“3 สตรี”บารมีเหนือพรรค เปิดศึกชิงนายกฯ”เพื่อไทย”

“3 สตรี”บารมีเหนือพรรค  เปิดศึกชิงนายกฯ”เพื่อไทย”

ความอลหม่านในพรรคเพื่อไทย เป็นศึกหนักสำหรับ“ทักษิณ” ว่าจะเคลียร์ปัญหา “3 สตรี”ในครอบครัวอย่างไร หากไม่มีฝ่ายใดยอมลดราวาศอก แคนดิเดตนายกฯ ก็อาจตกเป็นของ “ตาอยู่” ในตระกูลเครือญาติอีกราย 

บรรยากาศในพรรคเพื่อไทย (พท.) คึกคักเป็นพิเศษ ประหนึ่งแต่งตัวรอจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบสำเร็จไปเกินครึ่งทาง บรรดาแกนนำพรรค-แกนนำก๊วน-ส.ส.ขยับจับจองเก้าอี้รัฐมนตรีกันตั้งแต่ไก่โห่

เช่นเดียวกับ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ค่อนข้างมั่นใจว่า จะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ชนะแบบไม่มีโอกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และเครือข่าย คสช. ได้จัดตั้งรัฐบาล แม้จะมี 250 ส.ว. คอยยกมือโหวตให้อีกรอบ

เมื่อ “ทักษิณ-เพื่อไทย” เชื่อว่าจะคัมแบ็คกลับมาครองอำนาจรัฐได้ ปฏิบัติการแย่งชามข้าวจึงเปิดฉากขึ้นทันที 

โดยเฉพาะคนใน “ตระกูลชินวัตร” ที่แตกหน่อออกกอ แบ่งเป็นหลายสาย เคลื่อนไหวส่ง “คนใกล้ชิด” เข้ามายึดตำแหน่งในพรรค ที่สำคัญเตรียมส่งคนของตัวเองเข้าชิงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

คลิปเสียงที่ “เกรียง กัลป์ตินันท์” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำภาคอีสาน ยิงคำถามตรงใส่ “ทักษิณ” เทียบเชิญให้ “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ดามาพงศ์ ณ ป้อมเพ็ชร เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แม้ “ทักษิณ” จะออกตัวปฏิเสธ แต่ทุกความเคลื่อนไหวของ “เกรียง” คือปฏิบัติการที่คิดมาก่อนส่งสัญญาณไปยัง “ทักษิณ” แล้ว

ชั่วโมงนี้ “คนเพื่อไทย” รู้ดีว่าข่าวปล่อย-ข่าวลือ “แคนดิเดตนายกฯ” ออกมาจาก “คนตระกูลชินวัตร” ที่เริ่มขยับส่งคนใกล้ชิดเข้าประกวด เพื่อวัดกำลังกันว่า ใครสายไหน ใครสายตรง ใครเลือดแท้​

การคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯ กำลังก่อศึก “ตระกูลชินวัตร” อีกคำรบหนึ่ง โดยมี “3 สตรี” หลังม่าน ที่แบ่งขั้วเพื่อไทยออกเป็นสามก๊ก เดินเกมวัดกำลังภายในกันอย่างหนัก เพื่อกล่อมให้ “ทักษิณ” เคาะเลือกคนของตัวเอง

"ก๊กหญิงใหญ่” พจมาน ส่งคนสนิทอย่าง “เจ๊แจ๋ว” จุฑารัตน์ เมนะเศวต เข้าไปคุมเกมการเมือง คุมเกมการเงิน คอลโทรลทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เพื่อคุมอำนาจเบ็ดเสร็จในการกำหนดทุกความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย

โดย “พจมาน” ไม่ได้สนใจตำแหน่งหัวพรรค ไม่ได้สนใจเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วยตัวเอง แต่วางสถานะกำกับอยู่หลังฉาก โดยการเดินเกมที่ผ่านมา เป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีพลัง จึงทำให้อีก “ 2 สตรี” น้องสาวสามี ไม่ค่อยพอใจ

ที่สำคัญ “พจมาน” ต้องการผลักดันให้ “เขยชินวัตร” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ที่สนใจการเมืองอย่างยิ่ง เข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยพยายามเกลี่ยกล่อมลูกสาวคนกลาง "เอม” พิณทองทา ชินวัตร ให้ไฟเขียวสามีลงสนามการเมือง แต่ลูกสาวคนที่ไม่เคยแตะการเมือง ก็ยังกล้าๆ กลัวๆ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “คนตระกูลชินวัตร” ที่ไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินไทย

ทว่า ต้องฝ่าด่าน “ 2 หญิง” ไปให้ได้ เพราะตั้งท่าขวางอย่างเต็มที่

“ก๊กหญิงกลาง” เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ช่วงหลังเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังต้องหลบฉากไปพร้อมกับการรื้อคดีจำนำข้าวภาค 2 ล่าสุด มีกระแสข่าวว่า “เยาวภา” ต้องการผลักดันให้สามี “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยในรอบนี้

ดังนั้น ความเคลื่อนไหวของ “เกรียง” ที่เจตนาปล่อยชื่อ “พจมาน” ออกมา จึงถูกเชื่อมโยงกับ “เยาวภา” ทันที เพราะ“เกรียง” คือมือทำงานเบอร์ต้นของเยาวภา ทั้งงานการเมือง งานทางธุรกิจ จึงมองเหลี่ยมกันออกว่าเยาวภาส่งมือไม้มากันท่า “พจมาน” ไม่ให้ยึดพรรคเบ็ดเสร็จ

ยี่ห้อ “เกรียง” รู้ลึกอยู่แล้วว่า “คุณหญิงพจมาน” ไม่มีทางลงมาเล่นการเมืองเอง เพียงแต่ต้องการปรามคนใกล้ชิดรอบตัวที่เกือบจะยึดพรรค ให้หันมาเหลียวแล “ส.ส.บ้านนอก” ที่ไม่ใช่สายตรงคุณหญิงด้วย

ต้องไม่ลืมว่า “เยาวภา” มีลูกทีมโซนภาคเหนือที่ยังดูแลกันอย่างดี แม้ระยะหลังบารมีจะตกลงไปบ้าง แต่หากรวมกลุ่ม-รวมก๊กกันได้ ก็ยังพอมีพลังต่อรองได้ไม่น้อย ่

“ก๊กหญิงเล็ก” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามโปรโมท “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน เพื่อนสนิท เข้าชิงแคนดิเดตนายกฯ โดย “ยิ่งลักษณ์” ออกแรงเชียร์เพราะภาพลักษณ์ของ “เศรษฐา” อยู่ระหว่างความเชื่อมต่อของคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า ที่อาจจะลงล็อกกันพอดี

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา “เศรษฐา” เปิดตัวกับสื่ออย่างชัดเจน ถึงแนวคิดการบริหารประเทศ แนวคิดทางการเมือง จนเรียกได้ว่าหากสื่อไหนไม่มีคอนเทนต์เกี่ยวกับ “เศรษฐา” ถือว่าตกยุค-ตกขบวน

นอกจากนี้ “ยิ่งลักษณ์” พยายามผลักดันให้ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” มือทำงานข้างกาย เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อคุมการบริหารพรรค เนื่องจากรู้ดีว่า การบริหารเชิงยุทธศาสตร์ “พจมาน” คุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จแล้ว ทางเดียวที่พอจะต่อรองให้คนใกล้ชิดเข้ามาบริหารพรรคได้คือตำแหน่งหัวหน้าพรรค

ว่ากันว่า “ทักษิณ” ค่อนข้างที่เอาใจน้องสาวคนเล็กอย่าง “ยิ่งลักษณ์” อยู่ไม่น้อย เพราะรู้สึกผิดที่ผลักดันเข้าสู่การเมือง จนต้องถูกดำเนินคดี และมีชะตากรรมไม่ต่างจากตัวเอง ที่ต้องหนีคดีไปต่างประเทศ โอกาสที่จะกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยมีน้อยเต็มที

ครั้งหนึ่ง “3 สตรี” เคยจับมือกันเขี่ย “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พ้นพรรคเพื่อไทยมาแล้ว ครั้งนี้ถึงคราว “3 สตรี” ต้องมาเปิดศึกรบกันเอง  โดยมี “1 บุรุษ” ที่ชื่อ “ทักษิณ” เป็นศูนย์กลางคอยหย่าศึก-ห้ามทัพพยายามไกล่เกลี่ยหาจุดลงตัว

จากนี้ จึงต้องจับตาศึก “3 สตรี” ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย จะเดินเกมการเมือง และพรรคเพื่อไทยจะไปในทิศทางใด เพราะต่างคนต่างมีชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของตัวเอง

ความอลหม่านในพรรคเพื่อไทย เป็นศึกหนักสำหรับ“ทักษิณ” ว่าจะเคลียร์ปัญหา “3 สตรี”ในครอบครัวอย่างไร หากไม่มีฝ่ายใดยอมลดราวาศอก แคนดิเดตนายกฯ ก็อาจตกเป็นของ “ตาอยู่” ในตระกูลเครือญาติอีกราย