จับสัญญาณ ‘ท่านใหม่’ นายร้อยรุ่นพิเศษ จากกองเชียร์ ชงเปลี่ยน ‘นายกฯ’

จับสัญญาณ ‘ท่านใหม่’ นายร้อยรุ่นพิเศษ จากกองเชียร์ ชงเปลี่ยน ‘นายกฯ’

ด้วยภาพลักษณ์ปกป้องสถาบันและประวัติการทำงานกลายเป็นสิ่งค้ำยัน ที่ทำให้การเคลื่อนไหวของ 'ท่านใหม่' กำลังเป็นที่จับตามอง

ความเคลื่อนไหวในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมาของ ‘ท่านใหม่’ พล.อ.หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล กำลังเป็นที่จับตา หลังแปรสภาพจากกองเชียร์รัฐบาลมาโพสต์ตำหนิการแก้ปัญหา ‘โควิด-19 ’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพียงไม่กี่วันยอดผู้ติดตามเพิ่มเป็นหลักแสน

โพสต์แรก ‘ท่านใหม่’ เปิดหัวด้วยข้อความชวนให้สงสัย “เมื่อฟ้ามืด....เราจะมองหาดาวฤกษ์ ที่เปล่งประกายยามราตรี ร่วมกัน” พร้อมตอบคอมเมนต์ที่ถามว่า “จะต้องรออีกนานแค่ไหน” โดย ‘ท่านใหม่’ ตอบว่า “คงไม่นานครับ รอให้พายุฝนผ่านพ้นไปก่อน

โพสต์สอง เริ่มชัดเจนว่าเป้าหมายคือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หลังพบว่าสายด่วนหาเตียงโควิด หมายเลข 1668 เก็บค่าโทรนาทีละ 1.50 บาท เป็นการซ้ำเติมประชาชนที่เดือดร้อน และสะท้อนถึงความล้มเหลวการบริหารจัดการของรัฐบาล จนถึงขั้นอยากลงถนนร่วมแจมกับ ‘ม็อบ’ หากไม่ติดเรื่องสถาบัน

โพสต์ของท่านใหม่ทำให้คนในโลกโซเชียลฯ ตีความกันไปต่างๆ นานา ถึงขั้นติดแฮชแท็กไม่เอา “นายกฯพระราชทาน” จนขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งบนทวิตเตอร์ แม้แต่ ‘คณะก้าวหน้า’ ก็ออกมาร่วมด้วยช่วยขวาง ประกาศจุดยืนคัดค้านแนวทางดังกล่าว ก่อนยกรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 272 วรรคสอง ที่เปิดช่องให้มี “นายกรัฐมนตรีนอกบัญชี” ได้ โดยต้องใช้เสียงกึ่งหนึ่งของสองสภาในการเสนอเรื่อง และ 2 ใน 3 ของสองสภาในการมีมติยกเว้น และกึ่งหนึ่งของสองสภาในการมีมติเลือกนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ฟากรัฐบาล รีบดับกระแสนี้ ชี้เปรี้ยงว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น และเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาโควิด-19 เท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือนายกฯพระราชทาน อย่างที่หลายฝ่ายปั่นกระแส เพราะกลไกบ้านเมืองยังเดินตามระบบ มีรัฐสภา ฝ่ายบริหาร และรัฐบาลไม่ได้ตกอยู่ในสภาพง่อยเปลี้ยเสียขา

ทว่า อีกมุมของฝ่ายการเมืองกลับไม่มองเช่นนั้น หลังกระแสความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ลดฮวบ และไม่มีทีท่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ การโพสต์ของ'ท่านใหม่' น่าจะเป็นการส่งสัญญาณทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง กับประวัติที่เคยทำงานให้กองทัพ และภาพลักษณ์ปกป้องสถาบันกลายเป็นสิ่งค้ำยัน

