ลับลวงพราง'ศึกซักฟอก' แกะรอย'แผนสำรอง-ดีลลับ'

ลับลวงพราง'ศึกซักฟอก'  แกะรอย'แผนสำรอง-ดีลลับ'

"3 ป." จะประคองรัฐนาวาฝ่าโควิด และฝ่าพายุการเมืองทั้งในและนอกสภาไปได้อย่างไร อุบัติเหตุทางการเมือง ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กระแส "ดีลลับ" เวลานี้ก็ยังไม่จางหายไป

 7 ปีบนเส้นทางอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “พี่น้อง 3 ป.” เข้าสู่ช่วงถอยหลังวาระรัฐบาล กลับเริ่มเผชิญปัญหาที่หนักหนาสาหัส 

นาทีนี้ “รัฐบาลประยุทธ์” กำลังเผชิญศึกหนัก ทั้งมหาวิกฤติโควิด และวิกฤติการเมือง จนตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา 

ยังไม่มีใครรู้ได้ว่า 3 ป.จะประคองรัฐนาวาฝ่าโควิด และฝ่าพายุการเมืองทั้งในและนอกสภาไปได้อย่างไร และนับจากวันนี้ อุบัติเหตุทางการเมือง อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 

ตลอดเดือนสิงหาคมนี้ เกมบนท้องถนน จากฝ่ายประชาธิปไตย และปีก นปช.สายคนแดนไกล คงเปิดเวที “ไล่ประยุทธ์” ไปทั้งเดือน ควบคู่ไปกับสงครามจิตวิทยาชิงมวลจากการฟื้นรายการนายกฯพบประชาชน

พอขยับเข้าเดือนกันยายน ความดุเดือดแหลมคมจะกลับไปที่เวทีสภา เมื่อฝ่ายค้านเปิดศึกซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีบางคน

 น่าจับตาว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พี่ใหญ่ 3 ป. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้อย่างไร หากพรรคร่วมรัฐบาลหักดิบ “โหวตสวน” หรือจะเปิดเกมถอยเต็มรูปแบบเป็น “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” ก่อนยุบสภา

ความเป็นจริงทางการเมือง ส.ส.ระดับแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ส่วนใหญ่ก็เป็นอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย และพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มีความสนิทสนมกับแกนนำเพื่อไทย ราวกับเป็นคนพรรคเดียวกัน

ยุคที่พรรคไทยรักไทยเฟื่องฟู “ร.อ.ธรรมนัส” ยังเป็นคนติดตาม “เสธ.ไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ที่เข้ามาช่วยงานเพื่อน ตท.10 เนื่องจากเขายังเป็นแค่คนของนาย จึงไม่ได้เข้าถึงตัวอดีตนายกฯทักษิณ

กระทั่งสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ “ผู้กองธรรมนัส” ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ จึงคิดเล่นการเมือง และได้มีโอกาสขอคำปรึกษาทักษิณที่อยู่ต่างแดน

“รู้จัก แต่ก็ไม่เคยทำงานร่วมกัน นอกจากตอนที่ทราบว่า เขามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยช่วงหนึ่ง ก็ได้พูดคุยกันบ้างในฐานะรุ่นน้อง” ทักษิณตอบคำถามในคลับเฮาส์

เป้าหมายที่ “พล.อ.ประวิตร” เลือกธรรมนัสเป็นเลขาธิการพรรค เพื่อมาเป็นผู้บัญชาการในสมรภูมิเลือกตั้ง และเป็นตัวละครลับ ในการประสานงานกับพรรคต่างๆ

ความสัมพันธ์อันดีระหว่างทักษิณกับธรรมนัส หรือแกนนำเพื่อไทยกับธรรมนัส ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ “บิ๊กป้อม” เลือกผู้กองคนดังเป็นเลขาธิการพรรค

ถ้าจำกันได้ ค่ำวันที่ 15 มิ.ย.2564 ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ ร่วมพูดคุยกับ CARE ClubHouse x CARE Talk มีคนถามเหตุผลในการตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น ผบ.ทบ.สมัยโน้น คิดอย่างไร?

“..ดูโหงวเฮ้งไม่เป็น หากฝึกดูโหงวเฮ้งหน่อย วันนั้นก็คงไม่ตั้ง” และบอกเล่าว่า “เขากองเชียร์เยอะมาก มี วัฒนา เมืองสุข เป็น ส.ส.ปราจีนบุรี ก็มาเชียร์ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มาเชียร์ ผมไม่ค่อยรู้จักเขา ก็รู้ว่าเป็นพี่ชายของรุ่นพี่ผม คือ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รู้จักกันดี ก็เลยตั้ง”

ยุคนั้น มีอดีตนายทหารใหญ่เข้าไปทำงานการเมืองกับทักษิณมากกว่า 10 คน รวมถึง “บิ๊กป้อม” เลยทำให้ “ป.ป้อม” รู้จักวัฒนธรรมการเมืองของนักเลือกตั้ง ได้ดีกว่า “ป.ป๊อก” และ “ป.ประยุทธ์”

“ป.ป้อม” จึงเป็นอาวุธลับอีกชิ้นหนึ่ง สำหรับ “ป.ประยุทธ์” ที่จะเดินกลยุทธ์ “หนี” เอาตัวรอดจากวงล้อมนักไล่ล่า

ก่อนจะถึงศึกซักฟอกรอบนี้ เริ่มมีข่าวกระเซ็นกระสายออกมาจากฝ่ายค้านเอง ถึงความพยายามดีลลับจากฝั่งรัฐบาล      

ไม่เกินคาดที่การเดินหมากการเมือง“ลับลวงพราง” ใช้มือดีลอย่างผู้กองมนัสอีกครั้งเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา ส่วนจะได้ผลหรือไม่ดีลนี้ขึ้นอยู่กับคนแดนไกลเท่านั้น