ศาล รธน.วางโซนรักษาความสงบ 10 พ.ย.ชี้ขาด “ม็อบราษฎร” ล้มการปกครองหรือไม่ฯ

ศาล รธน.วางโซนรักษาความสงบ 10 พ.ย.ชี้ขาด “ม็อบราษฎร” ล้มการปกครองหรือไม่ฯ

“ศาล รธน.” ออกประกาศเข้ม! กำหนดอาณาบริเวณศาล-อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการฯ เป็น “พื้นที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย” วันอ่านคำวินิจฉัย 10 พ.ย. ปม “ม็อบราษฎร” ล้มล้างการปกครองฯ หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่ประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่อง อาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ลงนามโดยนายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเตรียมพร้อมการอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 10 พ.ย. 2564 กรณีการชุมนุมของ “ม็อบราษฎรล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่

โดยสาระสำคัญของประกาศดังกล่าวคือ กำหนดให้อาณาบริเวณหรือพื้นที่ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายประกาศนี้ เป็นอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย โดยในแผนที่ดังกล่าวหมายรวมถึงสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และทั้งอาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ด้วย โดยกำหนดเวลาของวันที่ 10 พ.ย. 2564 ตั้งแต่ 00.01-23.59 นาฬิกา

ศาล รธน.วางโซนรักษาความสงบ 10 พ.ย.ชี้ขาด “ม็อบราษฎร” ล้มการปกครองหรือไม่ฯ

ทั้งนี้ในวันที่ 10 พ.ย. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีที่นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของกลุ่มแกนนำแนวร่วม “ม็อบราษฎร” ได้แก่ นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก (ไมค์) น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิ้น) น.สจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ (อั๋ว) น.ส.สิริพัชระ จึงธีรพานิช นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ น.ส.อาทิตยา พรพรม รวม 8 ราย ในการชุมนุมปราศรัยเพื่อเสนอข้อเรียกร้อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่

โดยศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องเฉพาะการกระทำในการชุมนุมปราศรัยของนายอานนท์ นำภา นายภาณุพงศ์ จาดนอก และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (ผู้ถูกร้องที่ 1-3) กรณีปราศรัยเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2563 ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยให้ผู้ถูกร้องทั้ง 3 ราย ยื่นคำร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (อัยการสูงสุด, สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, สำนักข่าวกรองแห่งชาติ, ม.ธรรมศาสตร์) จัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว

ศาลรัฐธรรมนูญ อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง ในวันที่ 10 พ.ย. 2564 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดีชั้น 3 ศาลรัฐธรรมนูญ