ในสมัยที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ หรือ จปร.ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน ก่อนจะเปลี่ยนเป็น ‘กองทัพบก’ ในปัจจุบัน ชื่อ ‘ท่านใหม่’ เป็นที่รู้จักของนักเรียน จปร. ด้วยเอกลักษณ์ผู้ชายใส่แว่น และมีคำนำหน้าว่า ‘หม่อมเจ้า’ แต่ไม่ได้คุ้นเคยกันมากนัก เพราะพื้นฐานการเรียน และแหล่งกำเนิดการเป็นทหารที่แตกต่างกัน

โดยนายทหารสัญญาบัตร แบ่งตามพื้นฐาน และความรู้ หรือแหล่งกำเนิดเป็น 4 ชนิด ประเภทที่ 1 สำเร็จการศึกษาจากแหล่งผลิตของกองทัพบก(ทบ.) ได้แก่ โรงเรียน จปร. (กำเนิด นร.) วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฏฯ (กำเนิด นพท.) และโรงเรียนทหารต่างประเทศที่กระทรวงกลาโหมรองรับหลักสูตรไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี (กำเนิด นรต.)

ประเภทที่ 2 สำเร็จการศึกษาโดยวิธีพิเศษเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหากำลังพลขาดแคลนเป็นครั้งคราว เช่นหลักสูตรนักเรียนนายร้อยสำรอง (กำเนิด นรส.) หลักสูตรนักเรียนนายร้อยพิเศษ (กำเนิด นรพ.)

ประเภทที่ 3 เลื่อนฐานะจากนายทหารชั้นประทวน (น.ประทวน) เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร (น.สัญญาบัตร) ตามโควตาประจำปี หรือได้ศึกษาต่อจนมีคุณวุฒิตั้งแต่อนุปริญญาขึ้นไป (กำเนิด นป.) และ ประเภทที่ 4 สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทางพลเรือน และที่ ทบ.รับโอนจากส่วนราชการอื่นนอกกลาโหม (กำเนิด พ.)

ยุคนั้นประเทศไทยกำลังประสบปัญหาโรงเรียน จปร.ผลิตกำลังพลไม่เพียงพอในการรองรับ 3 ภารกิจสำคัญ สงครามเวียดนาม ลาว และการปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย (ผกค.) ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี จึงเปิดรับพลเรือนเข้าเรียนนายร้อยพิเศษ ประเภทที่ 2 หลักสูตรเร่งด่วน 1 ปีเพื่อแก้ปัญหากำลังพลขาดแคลนเป็นครั้งคราว โดยคุณสมบัติต้องเป็นผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี

‘ท่านใหม่’ สมัครเข้าเรียนหลักสูตรนักเรียนนายร้อยพิเศษ ประเภทที่ 2 หลังสำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศ แม้จะมีคำนำหน้า‘หม่อมเจ้า’ แต่ก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ เหนือกว่านักเรียนนายร้อย จปร.คนอื่น

หลังจบหลักสูตร ถูกส่งไปราชการสนาม ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปราม ผกค. พื้นที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี 2518 ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน (ส.ช.2) ประเภทที่ 2

นอกจากนี้ เคยรับราชการที่ศูนย์สงครามพิเศษหน่วยกองรบที่ 1 (กรพ.) ค่ายวชิราลงกรณ์ จ.ลพบุรี และนายทหารประจำส่วนพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร กองทหารมหาดเล็ก ราชองครักษ์พิเศษรักษาพระองค์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ในปี 2562 พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหารชั้นนายพลเป็นกรณีพิเศษ จากพลตรี เป็น “พลเอก”

ปัจจุบันเป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย รักษาพระองค์ สนองพระเดชพระคุณเป็นราชองครักษ์พิเศษในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10

ปรากฎการณ์ของ ‘ท่านใหม่’ จะเป็นเพียงการแสดงความเห็นเพื่อติติงข้อบกพร่องของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หรือสัญญาณที่ทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อีกไม่นานคงได้รู้กัน