“บิ๊กป้อม”เอาไม่อยู่ - “บิ๊กตู่”ไม่ฟาด ศึก พปชร.ลาม “สงครามข่าว”

“บิ๊กป้อม”เอาไม่อยู่ - “บิ๊กตู่”ไม่ฟาด ศึก พปชร.ลาม “สงครามข่าว”

ปัญหาที่ผ่านมาอยู่ที่ตัว “ประยุทธ์” เองที่ไม่กล้าฟาดแรง ไม่แตกหักกับพี่ใหญ่ ที่เลือกให้อำนาจ “ธรรมนัส” เกินเบอร์ ส่วน "ประวิตร" คุมสภาพในพรรคแทบไม่อยู่ จนไม่รู้ตัวว่าเงื่อนไขความขัดแย้งอยู่ที่ตัวเอง

เคลียร์อย่างไรก็ไม่จบ ศึกพรรคพลังประชารัฐเชื้อปะทุยังมีอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดปรับยุทธวิธีจากเปิดหน้ารบ มาใช้กลยุทธด้านการข่าว มีเป้าหมายให้ “3 ป.” ระแวงกันอีกระลอก

เที่ยวนี้ พุ่งเป้าโจมตีไปที่ “กลุ่มสามมิตร” ที่นำโดย “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม “อนุชา นาคาศัย” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งระยะหลังยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ “บิ๊กตู่”  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ทัพหลวงของ “ประยุทธ์” ก็ไม่สามารถเข้ายึดพรรคพลังประชารัฐได้ 

เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นเหมือน ป้อมปราการขวางทางอยู่

ที่สำคัญ “บิ๊กป้อม” ยังให้อำนาจเต็ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค กำหนดทิศทางความเคลื่อนไหวภายในพรรคเช่นเดิม ส่งผลให้คู่ปรับ-คู่แค้นภายในพลังประชารัฐ หวาดระแวงกับทุกย่างก้าวที่หัวหน้าและเลขาฯเคลื่อนเกมการเมือง

ไม่ใช่แค่ “กลุ่มสามมิตร” ที่ขึ้นสถานะอยู่ยาก รวมไปถึงกลุ่ม-ก๊วนของ “3 รัฐมนตรี” “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดีอีเอส “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงาน “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง สายตรง “นายกฯประยุทธ์” ก็เช่นกัน

เวลานี้ศึกรอบใหม่ในพลังประชารัฐ กลายเป็นสงครามข่าว ที่ปล่อยเพื่อปั่นกระแสหนัก พุ่งเป้า“กลุ่มสามมิตร”เคลื่อนไหวเรื่องการย้ายพรรค และถูกดูดด้วยสารพัดเงื่อนไข 

จากกรณีคุยในทางลับ ที่มีชื่อของ “สมศักดิ์” ต่อสายคุยกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ทักษิณ ชินวัตร จึงถูกจับโยงว่า เตรียมยกโขยงกลับพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ จะว่าไปแล้ว “สมศักดิ์” กับ “เยาวภา” ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล สัมพันธ์ทางการเมืองยังถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน 

ในทางกลับกัน ท่ามกลางสงครามข่าว “กลุ่มสามมิตร” กลับมาอยู่ในความสนใจ จากข่าวปล่อย ซึ่งมองเหลี่ยมไหน ก็ได้ประโยชน์มากกว่าเสีย

อีกทั้ง วิธีเล่นการเมืองแบบเพลย์เซฟของ “สมศักดิ์” และพรรคพวกที่ผ่านมาหลายสมรภูมิ จึงไม่ด่วนตัดสินใจใดๆ ยิ่งสถานการณ์เวลานี้ “สามมิตร” แทบจะปิดประตูใส่เพื่อไทย เพราะมองมุมไหนก็ยากที่พรรคคนแดนไกล จะกลับมามีอำนาจหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ง่ายอย่างที่หวัง

ถึงกระนั้นทางเลือกของ “กลุ่มสามมิตร” ก็ฝากไว้กับนายกฯ “ประยุทธ์” หากเดินเกมเบ็ดเสร็จเด็ดขาด “กลุ่มสามมิตร” ก็พร้อมร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน

ทว่า ปัญหาที่ผ่านมาอยู่ที่ตัว “ประยุทธ์” เอง ที่ไม่กล้าฟาดแรง ไม่แตกหักกับพี่ใหญ่ “ประวิตร” ที่เลือกใช้ ให้อำนาจ และปกป้อง “ธรรมนัส” เกินเบอร์

อย่างไรก็ตาม ยังมีเวลาให้ตัดสินใจ จึงไม่ควรมองข้ามทางเลือกของ “กลุ่มสามมิตร” ที่มีโอกาสยกขบวนออกจากพลังประชารัฐได้ทุกเมื่อ หากถูกตัดตอน ลดทอนอำนาจลงไปเรื่อยๆ 

ล่าสุด กรณีการตัดสินใจส่งผู้สมัคร ส.ส.น่าน เป็นตัวอย่างชัดเจนที่ “ประวิตร-ธรรมนัส” เลือกเปิดตัว “ฉัตรชัย จิตตรง” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดน่าน ทั้งที่การเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 พลังประชารัฐส่ง “คุณดร งามธุระ” ลงชิงพื้นที่นี้่ และกวาดมาได้ 22,640 คะแนน

“คุณดร” ซึ่งเป็นสายตรงของ “กลุ่มสามมิตร” ที่หมดโอกาสได้ลุ้นรอบนี้ เชื่อว่า โดนอิทธิฤทธิ์ของ “ธรรมนัส” เตะสกัด ทำให้ “สมศักดิ์-สุริยะ” ออกอาการไม่พอใจอย่างมาก และเฝ้าจับตาว่า ส.ส.-ผู้สมัครส.ส.เกรดเอ ของ “กลุ่มสามมิตร” จะถูกเขี่ยออกอีกกี่ราย

เมื่อประเมินท่าทีของ “หัวหน้า-เลขาฯ” ที่ดูเหมือนไม่ใยดี จึงเสมือนการกระชับพื้นที่กลุ่มสามมิตรในพรรคให้เล็กลงเรื่อยๆ   

 ว่ากันว่า หนึ่งในโมเดลของ “สมศักดิ์-สุริยะ” คือตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ติดตรงเงื่อนเวลาที่ต้องดำเนินกิจกรรมของพรรคตามกรอบที่รัฐธรรมนูญเขียนเอาไว้ ซึ่งใช้เวลานาน โดยเฉพาะการตั้งสาขาพรรค อาจส่งผู้สมัครส.ส.ไม่ทัน

จึงมีอีกทางเลือก คือการหาพรรคที่มีความพร้อม สามารถส่งผู้สมัครลง ส.ส.ได้ทันที ที่ย้ายเข้าสังกัด

ชั่วโมงนี้ “สมศักดิ์-สุริยะ” หัวขบวนสามมิตร สแตนบายรอไฟเขียวจากนายกฯ"บิ๊กตู่” เพียงคนเดียว หากไม่มีสัญญาณให้ไปจากพลังประชารัฐด้วยกัน แผนทุกอย่างก็ยังพับเก็บไว้ในลิ้นชัก

การเมืองในพลังประชารัฐที่ “ประยุทธ์-สามมิตร” ไม่อาจหักหาญ “พี่ใหญ่” ที่มองมุมไหนก็ไม่ทันเกม และคุมสภาพในพรรคแทบไม่อยู่ จนไม่รู้ตัวว่าเงื่อนไขความขัดแย้ง อยู่ที่ตัวเอง