'โฆษกรัฐบาล' เผยอันดับ 'รัฐบาลดิจิทัล' ของไทยดีขึ้น รั้งอันดับ57 จาก193 ประเทศ

        นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้วางแนวนโยบายและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อการก้าวเป็นรัฐบาลดิจิทัล ยกระดับความโปร่งใส ตรวจสอบได้ หรือการเป็นรัฐบาลเปิด  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงเพิ่มการได้รับความเชื่อใจจากประชาชน   โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างเข้มข้น โดยได้กำหนดเป็นแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2563-2565 จึงส่งผลให้ประเทศได้รับการยอมรับและการจัดอันดับที่ดีในเวทีโลก และพร้อมวางแนวทางสู่อนาคตอย่างต่อเนื่อง

        นายอนุชา กล่าวถึงผลการสำรวจรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ประจำปี 2020 ของ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่า รัฐบาลไทย ถูกจัดอันดับที่ 57 จาก 193 ประเทศ หลังจากการประเมินระดับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศต่างๆ ใน 3 ดัชนี ได้แก่ ดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ดัชนีการมีส่วนร่วมทางอิเล็กทรอนิกส์  และดัชนีการให้บริการภาครัฐออนไลน์ในระดับท้องถิ่น

      "ไทยได้รับตำแหน่งที่ดีขึ้นอย่างมาก จากอันดับที่ 73 ในปี 2561 และอันดับที่ 77 ในปี 2559 มีการพัฒนาในด้านการเป็นรัฐบาลดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งองค์การสหประชาชาติจัดไทยให้อยู่ในกลุ่มที่มีการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในระดับสูงมากโดยหากพิจารณาในรายละเอียดแต่ละด้าน ไทยได้รับคะแนนด้านการให้บริการออนไลน์  และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในระดับอาเซียน ไทยอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ ที่เป็นอันดับที่ 11 ของโลกและมาเลเซีย ที่ถูกจัดอันดับที่ 47 ของโลก" นายอนุชา กล่าว

      โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับดัชนีการมีส่วนร่วมทางอิเล็กทรอนิกส์   ซึ่งประเมินการใช้เครื่องมือดิจิทัลในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการกำหนดทิศทางการทำงานของภาครัฐ ได้แก่ การเปิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรับฟังความคิดเห็นมากขึ้น ในการกำหนดนโยบาย ร่างกฎหมาย การใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง ตลอดจน การร้องเรียนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ ไทยได้รับการจัดให้อยู่อันดับที่ 51 ปรับตัวขึ้นมาจากอันดับที่ 82 ในปี 2561 ซึ่งคงเป็นอันดับที่ 3 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ที่จัดอันดับที่ 6 ของโลก และมาเลเซีย ที่อยู่ลำดับ 29 ของโลก.