2 ก.พ. “ศาล รธน.” นัดชี้ขาด “ธาริต” ร้องปมภาระพิสูจน์ทรัพย์สินคดีรวยผิดปกติ

2 ก.พ. “ศาล รธน.” นัดชี้ขาด “ธาริต” ร้องปมภาระพิสูจน์ทรัพย์สินคดีรวยผิดปกติ

“ศาล รธน.” นัดฟังคำวินิจฉัย 2 ก.พ. 65 คดี “ธาริต-ภริยา” ร้องขอให้พิจารณา ม.81 พ.ร.ป.ป.ป.ช. ปมภาระพิสูจน์ทรัพย์สินคดีร่ำรวยผิดปกติ ขัดหรือแย้ง “รัฐธรรมนูญ” หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2565 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ โดยมีเรื่องพิจารณาที่ 6/2564 กรณีศาลอุทธรณ์ส่งคำโต้แย้งของผู้คัดค้านทั้ง 2 ราย คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้คัดค้านที่ 1 และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภริยา ผู้คัดค้านที่ 2 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 (พ.ร.ป.ป.ป.ช.) มาตรา 81 วรรคสอง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25, 26, 27 หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ ในวันที่ 2 ก.พ. 2565 เวลา 09.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายธาริต ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานร่ำรวยผิดปกติ โดยพบว่ามีพฤติการณ์ให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาท และถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ กรณีดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอด้วย

ขณะที่มาตรา 81 ใน พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 ระบุว่า ให้อัยการสูงสุด (อสส.) หรือประธานกรรมการ แล้วแต่กรณี ดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินตามมาตรา 80 ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.

ในคดีที่ร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ให้ผู้ถูกกล่าวหามีภาระการพิสูจน์ที่ต้องแสดงให้ศาลเห็นว่าทรัพย์สินดังกล่าวมิได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติ