“จุรินทร์” เมินพรรคการเมืองยื่นสอบปมราคาสินค้าพุ่ง ยันพร้อมแจง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน และตรวจเยี่ยมด่านศุลกากร ที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ต่อกรณีที่มี ส.ส. ทั้งพรรคร่วม และฝ่ายค้านหยิบเอาประเด็นหมูแพง และไข่ไก่ขึ้นราคามาใช้ประโยชน์ทางการเมืองเพื่อหวังดิสเครดิตการทำงาน พร้อมทั้งเตรียมยื่นให้ ปปช. ตรวจสอบนั้นว่า 

ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องปกติ ที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบ เราเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยไม่มีปัญหาเลยมีอะไรจะสอบถามในสภาก็ยินดีตอบ เกี่ยวข้องกระทรวงไหนก็ควรถามกระทรวงนั้น เพื่อให้กระทรวงนั้นได้ตอบเพื่อคลี่คลายความสงสัย หรือข้อข้องใจ สำหรับกระทรวงพาณิชย์หากมีอะไรจะถามก็ยินดีตอบ เราก็ตอบตลอดไม่ต้องห่วง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่พรรคร่วมรัฐบาลระบุว่ามีพรรคการเมืองเก่าแก่ และใช้คำว่าบริหารงาน ล้มเหลว ไร้ศักยภาพ ในเรื่องปัญหาราคาหมู ในช่วงเวลาที่สอดคล้องกับการเลือกตั้งซ่อมที่สงขลา และพัทลุง นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าพรรคไหน แต่ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหาเลย เราทำงานด้วยความสุจริต อะไรก็ตอบได้ อะไรตอบไม่ได้ก็ตอบตรงๆ ว่ามันไม่ได้เพราะเหตุผลอะไร มันเกินอำนาจเราหรือเปล่า แต่ถ้าอยู่ในอำนาจอะไรตอบได้ก็ยินดีตอบไม่มีความลับ ยินดีอธิบาย เพราะเราทำงานตรงไปตรงมา และซื่อสัตย์สุจริต ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของพีน้องประชาชนเป็นหลัก อะไรก็ตอบได้ทั้งนั้น 

“ไม่ทราบว่าพรรคร่วมพรรคไหน แต่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ยินดีตอบไม่มีปัญหาหรอก แล้วก็ไม่อยากไปพูดว่ามันใกล้เลือกตั้งซ่อมแล้ว เพราะพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องการเมืองโดยไม่จำเป็น ขอเป็นเรื่องการทำหน้าที่ ซึ่งหลักการทำหน้าที่ของผมนั้น เราเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในระบบรัฐสภา เพราะฉะนั้นมีคำถามอะไรก็ยินดีตอบถามนอกสภาก็ยินดีตอบ ถามในสภาก็ยินดีตอบ ไม่มีปัญหาอะไรเลย” นายจุรินทร์กล่าว 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความกังวลต่อการใช้อำนาจรัฐในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งซ่อมนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ตนมีความกังวลเรื่องการใช้อำนาจรัฐเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง นอกจากเป็นเรื่องที่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นแล้ว ก็ยังเป็นเรื่องของการกระทำผิดกฎหมายด้วย เพราะอำนาจรัฐเป็นของส่วนรวม เป็นของทุกคนไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเป็นการส่วนตัว เอาไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวมันไม่ถูกต้องหรอก และขอฝากว่าไม่ว่าพรรคไหนก็ตามอย่าทำ และไม่ควรทำ มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี และมันทำลายความชอบธรรม ทำลายความยุติธรรมในการเลือกตั้ง และทำลายระบอบประชาธิปไตยในระยะยาวด้วย