'ชูวิทย์' พาท่อง 'เรือนจำ' แดนสนธยา 'อภิมหาคลัสเตอร์คุก'

  'ชูวิทย์' พาท่อง 'เรือนจำ' แดนสนธยา  'อภิมหาคลัสเตอร์คุก'

'ชูวิทย์' เทียบ 'เรือนจำ' แออัดเท่ากับคลองเตยคูณสิบ กับวิถีชีวิต 'ผู้ต้องขัง-ผู้คุม' และความล้มเหลวบริหารจัดการ 'ราชทัณฑ์' ทำให้โควิดแพร่ระบาดรวดเร็ว

18 พ.ค.2564 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ซึ่งเคยรับโทษในคดีรื้อบาร์เบียร์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก บรรยายสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังภายในเรือนจำ จนเป็นที่มาการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบ “อภิมหาคลัสเตอร์คุก”  ว่า ข่าวช็อคโลกเรื่องโควิดแพร่ระบาด และสภาพภายในเรือนจำไทยจากสื่อต่างชาติ ที่แม้แต่คนไทยด้วยกันก็ไม่เคยรับรู้เรื่องราวแบบนี้มาก่อน หากไม่ได้เข้าไปสัมผัส เห็นกับตาตัวเองด้วยการติดคุกเสียเองเหมือนผม

โดย นายชูวิทย์ ได้เปรียบเทียบสภาพความแออัดภายในเรือนจำกับชุมชนคลองเตยว่า หากคิดว่าคลองเตยอยู่อย่างแออัดแล้ว ในเรือนจำยิ่งกว่าคลองเตยคูณสิบ 

อย่าเข้าใจว่าคุกไทยเหมือนคุกในหนังฝรั่ง ที่ขัง 2 คนต่อห้อง มีห้องน้ำส่วนตัวนะครับ มันห่างชั้นกันคนละโลก เพราะคุกไทยห้องขนาด 4x10 เมตร เท่ากับ 40 ตารางเมตร ช่วงตำรวจฟิตจัดๆ อยู่รวมกัน 60-70 คน เรียกว่า 1 ตารางเมตร นอนกัน 2 คน แน่นขนาดลุกไปเยี่ยวกลับมา ที่นอนไม่ว่างแล้ว

เพราะที่เห็นภาพจากข่าวทั่วไป ที่ได้เข้าไปถ่ายภายในคุก ไม่ว่ารายการไหน เป็นต้องถูกเซ็นเซอร์หลายรอบจากเจ้าหน้าที่คุก จนแน่ใจว่าได้ภาพภายในเรือนจำสะอาด ห้องเป็นระเบียบเรียบร้อย จนผู้ใหญ่ในกรมราชทัณฑ์พอใจถึงจะให้นำออกเผยแพร่ได้

เรื่องดูไม่ดีอย่างในภาพสื่อเกาหลี โอกาสน้อยที่จะหลุดออกไปให้เห็น 

อย่างเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เเดน 1 นั้น จะเป็น “เเดนโชว์รูม” เอาไว้ให้ผู้ใหญ่ กรรมาธิการ หรือบรรดานักสิทธิมนุษยชนต่างๆ ได้เห็นเมื่อมีโอกาสเข้าไปตรวจเยี่ยม 

เอาจริงๆ แม้แต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ยังไม่เคยเห็นสภาพจริงด้วยซ้ำ เพราะเป็นแดนสนธยา 

เรื่องของข้างในปล่อยให้คนข้างในจัดการกันเอง อันเนื่องมาจาก จำนวน 143 เรือนจำทั่วประเทศไทย ใน 77 จังหวัด เท่ากับมีคุกมากกว่าจังหวัดที่มีเสียอีก 

สภาพไม่ได้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกคุก  ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของคดีแต่ละจังหวัด ที่ไหนคนมาก นักโทษก็แน่นจนล้นคุก อย่างเรือนจำเชียงใหม่ หรือ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และเรือนจำทุ่งสง จังหวัดใหญ่มี 2 ที่ แน่นขนาดผูกเปลนอน เพราะพื้นห้องไม่ว่าง คุกหนาแน่นขนาดเล้าเป็ดเล้าไก่ยังอาย 

ปัญหาความหนาแน่นแออัดในคุกไทยยังไม่ได้เก่าตามยุคสมัยที่อ้างว่าเป็นภาพเก่า นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ “สิงห์ขี้คุก” อย่างผม แต่ช็อคสำหรับคนภายนอกที่ไม่เคยมาสัมผัสภาพคุกแดนสนธยามาก่อน

