“2ใบ” ก็ชนะ ยี่ห้อ “ทักษิณ” เสื่อม

“2ใบ” ก็ชนะ ยี่ห้อ “ทักษิณ” เสื่อม

ภูมิทัศน์การเมืองในภาคอีสานเริ่มเปลี่ยน หลังจากพรรคอนาคตใหม่ลงสนามเลือกตั้ง ขณะที่ ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย กินบุญเก่า "ทักษิณ" มานานกว่า 20 ปี

ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินทางไปชัยภูมิ ปรากฏว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็แวะไปเยี่ยมพี่น้องชาวเมืองเจ้าพ่อพญาแล ที่กำลังทนทุกข์กับน้ำท่วม

"พิธา" มาออนทัวร์อีสาน โดยมุ่งหน้าที่ จ.กาฬสินธุ์ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เมืองน้ำดำ 4 เขต แถมหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังบอกว่า "ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องชนะใจคนอีสาน"

ภาคอีสาน มี ส.ส.เขตมากที่สุดคือ 116 คน หากใช้กติกาใหม่ บัตรสองใบ ส.ส.เขต 400 คนส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ส.ส.อีสาน ก็จะเพิ่มเป็น 126 คน

อ่านข่าว : "กกต."แจ้งขั้นตอนทุกพรรค เตรียมการ ส่งผู้สมัครส.ส. ลง เลือกตั้งครั้งหน้า

ดังนั้น พรรคการเมืองใดได้ ส.ส.เขตจากภาคอีสานมากที่สุด โอกาสเป็นพรรคอันดับหนึ่งก็มีสูงยกเว้นครั้งที่แล้ว พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.อีสาน 84 คน แต่เจออิทธิฤทธิ์ 3 ป. กลายเป็นฝ่ายค้าน

ผลการเลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่ ได้ ส.ส.เขต 1 คนคือ ฐิตินันท์ แสงนาค ขอนแก่น เขต1 (ต.ในเมือง, ต.เมืองเก่า และ ต.บ้านเป็ด) แต่ฐิตินันท์ ได้ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยแล้ว

การที่พรรคก้าวไกลหรือพรรคอนาคตใหม่ มี ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคใหม่เยอะ จนถูกมองว่าเป็น"ฟาร์มงูเห่า" ก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนของพรรค ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจว่า เลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรคนี้แล้ว ในอนาคตจะกลายเป็นงูเห่าอีกหรือไม่

ดังนั้น กระบวนการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล จึงมีการทำโพลสำรวจในแต่ละพื้นที่และตรวจสอบคุณสมบัติอย่างถี่ถ้วน โดย "พิธา" จะเป็นคนตัดสินใจเลือกคนสุดท้าย

"ใครที่บอกว่าพรรคก้าวไกลไม่เข้าใจคนอีสาน อันนั้นไม่จริงครับ ผมเข้าใจครับว่า การที่ใครจะเป็นนายกฯ จะเป็นรัฐบาลของประเทศไทย จะต้องชนะใจคนอีสานให้ได้" พิธา ปราศรัยกับชาวกาฬสินธุ์

ก้าวแรกที่กาฬสินธุ์ "พิธา" ให้ความสำคัญกับภาคอีสาน "นี่คือการเดินทางไกล พวกเราเชื่อว่าแม้ว่าเราอาจจะไม่ชนะในทันที แต่เราจะชนะในที่สุด"

โจทย์ที่พรรคก้าวไกลต้องแก้คือ "พรรคไม่รู้จักคนอีสาน" หมายถึงการสร้างฐานมวลชนระดับรากหญ้า โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งรอบนอก 

อย่างไรก็ตาม ฐานเสียงของพรรคก้าวไกล กับคณะก้าวหน้า คือฐานเสียงเดียวกัน ฉะนั้น ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับเทศบาล ช่วงปลายเดือน มี.ค.2564 คณะก้าวหน้า ได้รับชัยชนะระดับนายกเทศมนตรีตำบลทั่วประเทศ ประมาณ 12 แห่ง เป็นก้าวย่างที่น่าจับตา

นั่นคือ คนรากหญ้ารู้จักพลพรรคสีส้มมากขึ้น ทั้งพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า เฉพาะภาคอีสาน คณะก้าวหน้าได้บริหารเทศบาลตำบล 8 แห่ง 

การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ลงลึกถึงรากหญ้าคือ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ซึ่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล คงแอบหวังลึกๆว่า จะเห็นการเปลี่ยนแปลงระดับฐานราก เหมือนเลือกตั้งเทศบาล

ล่าสุด คณะก้าวหน้า แถลงข่าวว่า มีผู้สมัครนายก อบต. ที่ได้รับการยืนยันแล้วจำนวนทั้งสิ้น 195 แห่ง จาก 51 จังหวัดทั่วประเทศ โดยภาคอีสาน ส่งลงสมัครมากที่สุดคือ 124 แห่ง 

เฉพาะสนามอีสาน คณะก้าวหน้าส่งผู้สมัครนายก อบต.มากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.อุดรธานี21 แห่ง, จ.ร้อยเอ็ด 15 แห่ง, จ.หนองบัวลำภู 10 แห่ง, จ.มหาสารคาม 10 แห่ง และจ.นครราชสีมา 9 แห่ง 

ผลการเลือกตั้งนายก อบต.ในวันที่ 28 พ.ย.2564 จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของพรรคก้าวไกล ในสนามเลือกตั้ง ที่วางเข็มมุ่งเจาะ ส.ส.เขต ในภาคอีสาน

ภูมิทัศน์การเมืองในภาคอีสานเริ่มเปลี่ยน หลังจากพรรคอนาคตใหม่ลงสนามเลือกตั้ง ผู้สมัครส.ส.โนเนม ก็ได้คะแนนเสียงเฉลี่ยเขตละ 1-2 หมื่นคะแนน 

ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย กินบุญเก่า "ทักษิณ" มานานกว่า 20 ปี (2544-2564) เมื่อประชาชนได้เห็นข้อเปรียบเทียบระหว่างสินค้ายี่ห้อเดิมกับยี่ห้อใหม่ คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ 

ที่สำคัญ ส.ส.เพื่อไทยเป็นผู้แทนแบบเก่า มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากผู้สมัครส.ส.ก้าวไกลที่เป็นตัวแทนความคิดก้าวหน้า

แกนนำพรรคก้าวไกล จึงไม่กังวลเรื่องบัตรสองใบ เพราะเชื่อมั่นว่า คนรุ่นใหม่ไฟแรงจะเบียดคนรุ่นเก่าที่นอนกินบุญทักษิณได้