ตร.ดาหน้าแจงยิบ ปมรถนำขบวน "หมอบุญ" ชี้เหตุฉุกเฉิน ปชช.มีสิทธิ์

ตร.ดาหน้าแจงยิบ ปมรถนำขบวน "หมอบุญ" ชี้เหตุฉุกเฉิน ปชช.มีสิทธิ์

รอง ผบ.ตร. รอผลสอบปมรถตำรวจจราจรอำนวยความสะดวกรถ "หมอบุญ" ยันไม่ใช่วีไอพี-ไม่ใช่นำขบวน ขณะ ที่ นครบาล แจง “ระเบียบนำขบวน” ทุกกรณีฉุกเฉินประชาชนมีสิทธิ์

4 พ.ย. 2564 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีตำรวจจราจรนำขบวนรถเบนซ์ของ นพ.บุญ วนาสิน หรือ “หมอบุญ” ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด ว่า ตามระเบียบการนำขบวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ได้มีการอนุมัติเป็นระเบียบไว้ จะมีบุคคลลสำคัญ เช่น บุคคลในรัฐบาล ประธานสภา รัฐมนตรี ฯลฯ

แต่กรณีที่ปรากฏเป็นข่าว น่าจะไม่ใช่การนำขบวน แต่เป็นเรื่องของในสถานี ซึ่งได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตรวจสอบว่าเป็นกรณีจำเป็น หรือเป็นเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนหรือไม่ อย่างไร ถ้าเกิดไม่เข้าข่ายถูกต้องตามระเบียบ ก็ต้องพิจารณาข้อบกพร่อง 

เบื้องต้น ได้รับรายงาน ระบุ ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางเดินรถทางเดียว แต่ในช่วงเวลาที่เกิดเรื่องอาจมีสภาพการจราจรที่ติดขัด และเห็นว่ามีตำรวจจราจรในพื้นที่ไปอำนวยความสะดวกในเส้นทางนั้น ส่วนจะถูกต้องหรือไม่ จะขอเวลาตรวจสอบจากทางนครบาลอีกครั้งหนึ่ง หากทำไปโดยพละการหรือไม่มีเหตุผลเพียงพอ ก็ถือว่าบกพร่อง ทั้งนี้ คนที่ถ่ายคลิปอาจไม่รู้ว่า จุดนั้นเป็นเส้นทางเดินรถทางเดียว ไม่ใช่เส้นทางที่รถวิ่งสวนกันได้ เพราะเป็นการจัดจราจรให้เดินรถทางเดียว

 

 

 

 

ส่วนกรณีไม่ใช่บุคคลสำคัญ ก็ต้องพิจารณาการชี้แจงว่า มีเหตุผลอะไร เป็นเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็นหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เหตุผลฉุกเฉินหรือจำเป็นก็ถือว่าบกพร่อง

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จากกระแส ระบุ เหตุผลการอำนวยความสะดวกเพื่อให้หมอไปเซ็นรับวัคซีน จะถือว่ามีความจำเป็นหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้าเกิดว่าเข้าข่ายจำเป็นฉุกเฉินหรือเป็นประโยชน์ต่อภาพรวม ก็ถือว่าอาจจะเข้าข่ายจำเป็น แต่ทั้งนี้ต้องดูข้อเท็จจริง เพราะตนยังไม่ได้รับรายงานเป็นทางการ

พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กล่าวฝากไปยังผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่อาจสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน ว่า ขอให้ต้องระมัดระวังการทำงานทุกอย่างของตำรวจ ต้องอยู่ในกรอบแนวทางตามนโยบายที่ดีต่อส่วนรวม การทำงานต่างๆ ก็ต้องคำนึงว่า ปัจจุบัน ถูก ตรวจสอบได้ง่าย ทำอะไรก็ให้คำนึงให้ดีว่า ทำได้ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร ถ้าทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องถูกวินัย ไม่เป็นข้อบกพร่อง แต่หากทำถูกแล้วก็ไม่เป็นไร

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ออกมาชี้แจงซ้ำถึงประเด็นดังกล่าวว่า เบื้องต้น ยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีสิทธิที่จะขอมีรถนำขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร เว้นแต่เกิดเหตุเจ็บป่วย ฉุกเฉิน เร่งด่วน ซึ่งกรณีฉุกเฉิน ประชาชนโดยทั่วไปล้วนมีสิทธิขออำนวยความสะดวกได้เช่นกัน

ส่วนกรณีนี้ ได้กำชับให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงมาให้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) โดยเร็วที่สุดว่า ตำรวจนายดังกล่าวมีการนำขบวนจริงหรือไม่ หากเป็นการนำขบวน มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนใด และถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ หากพบว่า ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามระเบียบ ก็ต้องลงโทษทางวินัย ส่วนตำรวจจจราจรในภาพจะเข้าข่ายว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ต้องรอรายงานจากทาง สน.ทองหล่อ อีกครั้ง ซึ่งทราบว่า ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

ขณะเดียวกันยอมรับว่า สาเหตุของเรื่อง เกิดจากความบกพร่องของตำรวจจราจร ที่ไม่มีติดป้ายเตือนการใช้รถทางเดียว หรือไม่ได้ติดตั้งรั้วกั้น หรือกรวยยางในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่ใช้ทางเข้าใจคลาดเคลื่อน ว่า เปิดเส้นทางจราจรตามปกติ

พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของเรื่องระเบียบการขอรถนำขบวน ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน บุคคลที่ไม่ได้มีสิทธิ์มีรถนำขบวนโดยตำแหน่ง ต้องทำเรื่องเป็นทางการมาให้ทาง กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) พิจารณาก่อน และจะต้องพิจารณาในความเหมาะสมหรือเหตุอันจำเป็นหรือไม่ ส่วนบุคคลที่มีตำแหน่งทางการเมืองที่มีรถนำในตำแหน่งอยู่แล้ว ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาต เพราะถือเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่จำเป็น

ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. กล่าวถึงการทำงานของตำรวจจราจรให้ยึดมั่นในระเบียบและหน้าที่ ซึ่งทุกคนต้องทราบถึงหลักปฏิบัติด้านงานจราจรอยู่แล้ว หากเป็นเหตุเร่งด่วนสามารถเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาต สามารถขอความช่วยเหลือได้ทันที ขออย่าให้ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ตามหน้าที่โดยปกติอย่าเสียกำลังใจ ขอให้ตั้งใจทำงาน แต่ส่วนของบุคคลที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ก็อย่าได้ฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติที่มีไว้อยู่แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น โดยให้ พ.ต.ท.ณรงค์วิช สุดกังวาล รอง ผกก.จร.สน.ทองหล่อ เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อไต่สวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ พ.ต.ต.สังเวียน คำรังษี สว.จร.สน.ทองหล่อ ซึ่งปรากฎในคลิปภาพอยู่ในเหตุการณ์ได้อย่างไร ก่อนจะสรุปผลแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป