โฆษกฯ แจง "เสรีพิศุทธ์" ใช้รถทหารช่วยภาคขนส่ง แค่แผนสำรองกรณีปชช.เดือดร้อน

โฆษกฯ แจง "เสรีพิศุทธ์" ใช้รถทหารช่วยภาคขนส่ง แค่แผนสำรองกรณีปชช.เดือดร้อน

โฆษกรัฐบาลแจง "เสรีพิศุทธ์" ใช้รถทหารช่วยภาคขนส่งแค่แผนสำรอง กรณีที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ยัน "นายกฯ" เร่งแก้ปัญหาทั้งระบบยึดประชาชนเป็นหลัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่ากรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้กองทัพเตรียมใช้รถทหารช่วยขนส่งแทนรถบรรทุกหากมีการประท้วงหยุดงานนั้น จะยิ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนเข้าไปอีกว่า อยากเรียนชี้แจงกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เพื่อจะได้เข้าใจอย่างถูกต้องว่า การใช้รถทหารช่วยขนส่งแทนรถบรรทุกหากมีการประท้วงหยุดงานนั้น เป็นแผนสำรองในกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆ เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนเท่านั้น อยากให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อ่านข่าวให้จบทุกบรรทัดก่อนแล้วค่อยออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่ใช่อ่านแค่พาดหัวข่าวแล้วก็รีบออกมาพูดผ่านสื่อ เพราะรังแต่จะยิ่งสร้างความสับสนให้กับประชาชน
 

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า ทหารไม่มีงานทำหรือ ถึงมีเวลาว่างพอที่จะเอารถที่ใช้ในราชการทหารออกมาช่วยขนส่งให้กับประชาชนนั้น งานของทหารคือ การดูแลช่วยเหลือประชาชน และรถที่ใช้ในราชการทหารก็มาจากภาษีของประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเอารถทหารไปใช้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังลำบาก ที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ก็ยังมีการนำรถทหารเพื่อช่วยขนย้ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาแล้วทุกรัฐบาล คงมีแต่คนใจแคบเท่านั้น ที่ไม่คิดจะช่วยเหลือประชาชนที่กำลังลำบาก ทั้งนี้ ในส่วนของการแก้ปัญหานั้น คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 มีมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน โดยให้กองทุนน้ำมันตรึงราคากลุ่มราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร แม้ราคาพลังงานตลาดโลกจะมีแนวโน้มขาขึ้น

 

และล่าสุด  ครม. เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 เห็นชอบการขออนุมัติกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน โดยให้ สกนช. ดำเนินการกู้เฉพาะวงเงิน 20,000 ล้านบาท ตามกรอบของกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ และจะดำเนินการกู้เงินเพิ่มเติมวงเงิน 10,000 ล้านบาท ได้ต่อเมื่อ ร่าง พ.ร.ฎ. เปลี่ยนแปลงกรอบวงเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศฯ มีผลบังคับใช้แล้ว ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ นายกแก้ปัญหาโดยยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก