังประชารัฐ” ที่จะจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายในวันที่ 14 ม.ค. ที่ อ.สะเดา จะแก้เกมกลับอย่างไร เพราะหาก “ประชาธิปัตย์” จุดกระแสไม่เอาคนมีตังของพลังประชารัฐติด ในโค้งสุดท้าย อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้