"พล.อ.พัลลภ" รู้เหตุถูกปลดจาก "เพื่อไทย" เพราะคำสั่ง "ทักษิณ"

"พล.อ.พัลลภ" รู้เหตุถูกปลดจาก "เพื่อไทย" เพราะคำสั่ง "ทักษิณ"

“พัลลภ”แฉสกัดข่าว”ทักษิณ”สั่งปลด เกรงถูกยุบพรรค  เชื่อปมในอดีต “คำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้” เผยเลี่ยงปิดจ็อบ ไม่เช่นนั้น คงไม่มีชีวิตไปอยู่เมืองนอกถึงทุกวันนี้ เผยน้อยใจ-ผิดหวังช่วยชีวิตคนมาเยอะ ทั้ง “ชลน่าน-ประยุทธ์” 

         พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี  แกนนำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7 ( จปร.7)  ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว โดยยอมรับว่าถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปลดออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยไม่ทราบสาเหตุและไม่แจ้งล่วงหน้า ทั้งนี้ตนทราบตอนที่พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่ประจำปี ที่จ.ขอนแก่น ที่ตนตั้งใจไปร่วมงาน แต่มีลูกน้องโทรศัพท์แจ้งว่าถูกลบชื่อออก และตนได้โทรศัพท์สอบถาม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทราบว่านายทักษิณให้ปลด ซึ่งตนงงมาก เพราะไม่ได้ทำอะไรให้

 

           “ผมก็โทรศัพท์ไปหาหมอชลน่านในฐานะที่เขาเป็นหัวหน้าพรรค และเคยมีบุญคุณกันมา ผมเคยช่วยชีวิตเขาจากพวกผู้มีอิทธิพลในจังหวัดน่านจะเก็บเขา ผมก็ชวนลูกน้อง3-4 คนไปช่วย ไปเคลียร์ให้จนจบ หลังจากนั้นเขาก็ได้เป็น ส.ส.ยกทีม  ทำให้ตอนแรกถามเหตุผลเรื่องปลดเขาก็อึกอัก ไม่ยอมบอก แต่คาดคั้นไป เขาถึงบอกว่าทักษิณให้ปลดออก  แต่ถามว่าผมทำผิดเรื่องอะไรเขาก็ไม่ตอบ" พล.อ.พัลลภ กล่าว

        เมื่อถามว่าได้ต่อสายถึงนายทักษิณหรือไม่ พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า "ไม่ต่อสายคุย เพราะทราบว่าเขาเป็นคนสั่งปลด พูดไปไม่มีประโยชน์   เมื่อปลดแล้วคือเขาไม่อยากได้เราก็แค่นั้น เขาเป็นเจ้าของพรรค แต่ก็ยังสงสัยว่าผมไปทำอะไร หากปรับทัพใหม่ เอาเด็กเข้ามา ผมไม่ว่าอะไร แต่นี่เอาผมออกคนเดียว ส่วนเหตุผลคงเป็นเรื่องในอดีต ที่เขาทำชั่วไว้เรื่องหนึ่งตอนเป็นนายกฯ และผมต้องรับผิดชอบ ผมจึงได้รับคำสั่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ตั้งแต่นั้นจึงขัดใจ แต่งงว่าทำไมมาปลดตอนนี้" 

 

          พล.อ.พัลลภ กล่าวด้วยว่า คำสั่งดังกล่าวหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ตนพยายามหลบเลี่ยงสุดๆ  ทั้งที่เป็นเรื่องง่ายที่ตนจะทำตามคำสั่งนั้น เพราะตนเป็นหัวหน้าชุด killing team ทีมล่าสังหารกองทัพบก รบในโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม ถ้าทำตอนนั้นคงจบไป เขาคงไม่มีชีวิตอยู่จนวันนี้ จนไปอยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตนทำงานทางลับให้พรรคเพื่อไทยเยอะมาก  และหลายแห่ง ที่ไหนที่แก้ปัญหาไม่ได้ มีปัญหาตรงไหน  ตนวิ่งทั่วประเทศแก้ไขปัญหาให้ แม้จะได้รับมอบหมายให้ดูภาคอีสาน กับภาคเหนือ

 

          พล.อ.พัลลภ กล่าวด้วยว่า ตนได้ข่าวว่ามีการไปบอกให้สื่ออย่านำเสนอข่าว อาจเกรงว่าจะมีผลกระทบ หรือถูกยุบพรรค เพราะถ้าเข้าข่ายเป็นการแทรกแซงพรรค 

 

          พล.อ.พัลลภ กล่าวด้วยว่าสำหรับการเมืองไทยทหารยังมีบทบาท แต่พรรคเพื่อไทยกลับให้ทหารออกไป ทั้งนี้ทหารมีแทบทุกจังหวัดใกล้ชิดประชาชน แล้วทหารก็มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง เป็นฐานเสียงอย่างดี ส่วนงานใต้ดินอาจจะมี  ส่วน จปร.7 ตอนนี้ก็เข้าสู่วัยชรากันหมดแล้ว ตนก็ยังเล่นกอล์ฟ ออกกำลังกาย แต่ก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกันบ้าง อยู่บ้านกันหมดในช่วงโควิด-19 ในรุ่นก็ยังแข็งแรงกันอยู่ ยังมีชีวิตอีกมากในจำนวน 180 คนตอนนี้เหลือ 150- 160 คน ส่วนตนเองก็อายุ17ปีครบ 100แล้ว 

 

            ถามต่อว่า มองสถานการณ์การเมืองปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร พล.อ.พัลลภ ปฏิเสธที่จะวิจารณ์ เพราพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คือรุ่นน้องของตน

 

             “ไอ้ป้อมก็เล่นกอล์ฟกับผมแทบทุกวัน ส่วน ไอ้ตู่ก็ช่วยชีวิตมันไว้ช่วงที่ผมยศพันตรีเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหาร ช่วงปราบปราม ผกค.ตู่เป็นผู้หมวดถูกล้อมในพื้นที่ช่องบก ผมสั่งให้นำทีมไปช่วย ตอนนั้นทีมมีแค่ 7 คน ต้องตีฝ่าไปเอาเขาออกมา ปรากฏว่าเอาเขาออกมาได้เสร็จ ก็มากระซิบตนว่า พี่ครับ ผมลืมทหารบาดเจ็บของผมอีกสองคนในบังเกอร์ ผมก็ต้องไปฝ่าเข้าแบกไอ้สองคนนี้ออกมา ครั้งนั้นผมยังได้เซ็นเสนอเหรียญรามาให้เขาด้วย แต่ก็โกรธมากคือในช่วงที่ปฏิวัติฯ มาจับผมไปขังที่สระบุรีเป็นบ้านร้าง หนูวิ่งพล่าน แถมปฏิบัติเหมือนอย่างกับผมเป็นจอมโจร เอารถสิงห์ทะเลทรายติดปืนกลเฝ้าหน้าและบ้านหลังบ้าน  ผมแพ้ฉี่หนูเกือบตายต้องโทรศัพท์ให้ลูกสาวที่เป็นหมอมารับเพราะบอกว่าพ่อจะตายแล้ว พาตัวออกมาส่งโรงพยาบาลจนรอดตายได้ นี่คือไอ้ตู่ที่ทดแทนบุญคุณผมที่ช่วยชีวิตเขาไว้” พล.อ.พัลลภ กล่าว.