ในคุกไม่มีแม้แต่วินาทีเดียว ที่จะได้อยู่ห่างกันเกิน 1 ก้าว ไม่ว่า กินข้าวด้วยกัน อาบน้ำด้วยกัน ขังรวมกัน นอนเรียงกันเป็นพืด 15 ชั่วโมง ตั้งแต่ บ่าย 3 โมง ไปยัน 6 โมงเช้า เวลา ไอ กรน พัดลมหมุนเวียน แม้หน้าต่างจะมี แต่อากาศระบายไม่ได้ เพราะกำแพงสูงอย่างกับกำแพงเมืองจีน หากใครสักคนหลุดติดเชื้อโควิดเข้าไปในคุก จึงยากที่จะเลี่ยงการแพร่กระจาย จึงเกิดปรากฏการณ์ “อภิมหาคลัสเตอร์คุก” ในแทบทุกเรือนจำที่ตรวจเชิงรุก เชิงเงียบ มากน้อยว่ากันไป 

แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดของนักโทษทะลุ 10,000 คนไปแล้ว แต่หากมองในแง่ดี เรือนจำเป็นสถานที่เดียวที่สามารถควบคุมโควิดไม่ให้แพร่กระจายออกไปภายนอกได้ชะงัด เพราะนักโทษออกไปเดินเล่นที่ไหนไม่ได้ ล้วนอยู่กับที่ทั้งนั้น อยากเจอเมื่อไหร่เป็นได้เจอ ไม่เคยได้ไปไหน 
ต่างกับแคมป์คนงานหลักสี่ หรือแคมป์อื่น ที่ยังแอบเข้าออกได้แม้จะติดป้ายห้าม หรือชุมชนคลองเตย และตามตลาดต่างๆ ที่ผู้คนมีอิสระจะเดินทางไปที่โน่นที่นี่ที่ไหนก็ได้ตามใจ

ในคุกจึงสามารถตรวจคัดกรอง กักกันโรคได้ 100% แต่หาทำมาก่อนไม่ การกักโรคของกรมราชทัณฑ์ล้มเหลว ไม่อย่างนั้นผู้ต้องขังไม่ติดโควิดในอัตราสูงและเร็วเช่นนี้

เมื่อตรวจคัดกรองอีกรอบแล้วไม่พบ ก็ไม่ได้หมายความว่าการระบาดจะยุติ เพราะเชื้อยังฝังในอยู่ เช่นเดียวกับเชื้อวัณโรคที่ในคุกยังพบอยู่จำนวนมาก 
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีทั้งสิ้น 8 แดน กำหนดให้แดน 2 เป็นแดนกักโรค ผู้ต้องขังใหม่ต้องมากักตัวที่แดน 2 ก่อน เป็นเวลา 14 วัน (ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 21 วัน) หากการกักตัวได้ผลจะติดกันเกือบ 3,000 คนได้ไง? ช่วยตอบชัดๆ ทีเถอะ

หากตอบไม่ได้ ชูวิทย์ จะบอกให้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ ผู้ต้องขังใหม่ที่เพิ่งเข้ามา กับผู้ต้องขังเก่าที่กักตัวอยู่ ถูกเอามากักรวมกัน คละเคล้ากันไปในแดน 2 ตามห้องต่างๆ ที่มีอยู่เพียง 13 ห้อง

แทนที่คนใหม่มา จะเอาเข้าห้องใหม่ แต่ห้องไม่พอ เลยใช้วิธีเวียนเทียนห้องสลับไปมาจนล้น ต้องเอาไปฝากแดน 1 อยู่ 3 ห้อง 

ส่วนผู้ต้องขังในแดนอื่นๆ เมื่อมีนัดขึ้นศาล ไปเสี่ยงติดเชื้อกลับมา ก็ต้องเอาไปอยู่แดน 2 เพื่อกักตัวใหม่อีก 21 วัน ยัดเข้าไปห้องเดียวกันกับคนที่กักตัวอยู่
ที่สำคัญ ยังปล่อยให้พวกขาใหญ่ ออกเดินเพ่นพ่านนอกพื้นที่กักตัวได้เสียอีก ทั้งที่ยังอยู่ในระหว่างกักตัว 


นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรือนจำอื่นๆ ในบริเวณที่เรียกว่า “ลาดยาวพลาซ่า” ที่ประกอบไปด้วย เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เรือนจำคลองเปรม ทัณฑสถานบำบัดกลาง ทัณฑสถานหญิงกลาง แถมด้วยสถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด

ที่น่าเป็นห่วงสุดคือ ทัณฑสถานหญิงกลางที่อยู่กันแบบหนาแน่น เพราะนักโทษหญิงถูกขังรวมกันหมดทุกโทษานุโทษ ไม่ว่าคดียาเสพติด ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ฉ้อโกง แออัดยัดทะนานเหมือนเล้าไก่ 

