นับถอยหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. “นายกฯ” กำชับ 3 มาตรการเฝ้าระวัง-ติดตามใกล้ชิด

นับถอยหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. “นายกฯ” กำชับ 3 มาตรการเฝ้าระวัง-ติดตามใกล้ชิด

นับถอยหลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. “นายกฯ” สั่งกำชับมาตรการเฝ้าระวัง 3 ส่วนหลัก ให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด มั่นใจระบบสาธารณสุขของไทยต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายทุกภาคส่วนราชการจัดเตรียมมาตรการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ หลังการเปิดประเทศอย่างปลอดภัยในวันที่ 1 พ.ย. 2564 กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จัดทำข้อกำหนดการดำเนินงาน เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลกิจการประเมิน ติดตาม และเฝ้าระวัง สถานประกอบการต่าง ๆ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

ส่วนที่ 1 Self Certification : ให้สถานประกอบการทุก Setting ลงทะเบียน ประเมินตนเองบนระบบ Thai Stop COVID Plus เพื่อยกระดับตามมาตรการ COVID Free Setting และให้ทุกสถานประกอบการติด E-Certificated ในจุดที่ผู้ใช้บริการเห็นเด่นชัด

อ่านข่าว : สรุป 3 ข้อปฏิบัติ "นักท่องเที่ยว" ต่างชาติเข้าไทย รับแผนเปิดประเทศ 1 พ.ย.64

ส่วนที่ 2 People Voice : ประชาชนสามารถประเมิน แนะนำ ติชม ร้องเรียน สถานประกอบการในพื้นที่ COVID Free Area/Zone ผ่านช่องทาง QR Code ใน E-Certificate , Website Thai Stop COVID Plus และ เฟซบุ๊ก “ผู้พิทักษ์อนามัย (COVID Watch)” และ

ส่วนที่ 3 Active Inspection : จัดตั้งคณะกรรมการ ร่วมตรวจ กำกับ COVID Free Area/Zone ภาครัฐและภาคประชาชน ตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ กำกับมาตรการตาม พรบ.การสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดทำ Checklist และเป้าหมาย โดยตรวจสอบข้อมูลบน Thai Stop COVID Plus ให้คำแนะนำ ตักเตือน กิจการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด (พรบ.การสาธารณสุข พรบ.โรคติดต่อ พรบ.สถานบริการ และ พรก.ฉุกเฉิน)

นายธนกร กล่าวอีกว่า เมื่อมีการเปิดประเทศแล้ว คณะกรรมการบูรณาการจากทุกภาคส่วนจะดำเนินการตรวจสอบและประเมินทุก 2 สัปดาห์ รวมทั้งแต่ละหน่วยจะมืการจัดทำแผนเผชิญเหตุและความพร้อมทรัพยากร เช่น โรงพยาบาลสนาม พื้นที่สำหรับการกักตัว/แยกกัก เวชภัณฑ์/ยา ด้วย สำหรับยอดการฉีดวัคซีน สถิติการฉีดวัคซีน ภาพรวมทั่วประเทศ ณ 28 ต.ค. นี้ แบ่งเป็นการฉีดเข็มแรกแล้ว 57.63% เข็มสอง 41.47 % กทม. และปริมณฑล เข็มแรก สูงสุด 88.28% และเข็มสอง 64.85%

นายธนกร กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจระบบสาธารณสุขของไทยต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัย ในการเตรียมมาตรการรองรับในการป้องกันตนเองหลังเปิดประเทศ ประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ Universal Prevention เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศ จะผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน การเปิดประเทศแล้วไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่จะอยู่ในระดับที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ รัฐบาลพร้อมชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจ และขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการรองรับและระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็ง ขณะนี้หลายประเทศจับตาดูไทยและจะจัดทำพื้นที่ท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ตามรูปแบบของประเทศไทยด้วย