"เสรีรวมไทย" หนุน แก้มาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว.เลือกนายกฯ

"เสรีรวมไทย" หนุน แก้มาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว.เลือกนายกฯ

พรรคเสรีรวมไทย หนุน แก้มาตรา 272 ตัดอำนาจส.ว.เลือกนายกฯ ด้านสมชัย เชื่อ ไทม์ไลน์แก้เสร็จทันเลือกตั้งรอบหน้า ไม่ว่าครบวาระ หรืออุบัติเหตุทางการเมือง

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย รับหนังสือจาก นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นางสาวณัฏฐา มหัทธนา คณะผู้รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจวุฒิสภา หรือ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี  

โดยนายสมชัย ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อตัดอำนาจของส.ว.ในการโหวตเลือกนายกฯ  โดยการมาของคณะในวันนี้ เพื่อขอการสนับสนุนร่วมลงรายชื่อรวมถึงโหวตในสภาฯ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ตั้งใจร่วมกันว่า จากนี้จะขอการสนับสนุนประชาชนในการแก้รัฐธรรมนูญ เพียงมาตราเดียวคือมาตรา 272 โดยมองว่าคือหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ส.ส.ควรเป็นฝ่ายกำหนดว่าใครควรมาเป็นนายกฯ ที่ผ่านมา ไม่ว่าประเทศใดส.ส.เท่านั้นที่จะมีอำนาจในการตัดสิน ส่วนรัฐธรรมนูญปี 2560 ร่างมีบทเฉพาะกาลที่ระบุ 5 ปีแรกให้ส.ว.มีสิทธิ์ในการร่วมโหวตนายกฯ แต่เมื่อผ่านไป 4 ปีเศษ ทำให้เห็นว่าหลักการดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะไม่ช่นนั้น ส.ว. มาจากการแต่งตั้งจากคณะกลุ่มคนดียงกลุ่มเดียว โดยขณะนี้มีการทำแบบฟอร์มอิเลคทรอนิค แต่ยังไม่ได้เปิดให้ลงชื่อ โดยร่างการแก้ไขกฎหมาย อยู่ในแอพพลิเคชั่น ซึ่งประชาชนสามารถเปิดไปดูได้ โดยจะมีการแถลงข่าวในวันที่ 17 มกราคม 2565 

โดยทางกลุ่มต้องการให้พรรคเสรีรวมไทย ให้สนับสนุน คือ ในช่วงระยะเวลาการรณรงค์ 17ม.ค. -16 เม.ย.  ขอให้ทางพรรคใช้กลไกสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลอย่างกว้างขวาง  /รวมไปถึงหากจำนวนผู้เข้าชื่อครบเงื่อนไข และถูกบรรจุเข้าสภาฯ ขอเสียงสนับสนุนจากพรรคเสรีรวมไทย ทั้ง 10 เสียงโดยไม่มีการแตกแยก ทั้งวาระ 1 และ 3 เพื่อให้เกิดผลทันทีและทันต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป พร้อมมอบเสื้อเป็นที่ระลึก พร้อมให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ และร่วมทดลองในการกรอกแบบฟอร์มดังกล่าว 

ด้านพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญปี 2560 เขียนมาโดยใครและเพื่อใคร จนกระทั่งถึงการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่พรรคมีการเสนอชื่อบุคคลในพรรคเป็นนายกฯ เป็นการสืบทอดอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี ตนต้องรณรงค์หาเสียงทั่วประเทศ เสี่ยงต่อการตัดสิทธิ์ทางหารเมือง หากทำอะไรผิด กกต. ก็จ่อฟันในทันที ส่วนการมาของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้นลอยมาเฉยๆ และตนมองว่าเป็นการเอาเปรียบประชาชนเป็นอย่างมาก จะเห็นได่ว่าการเลือกนายกฯครั้งที่ผ่านมาในสภายังไม่ถูกต้อง ตนได้ทักท้วงนาย

และเมื่อเข้าสู่กระบวนการ ส.ว. 250 คน ลงชื่อเลือกพลเอกประยุทธ์ นั่งเป็นนายกฯ 100% เป็นการเสกสรรปั้นแต่ง ไม่ใช่ความชอบธรรม และมองว่าการเห็นชอบตรงกันหมดที่ไหนมี มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า จะเห็นได้ว่านายกฯไม่ได้ไม่ได้มาจากประชาชน และไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ ทั้งราคาน้ำมัน หมู ไก่ แต่รายได้ไม่เพิ่มขึ้น หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปประชาชนจะยิ่งเดือดร้อนยิ่งขึ้น 

 

 

ส่วนส.ส.มี 2 แบบ ส.ส.เขตเลือกตั้งต้องสัมผัสประชาชน รับทราบปัญหาพื้นที่ได้อย่างละเอียด แต่ส.ส.บัญชีรายชื่อต้องตะเวนช่วยลูกพรรคหาเสียงทั้งประเทศทำให้เห็นปัญหาอย่างแท้จริง นำมาแก้ไขให้เป็นไปตามนโยบายพรรค ความผาสุกของประชาชน แต่พลเอกประยุทธ์มาจากทหาร มาจากการยึดอำนาจ แล้วจะเห็นปัญหาอะไรจึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะมาตรา 272 มีหลายมาตรา หากฉีกทิ้งได้ ตนคงฉีกเลย แต่หากแก้ไขทั้งฉบับก็จะไม่ได้นับความร่วมมือจากพรรคการเมืองที่ได้ผลประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้  ซึ่งตนเห็นด้วยที่ให้การสนับสนุนแนวทางนี้อย่างเต็มที่ พรรคต่างๆมีการเสนอประเด็นต่างๆในการแก้ไข ตนมองว่าเป็นการแก้ไขเพื่อพรรคของตนเอง ตนจึงไม่ยอมรับร่างที่เสนอมาทั้งหมด แต่ให้สภารับร่างที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง แต่ผลโหวตแพ้ก็เป็นเรื่องปกติ 

 

ส่วนการแก้ไขมมาตรา 272 จะวนไปแบบเดิมหรือไม่นั้น นายสมชัย ระบุว่า หากดูจากบทเรียนในอดีต เป็นการแก้ไขที่ไม่ใช่มาตรา 272 เพียงมาตราเดียว อาจทำให้ทั้งส.ว.กังวล ว่าจะเแนการแก้เรื่องอื่นที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งผลที่ออกมาจึงไม่ได้รับการสนับสนุน แต่ครั้งนี้เป็นการแก้ไขในเรื่องเดียว ซึ่งทางส.ว.มีโอกาสสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นซึ่งหลักการดังกล่าวถือว่าถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย โดยปัจจัยเบื้องต้นขึ้นอยู่กับประชาชนจะร่วมเข้าชื่อกันมากน้อยเพียงใด โดยหากเกินจำนวน 70,000 หรือมากกว่า ก็ถือเป็นความต้องการประชาชน และหากได้รับการเห็นชอบจากสภา 

 

ส่วนไทม์ไลน์การแก้ไขนั้น นายสมชัย กล่าวว่า จากการบวนการจะร่างรายชื่อแล้วเสร็จในเดือนเมษายน และส่งให้สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบอีก 1 เดือน ในเดือนพฤษภาคม โดยหากทำเข้าสู่หากสภาฯและให้ความเห็นชอบ ก็น่าจะพอดีกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตทางการเมืองหรือครบวาระถือว่าพอเหมาะพอดี ให้อำนาจผู้ปกครองประเทศกลับมาอยู่ในมือประชาชน 

 

ทั้งนี้นายสมชัย ยืนยันว่า การรณรงค์ในแก้ไขมาตรา 272 ในครั้งนี้ จะไปทุกพรรค ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล รวมไปถึงส.ว. เอง หลังจากเดินสายพรรคการเมืองทั้งหมดแล้ว โดยเรียงจากตำแหน่ง และคาดการณ์ว่า ส.ส.เกือบทั้งหมดจะเห็นชอบ จากการประเมินที่ดูการลงมติร่างรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์  ในร่างที่ 11 มีการเห็นชอบของส.ส. 440 คน 

 

โดยในช่วงท้าย พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เห็นว่า การพิจารณาครั้งนี้น่าจะผ่านความเห็นชอบ เนื่องจากมีปัจจัยที่เปลี่ยนไป ทั้งเรื่องความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ และคิดว่าส.ว. น่าจะเปลี่ยนใจสนับสนุนการแก้ไขมาตรา272 เพราะหากไม่เห็นชอบ จะไม่มีที่ยืนในสังคม