แล้วยังมีทัณฑสถานบำบัดกลาง ขังพวกนักโทษชายคดียาเสพติด ที่แน่นขนาดผูกเปลนอน คงติดโควิดกันงอมพระราม

ขนาดคุกใหญ่ใจกลางกรุงเทพฟ้าอมรนะครับ ยังเละตุ้มเป๊ะแบบนี้ ยังไม่ต้องไปถึงเรือนจำใหญ่ในจังหวัดใหญ่ๆ หัวเมือง ไม่ว่า เหนือ ใต้ ออก ตก อีก 143 เรือนจำทั่วประเทศ โดยเฉพาะคุกบ้านนอกไกลปืนเที่ยงตามต่างจังหวัด จะขนาดไหน? แล้วยังบรรดาผู้คุมที่ไม่ได้ติดคุกด้วย เดินเข้าออกได้ทุกเมื่อตอนออกเวร

ขณะนี้จำนวนนักโทษทั่วประเทศ 300,000 กว่าคน ยังดีที่มีนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ให้ใส่กำไลอีเอ็ม พักโทษตามเกณท์ออกไปใช้ชีวิตข้างนอก ไม่อย่างงั้น ป่านนี้จำนวนตัวเลขนักโทษคงไปถึง 400,000 กว่าคนแล้ว
“คุกไทยเข้าง่ายออกยาก” ไม่รู้กฎหมายอะไรสารพัดมาตรา ล้วนมีโทษคุกแถมตอนท้าย คุกเลยแน่นมาตลอด ไม่เคยขาดเคยลด กระทั่งมาถึงยุคนี้ที่มีนโยบายใส่กำไลแทนติดคุกนี่เอง

จะไปด่ากรมคุกอย่างเดียวไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน ไม่มีงบ จะไปพัฒนาสิ่งปลูกสร้างในคุกได้ 

ไม่มีใครอยากไปพัฒนาให้คุกไทยเจริญเหมือนในหนังฝรั่ง สู้เอาไปพัฒนาถนนหนทางมิดีกว่าหรือ?

นี่มันคุกไว้ขังพวกทำผิดกฎหมายบ้านเมือง จะให้มันอยู่สบายเหมือนรีสอร์ตได้ไง?

ผมได้ยินได้ฟังอยู่เป็นประจำสมัยเป็นคณะกรรมาธิการพิจารณา “งบประมาณแผ่นดิน” ในสภาผู้แทนราษฎร

ด้วยประการฉะนี้ จำนวนนักโทษที่ก้าวกระโดดตามอัตราความก้าวหน้าของสังคม 300,000 กว่าคน และจำนวนเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง จะมีสภาพอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่า 
ไปที่ไหน? ไปเมื่อไหร่ ? และคนไปเป็นใคร? 
หากนัดหมายล่วงหน้าจะได้เจอแต่ภาพสวยงามที่เจ้าภาพจัดให้ดู แต่หากจู่โจมไปเห็นแบบไม่ตั้งตัว ก็จะได้เห็นของจริงตรงปก 
ผมเคยเป็นมาหลายบทบาทที่ต้องข้องแวะกับคุก ทั้งผู้พิจารณาอนุมัติงบกรมคุก เป็นกรรมาธิการตรวจเยี่ยมคุก เป็นนักโทษเด็ดขาดชายติดคุก เป็นผู้สื่อข่าวได้เข้าไปทำข่าวในคุก จึงเห็นภาพคุกที่หลากหลาย 
ตอนนี้นักโทษอาการหนักจากโควิดร่วมร้อย ขอแค่อย่าให้มีใครตายในคุกไปก็แล้วกัน 

จากประสบการณ์คุกที่เทียวเข้าเทียวออก “เรือนจำพิเศษกรุงเทพ” อยู่หลายรอบ 

แม้แต่เป็นผู้ช่วยที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็เก็บศพมาแล้ว

กว่าจะพ้นโทษได้เดินออกจากคุก ผมเก็บศพนักโทษไปได้ถึง 80 ศพ พอดิบพอดี บางวันทำแฮททริคเก็บได้ถึง 3 ศพ

บ้างตายเพราะมะเร็ง เบาหวาน ติดเชื้อ วัณโรค หรือแม้แต่ฆ่าตัวตายเพราะจิตตก 

ในคุกทำลายทั้งร่างกาย และจิตใจ โรคภัยจึงมักโผล่ออกมาเอาตอนอยู่ข้างใน ทั้งที่ตอนอยู่ข้างนอกแข็งแรงอย่างกับม้า

หากมีคนตายเพราะโควิดในคุก จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกอีกครับ 

โดยเฉพาะประเทศไทย ยิ่งชอบดังในเรื่องไม่ควรดังอยู่แล้วด้วย

162132306523