"เดชอิศม์ ขาวทอง" เสือปักษ์ใต้คะนองศึก แม่ทัพนอกพิมพ์นิยม ปชป.

"เดชอิศม์ ขาวทอง" เสือปักษ์ใต้คะนองศึก แม่ทัพนอกพิมพ์นิยม ปชป.

"เดชอิศม์ ขาวทอง" ผู้ถอดแบบ "จองชัย เที่ยงธรรม" ยึดคติไม่มีพรรคมีแต่พวก ขออาสาเป็นแม่ทัพใต้รบกับ ธรรมนัส เนวิน และเจ๊เปี๊ยะ

พลันปรากฎชื่อ "เดชอิศม์ ขาวทอง" ส.ส.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ชนะ "ชินวรณ์ บุณยเกียรติ" ส.ส.นครศรีธรรมราช 9 สมัย ด้วยคะแนนเสียง 60% ต่อ 31.1% คว้าเก้าอี้รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ไปครองพร้อมส่งสัญญาณท้ารบกับธรรมนัส เนวิน และเจ๊เปี๊ยะ 

"จะเอาที่นั่งส.ส.ภาคใต้กลับมาให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต่ำกว่า 35 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า"

หลายคนอาจกังขา เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา 1 สมัย ทำไมจึงหาญกล้าลงแข่งกับ ส.ส.รุ่นใหญ่ หากมองสถานการณ์ของค่าย ปชป. ยุคที่มีเลขาธิการพรรคชื่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน แล้วจะได้คำตอบของเรื่องนี้
 เดชอิศม์ ขาวทอง หรือที่ชาวสงขลาเรียกกันติดปากว่า "นายกชาย" มีคติประจำใจที่ว่า ไม่มีพรรค มีแต่พวก และเพื่อน ซึ่งนักการเมืองแบบเดชอิศม์ อาจไม่ใช่พิมพ์นิยมของ ปชป. เพราะเขาถอดแบบจาก จองชัย เที่ยงธรรม
 
แฟนพันธุ์แท้ ปชป. จึงรู้สึกแปลกๆ กับวิธีการบริหารพรรคสไตล์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ส่งผลให้ ส.ส.สมัยแรกอย่าง เดชอิศม์ ขาวทอง และชัยชนะ เดชเดโช ก้าวขึ้นมาผู้นำได้

"ศิษย์เอกจองชัย"

เส้นทางการเมืองของ วรวิทย์ ขาวทอง หรือ “เดชอิศม์ ขาวทอง” เกิดที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ก้าวสู่ถนนการเมืองท้องถิ่น เป็น สจ.สงขลา เขต อ.รัตภูมิ และเป็นนายก อบจ.สงขลา สมัยเลือกทางอ้อม ผู้คนจึงเรียก “นายกชาย”
 

สมัยเดชอิศม์ เป็น สจ.สงขลา ก็ทำหน้าที่เป็นหัวคะแนนให้ถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. อีกด้านหนึ่ง เดชอิศม์เคารพนับถือ จองชัย เที่ยงธรรม อดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.พรรคชาติไทย โดยสนิทสนมขนาดได้รับอนุญาตให้เรียกป๊าจองชัยได้
 
เลือกตั้งปี 2548 เดชอิศม์ อยากลงสมัคร ส.ส.สงขลา ในสีเสื้อพรรค ปชป. แต่ไม่มีที่ว่าง เดชอิศม์จึงไปสวมเสื้อพรรคไทยรักไทย ลงสนามสงขลา เขต 5 แต่ก็พ่ายประพร เอกอุรุ ตัวแทนของ นิพนธ์ บุญญามณี พรรค ปชป.
 
ปี 2551 ถาวร เสนเนียม สนับสนุนเดชอิศม์ ลงชิงนายก อบจ.สงขลา แข่งกับ นวพล บุญญามณี น้องชายนิพนธ์ ผลปรากฏว่า เดชอิศม์ แพ้ยกแรก
 
ปี 2552 นวพล บุญญามณี ถูก กกต. แจกใบเหลือง ต้องเลือกตั้งนายก อบจ.ใหม่ ค่ายนิพนธ์ส่งอุทิศ ชูช่วย ลงสนาม ชนคู่ปรับเก่าเดชอิศม์ แต่เที่ยวนี้ค่ายถาวร ก็พ่ายซ้ำสอง
 
หลังพ่ายเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา 2 ครั้งซ้อน เดชอิศม์ก็เดินหน้าทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และช่วยเหลือเพื่อนฝูงตามประสาคนใจใหญ่ ใจถึงพึ่งได้
 

ก่อนเลือกตั้งปี 2562 เดชอิศม์พยายามเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป. โดยการสนับสนุนของถาวร และในที่สุด นายกชายก็ได้สวมเสื้อ ปชป.สมใจปรารถนา


"บ้านใหญ่สงขลา"

เลือกตั้งครั้งที่แล้ว ค่าย ปชป.พ่ายยับในสนาม 14 จังหวัดภาคใต้ แต่ “เดชอิศม์ ขาวทอง” ได้รับเลือกเป็น ส.ส.สมัยแรก และได้คะแนนมากที่สุดใน จ.สงขลา
 
ปลายปี 2563 ถาวร เสนเนียม ,นิพนธ์ บุญญามณี และเดชอิศม์ ขาวทอง ร่วมกันสนับสนุนไพเจน มากสุวรรณ์ ลงชิงนายก อบจ.สงขลา ชน พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ค่ายพลังประชารัฐ แต่ไพเจนก็ชนะขาดลอย นอกจากนี้ เดชอิศม์ ยังส่งภรรยาน้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล เข้าไปเป็นรองนายก อบจ.สงขลา คนที่ 2
 
หลังศึก อบจ.สงขลา ทำให้เดชอิศม์ เปล่งบารมีอย่างสูงในสนามการเมืองสงขลา บวกกับการได้รับความไว้วางใจจากเฉลิมชัย ศรีอ่อน เขาจึงวางแผนการเมืองในอนาคต โดยวางตัว สุภาพร กำเนิดผล เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 สงขลา หลังถาวร เสนเนียม ถูกตัดสิทธิ์อันเนื่องจากคดี กปปส.
 
พร้อมกันนั้น เดชอิศม์ ยังส่งลูกชาย ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ไปเดินพบปะชาวบ้านในเขต 3 ซึ่งเป็นเขตเดิมของวิรัตน์ กัลยาศิริ (เสียชีวิตแล้ว) ส่วนลูกชายอีกคนหนึ่งคือ วงศ์วชิระ ขาวทอง เป็น ส.อบจ.สงขลา เขต 1 อ.รัตภูมิ
 
การเมืองสงขลาวันนี้ ชีวิตของ "ถาวร เสนเนียม" เสมือนยามตะวันลาลับ แต่ "เดชอิศม์ ขาวทอง" ไม่ต่างจากยามตะวันรุ่ง อนาคต ปชป.ภาคใต้มีการเปลี่ยนแปลงแน่ แต่จะกลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตหรือไม่ การเลือกตั้งครั้งหน้ามีคำตอบ