‘เต้น’ลั่นถ้า‘บิ๊กตู่’รอดซักฟอกนัดชุมนุมไล่จนกว่าจะไป-ไม่เอาอำนาจพิเศษเลือกนายกฯ

“ณัฐวุฒิ” ปราศรัย “คาร์ม็อบ” แยกอโศก ลั่นถ้า “บิ๊กตู่” รอดซักฟอก นัดม็อบไล่จนกว่าจะไป ชี้รอยร้าว พปชร. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ต้องเกิดขึ้นใต้หลักประชาธิปไตย ไม่เอาอำนาจพิเศษเหนือ รธน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.15 น. ที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก ในการจัดกิจกรรม ‘คาร์ม็อบ’ เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นปราศรัยปิดท้ายกิจกรรมตอนหนึ่งว่า เวลานี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายค้านทำหน้าที่กันสุด ๆ ตนเชื่อว่าฝ่ายค้านแพ้ฝ่ายรัฐบาลแหง ๆ แต่ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กำลังห้ำหั่นกัน และทำท่าว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แรงกระเพื่อมใหญ่ทางการเมืองได้
“พี่น้องสะกิดผมว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ และ ร.อ.ธรรมนัส ซัดกันเราจะเชียร์ใครดี ผมบอกว่าอย่าไปเผลอใจ เชียร์เด็กเชียร์ได้ แต่อย่าไปเชียร์พวกนั้น นั่นเป็นการสู้กันระหว่างเอดส์ กับมะเร็ง ใครชนะประเทศไทยก็ยังโคม่าอยู่ดี ดังนั้นไม่ว่าความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐจะนำไปสู่อะไร ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะรอดหรือไม่รอด ไม่ไว้วางใจหรือไม่ ในนามประชาชนเรายอมรับแต่การเปลี่ยนแปลงภายใต้หลักการประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่เอาอำนาจนอกระบบ ไม่เอาอำนาจพิเศษ ไม่เอาวิธีเหนือรัฐธรรมนูญ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าเกิด พล.อ.ประยุทธ์ หายไปใครจะมาเป็นนายกฯ ตนกำหนดเองไม่ได้ แต่กติกาเขียนอย่างไรก็หากันในนั้น ต้องโหวตเลือกจากแคนดิเดตในบัญชีนายกฯของพรรคการเมือง ถ้าไม่ได้ต้องเอานายกฯคนนอก แต่ต้องมาจาก ส.ส. ในสภา ถ้ามีการแย้งว่าแคนดิเดต ส.ส. ที่อยู่ในสภาไม่ถูกใจ อยากบอกว่าจะเอาถูกใจไว้ทีหลัง ถ้าไม่เอาสักอย่าง อำนาจนอกระบบจะเข้ามาแทรกแซง เข้ามากำหนดเกม และเปลี่ยนแปลงทางการเมืองให้เราเหนื่อย ต้องสู้กันหนักอีก ดังนั้นจับตาดู 2-3 วันนี้ให้ดีว่าระหว่างเอดส์กับมะเร็ง ใครจะชนะ
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ เคยประกาศจะปฏิรูปตำรวจ นี่อยู่มาเกือบ 8 ปีแล้ว ปฏิรูปอะไรได้บ้าง เปลี่ยนจากตำรวจสมัยก่อนปราบยา 3 เหลี่ยมทองคำ แต่เดี๋ยวนี้ได้แค่ปราบเด็ก 3 เหลี่ยมดินแดง หรือการปฏิรูปกองทัพ มีการยึดอำนาจ บอกกองทัพต้องพัฒนา ต้องก้าวหน้า แต่วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้กองทัพไม่ใช่กองทัพของประชาชน แต่ทำให้กองทัพเป็นคู่ต่อสู้ของประชาชน กองทัพที่เคยปกป้องประเทศ ทำได้เพียงปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ เกียรติยศศักดิ์ศรีทหารหายไปไหน เหยียบย่ำข้าราชการของชาติแบบนี้ได้อย่างไร นายทหารในกองทัพไม่เห็นมีใครหืออือ นี่คือความเสื่อมถอยของประเทศที่ต้องชี้ให้แลเห็น
“ฟันธงว่าภายใต้อำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ สถานการณ์โควิด-19 ไม่มีทางดีขึ้น เพราะบริหารผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น และผิดพลาดมาโดยตลอด พล.อ.ประยุทธ์ ผมอยากบอกคุณไว้ว่าเที่ยวนี้ ถ้าคุณรอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมจะชวนพี่น้องประชาชนไล่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนกว่าคุณจะไป” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ท่ามกลางสายลมของการเปลี่ยนแปลง ที่ตนมายืนพูดเพราะปรารถนาดี ไม่มีใครทำลายล้างกันไปหมด สิ่งที่พยายามพูดตลอดตั้งแต่ออกมาจากเรือนจำคือ สังคมนี้ต้องอยู่กันท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์เปลี่ยนแปลง ไม่มีอำนาจใดต้องถูกทำลายโค่นล้ม แต่ต้องอยู่ให้เป็นที่เป็นทาง ภายใต้กติกาที่ถูกต้อง อยู่กันได้ แต่มีคนบางกลุ่มพยายามใส่ร้ายป้ายสี พูดแบบนี้ไปตีความว่าตนประสงค์ร้าย ทั้ง ๆ ที่พยายามพูดความจริง สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาว่า ปล่อยบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ไม่ได้อีกต่อไป ผู้มีอำนาจทั้งหลายใครคิดจะอุ้ม พล.อ.ประยุทธ์ คนนี้คือศูนย์รวมความเกลียดชังที่สุดในแผ่นดินไทย ณ ปัจจุบัน
“ถ้าเวลาที่เอื้อกว่านี้ จะฉายกันยาว ๆ กว่านี้ แต่วันนี้ขอส่งเสียงไปถึงทุกอำนาจ ทุกอิทธิพลในประเทศไทย อำนาจใดจะงดงามและยืนยง ไม่ใช่อยู่บนหัวประชาชน แต่ต้องอยู่ในหัวใจประชาชนเท่านั้น โดยในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย. 2564) นักศึกษานัดเวทีที่ราชประสงค์ เมื่อทัพหลักในการต่อสู้ปรากฏ ทัพเสริมอย่างพวกผม ก็จะขอยุติเวทีพรุ่งนี้ ไม่มีเวทีที่นี่ พรุ่งนี้น้อง ๆ เขาอยู่ราชประสงค์ ส่วนเราจะกลับมาพบกันเมื่อไหร่อย่างใดอีก ขอให้ได้โปรดรอการประกาศนัดหมายถ้าประยุทธ์ยังไม่ออก เราก็ต้องออก ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ไป เราก็ต้องมา” นายณัฐวุฒิ กล่าว







