ด่านหิน"ปชป."กู้ศรัทธา สกัด"เลือดเก่า"ไหลออก

ด่านหิน"ปชป."กู้ศรัทธา  สกัด"เลือดเก่า"ไหลออก

ศึกที่กำลังขนาบอยู่รอบด้าน บวกสภาวะ"เลือดไหล" ที่เกิดขึ้นยามนี้ กลายโจทย์ใหญ่ที่"ค่ายสีฟ้า"จะต้องเร่งสะสางให้ได้ เพราะยังมีด่านหินที่รออยู่หน้า นั่นคือการ "ชิงพื้นที่-กู้ศรัทธา-รักษาฐานเสียง" กลับคืนมา

ในห้วงที่การเมืองส่งสัญญาณเตรียมพร้อมรับศึกเลือกตั้ง ความเคลื่อนไหวของบรรดาพรรคการเมืองยามนี้ต่างเร่งจัดทัพเตรียมพร้อมสู้ศึกที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า

ไม่เว้นแม้แต่ “ค่ายสีฟ้า” อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ยามนี้จัดทัพรับ “ศึกใหญ่-ศึกย่อย” ที่จะมีขึ้น  เริ่มที่การเปิดตัว “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ชิงสนามผู้ว่าเมืองหลวง  

คู่ขนานไปกับการจัดทัพผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต ประกาศทวงคืนพื้นที่ ภายใต้โจทย์ใหญ่คือการ “ชิงพื้นที่-กู้วิกฤติศรัทธา-รักษาฐานเสียง”  ซึ่งเคยเป็นของ ปชป.แต่เดิมกลับคืนมา 

ไม่ต่างไปจากศึกเลือกตั้งซ่อม 3 สนามสำคัญ ที่จะเกิดขึ้นช่วงต้นปีหน้า นั่นคือ เขต 9 หลักสี่ กทม. เขต 1 ชุมพร เขต 6 สงขลา 

นอกจากที่ ปชป.เผชิญคู่แข่งสำคัญทั้งจากฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งพรรคเพื่อไทย และก้าวไกลแล้ว ยังมีศึกภายในขั้วเดียวกัน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล พลังประชารัฐ(พปชร.) ที่ล่าสุดส่งผู้สมัครท้าชนทั้ง 3 เขต ชนิดไม่มีใครยอมใคร

เช่นนี้จึงถือเป็นความท้าทายของ ปชป. โดยเฉพาะ 2 สนามเลือกตั้งซ่อมแดนสะตอ ทั้งชุมพร สงขลา และยังถือเป็นศึกพิสูจน์ฝีมือ “นายกชาย”  เดชอิศม์ ขาวทอง แม่ทัพใต้ค่ายสะตอคนใหม่ ซึ่งส่งศรีภรรยา “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ลงชิงชัยในฐานะที่มั่น จ.สงขลา ที่จะต้องนำทัพคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อรักษาพื้นที่ ปชป.ให้ได้

งานนี้ ปชป.อาจต้องปรับแผน ถอดบทเรียนจากเลือกตั้งซ่อมครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเขต 3 นครศรีธรรมราช ที่พรรคเสียพื้นที่ให้กับ “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” จากพรรคพลังประชารัฐ หรือก่อนหน้า คือการเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม ซึ่ง ปชป.พ่าย “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” จากพรรคชาติไทยพัฒนา 

ขณะที่สถานการณ์ภายใน ปชป.ยามนี้ ยังคงเกิดสภาวะ “เลือดไหล” ไม่หยุดหย่อน 

ล่าสุด กรณีของ “ศิรริศักดิ์ อ่อนละมัย” อดีตส.ส.ชุมพร 6 สมัย ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค 

มิหนำซ้ำยังประกาศหนุนคู่แข่งพรรคอย่าง “ชวลิต อาจหาญ” หรือ “ทนายแดง” ที่ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมชุมพร ในนามพลังประชารัฐ

ว่ากันว่า ก่อนหน้าการลาออก “ศิรริศักดิ์” คือผู้ที่พาทนายแดงเข้าพบ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จนค่าย พปชร. "กลับมติ" ส่งเลือกตั้งซ่อมเขตดังกล่าวในที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี นับตั้งแต่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคสีฟ้า มีการจับตาไปที่การลาออกของบรรดาอดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส. ไม่ว่าจะเป็น กรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ผู้ก่อตั้งพรรคกล้า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ผู้ก่อตั้งพรรคไทยภักดี 

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีต รมว.ยุติธรรม วิฑูรย์ นามบุตร อดีตแกนนำภาคอีสาน ซึ่งล่าสุดเปิดดีลย้ายสังกัดไปพรรคเพื่อไทย รวมถึง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ซึ่งคาดการณ์กันว่า จะเปิดตัวในนามพรรคเพื่ออนาคตไทยร่วมกับ กลุ่ม “สี่กุมาร”

สภาพปัญหาเลือดไหลออกไม่หยุดเช่นนี้ จึงกลายเป็น “ด่านหิน” ที่บรรดาแกนนำค่ายสีฟ้าต่างรู้ดี ต้องเร่งห้ามเลือดที่ไหลอยู่ ณ เวลานี้ให้ได้ เพราะยังมีโจทย์ใหญ่นั่นคือการ "ปรับแผน" แก้เกมสู่การเลือกตั้งสนามใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากนี้