“ธรรมนัส”ชี้เลือกตั้งรอบหน้าพปชร.กวาดส.ส.เพิ่ม-ฟันธงเหลือพรรคใหญ่-กลาง

“ธรรมนัส”ชี้เลือกตั้งรอบหน้าพปชร.กวาดส.ส.เพิ่ม-ฟันธงเหลือพรรคใหญ่-กลาง

“ธรรมนัส”ลั่นเลือกตั้งรอบหน้าพปชร.ไม่เกรงใจใคร-ลุยกวาดส.ส.เพิ่มทุกพื้นที่ โวมีนโยบายเด็ด เก็บไว้ขายใกล้เลือกตั้ง ฟันธงรอบหน้าเหลือแค่พรรคใหญ่-กลาง

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสความนิยมของพรรคพปชร.หลังจากลงพื้นพบปะประชาชนมาหลายพื้นที่ว่า เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครตอบได้ดีเท่าตน เพราะคลุกคลีกับชาวบ้านตั้งแต่ในช่วงที่เป็นรัฐมนตรี จนถึงปัจจุบันที่คลุกกับชาวบ้านตลอด ความนิยมนโยบายของพรรคนั้นเชื่อว่าพรรคมีนโยบายที่จับต้องได้มากที่สุด 

โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเรียกว่าบัตรประชารัฐ เป็นโครงการที่ประชาชนชอบ และมีความสุขกับโครงการนี้ กล้าพูดได้ 100%ว่า นโยบายของพรรคพปชร.จับต้องได้เยอะที่สุด ไม่ใช่นโยบายขายฝัน 
 

เมื่อถามว่าภาพจำของพรรคพปชร.จะเน้นที่ภาคไหน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อปี 62 ภาคเหนือตอนบน และเหนือตอนล่าง มีส.ส.เขต 26 คน ภาคอีสาน 13 คน ภาคใต้ 14 คน ที่เหลือเป็นภาคกลางและกทม.จะเห็นว่าส.ส.ของพรรค เป็นการผสมผสานของคนทุกภาค

“ยกตัวอย่างความนิยมของพรรคเพื่อไทย(พท.)ภาคเหนือตอนบน อีสาน ผมเป็นคนภาคเหนือตอนบน ถามว่ายากสำหรับพรรคพปชร.หรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า สำหรับผมแล้วไม่ยากเลย ภาคเหนือตอนบนที่ผมบุกแต่ละพื้นที่ไป จะเห็นว่าแพ้ไปนิดเดียว เราอยู่อันดับสองแทบทุกเขต แต่ผมเชื่อมั่นว่าเอาจริงๆ ไม่ติดลูกเกรงใจกันสมัยหน้า สามารถทำให้สมาชิกเราเป็นส.ส.ได้อีกหลายคนแน่นอน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

สำหรับในภาคอีสานพล.อ.ประวิตร ได้แบ่งโซนให้หัวหน้าภาค และผู้ใหญ่ไปคุมอีกที ดังนั้นยุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งต่อไปไม่ธรรมดา ยังไม่ต้องพูดถึงภาคที่มีคะแนนอยู่แล้ว ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง หรือกทม. พูดถึงพื้นที่ที่ได้ยาก และสมัยที่แล้วเข้ามาเป็นส.ส.ไม่กี่คน แต่สมัยหน้าเชื่อมั่นว่าจะเข้ามาได้อีกเยอะ
 

ขณะเดียวกันพื้นที่ภาคใต้เป็นการช่วงชิงระหว่าง 3 พรรค คือ พรรคปชป. พรรคภท. และพรรคพปชร. และการเลือกตั้งสมัยหน้าจะไม่เหมือนที่ผ่านมา ทำการบ้านมาตลอดว่าจะทำอย่างไร ให้สามารถชนะการเลือกตั้งได้เยอะที่สุด เฟ้นหาคนที่สามารถดูแลจังหวัดแต่ละจังหวัดที่มีความเข้มแข็ง เช่น จ.ระนอง ที่ไม่มีส.ส. แต่มีสจ.เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ และจ.ที่มีนายกอบจ.เป็นของเรา การเลือกอบต.ครั้งที่ผ่านมาชนะกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ 

ส่วน จ.พังงา ไม่มีส.ส.เป็นของเราแต่สามารถชนะการลือกตั้งอบต.ได้เยอะ ขณะที่จ.สุราษฎร์ธานี ก็มี นายกอบจ.ที่คอยดูแลการเมืองให้อยู่ จ.นราธิวาส มีคนทำงานที่แข็งและล่าสุดได้เปิดพื้นที่จ.พัทลุง มีตระกูลธรรมเพชร มาอยู่ด้วยทั้งหมด ดังนั้นการเมืองใน 14 จ.ภาคใต้ ในครั้งหน้ามีความคาดหวังแต่จะได้มากได้น้อยดูอีกที โดยภาคใต้ได้วางกลยุทธ์หรือตัวผู้สมัครแทบจะครบ 100 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตามตอนนี้ศึกภายในพปชร.จะต้องหยุดก่อน ต้องมองศึกการเลือกตั้งแล้ว เพราะระยะเวลาไม่เกิน 15 เดือนจากนี้ คือระยะเวลาแห่งการเตรียมตัวเลือกตั้งสำหรับนักการเมือง ถ้าไปเตรียมตัวก่อนเลือกตั้ง 2-3 เดือน คงไม่ทัน โดยเฉพาะว่าที่ผู้สมัครรายใหม่ที่ต้องทำให้ประชาชนในพื้นที่รู้จักตัวตนว่าจะมาทำอะไรให้ชาวบ้านในแต่ละพื้นที่ การเร่งสร้างคนขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคพปชร.มีความมั่นใจในหลายพื้นที่คิดว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าคิดว่าจะสามารถเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า รัฐบาลพรรคเดียวไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยประสบการณ์ทางการเมือง เมื่อกลับมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เชื่อมั่นว่าพรรคที่จะมีส.ส.ของตัวเองเหลือไม่กี่พรรค แต่จะมีแค่พรรคขนาดกลางและขนาดใหญ่

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ามองว่าเศรษฐกิจเป็นจุดสำคัญในการแข่งขันแต่พรรคพปชร.มีปัญหาทีมเศรษฐกิจย้ายออกไปในครั้งหน้าจะเตรียมตัวอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ข้อสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้าคือเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ ทุกพรรคก็เตรียมไว้ พรรคพปชร.ก็เตรียมแต่ยังไม่บอกต่อสาธารณะ เรื่องปากท้อง นโยบายต่างๆมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่ใช่เวลามาเปิดตัวตอนนี้ ของดีเอาไว้ขายใกล้ๆเลือกตั้ง และยังไม่ได้มีชื่อบิ๊กเนมมาเกี่ยวกับเรื่องนี้