เจาะแผน“ทหาร-ตำรวจ” รับมือม็อบราษฎร ป้อง“สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”

เจาะแผน“ทหาร-ตำรวจ” รับมือม็อบราษฎร ป้อง“สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”

หากชุมนุมผ่านด่านแนวกั้นของ “ตำรวจ” มาได้เข้าพื้นที่เขตพระราชฐาน เป็นหน้าที่ของ “กองกำลังรักษาเขตพระราชฐาน” จากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ โดยไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนว่าทหารจากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ มีจำนวนกี่นาย

เมื่อ “ม็อบราษฎร” ปักหมุดนัดชุมนุมที่ “สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นเขตพระราชฐาน ทำให้ ทหาร-ตำรวจ ต้องเตรียมแผนไว้รองรับอย่างรัดกุมมากที่สุด เพราะหาก “ม็อบราษฎร” สามารถเข้ามายังเขตพระราชฐานได้ อาจจะทำให้เกิดความเสียหายที่ยากจะประเมิน

 

การเตรียมการรับมือ “ม็อบราษฎร” รอบนี้ทุกแผนถูกสรุปบทเรียนมาจากความผิดพลาดในการรับมือม็อบรอบก่อน ทั้ง ทหาร-ตำรวจ นำจุดอ่อน-จุดแข็งของการชุมนุมในหลายครั้งที่ผ่านมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก

โดยก่อนหน้านี้ “พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์” แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ประชุมร่วมกับตำรวจนครบาล วางแผนเผชิญเหตุ และมาตราการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เขตพระราชฐานทั้งหมด

 

ซึ่งพื้นที่รอบนอกจากเขตพระราชฐาน 150 เมตร อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับกำลังทหารนอกเครื่องแบบจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ในการสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนด

 

ทั้งนี้หากกลุ่มผู้ชุมนุมหลุดจากแนวกั้น ตู้คอนเทนเนอร์ ลวดหนาม จะมาเจอกับแนวกั้นของ “ตำรวจ” และหากกรณีผู้ชุมนุมผ่านด่านแนวกั้นของ “ตำรวจ” มาได้เข้าพื้นที่เขตพระราชฐาน เป็นหน้าที่ของ “กองกำลังรักษาเขตพระราชฐาน” จากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ โดยไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนว่าทหารจากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ มีจำนวนกี่นาย

นอกจากนี้ยังมีกำลังทหารจาก กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จะคอยสนับสนุนการทำงานของตำรวจ โดยใช้วิธีกระจายตัวไปช่วยตำรวจ วางแนวกั้นตามจุดต่างๆ เพื่อต้านการรุกคืบของ “ม็อบราษฎร” ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะหากหลุดจากแนวกั้นของตำรวจ ก็จะถึงพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินสวนพระมหากษัตริย์ทันที

 

โดยแนวกั้นต่างๆประกอบด้วย พื้นที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย มุ่งหน้าเทเวศร์ แนวกั้นที่ 1 ถูกปิดกั้นด้วยแบริเออร์พลาสติกสีส้ม รั้วเหล็กพร้อมลวดหนาม แนวกั้นที่ 2 ถูกปิดกั้นด้วยตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น การจราจรถูกปิด

 

ถนนวิสุทธิกษัตริย์  มุ่งหน้าวังแดง แนวกั้นที่ 1 ถูกปิดกั้นด้วยแบริเออร์พลาสติกสีส้ม พร้อมลวดหนาม แนวกั้นที่ 2 ถูกปิดกั้นด้วยตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น รถประจำทาง แบริเออร์ปูนพร้อมลวดหนาม

 

แยกเสาวนีย์ปิดการจราจร แยกเทวกรรม ถูกปิดกั้นด้วยตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น พร้อมแผ่นสังกะสี และลวดหนาม แยกสะพานขาว ถูกปิดกั้นด้วยตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้น

 

ปิดการจราจรหลายพื้นที่ อาทิ แยกอุภัยเจษฎุทิศ ถนนราชวิถีตัดถนนสวรรคโลก มุ่งหน้าสะพานกรุงธน ไม่สามารถผ่านเส้นทางได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์ มาวางเป็นแนวกั้น

แยกอุรุพงษ์ ถนนเพชรบุรีตัดถนนพระราม 6 มุ่งหน้าแยกยมราช เจ้าหน้าที่ได้นำแท่งปูนแบริเออร์ มาวางเป็นแนวกั้น ทางลงทางด่วนยมราช ปิดการจราจรไม่เปิดเส้นทาง และแยกบางขุนพรหม ถนนสามเสนมุ่งหน้าเทเวศน์

 

ทั้งหมดคือแผนของ ทหาร-ตำรวจ ที่ใช้รับมือ “ม็อบราษฎร” โดยจัดวางกำลังพล-กำลังคน เพื่อปกป้อง “สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ไม่ให้ผู้ชุมนุมตีแตกอย่างง่ายดาย เหมือนการชุมนุมในหลายครั้งที่ผ่านมา

 

แม้ “ม็อบราษฎร” จะถอยไปตั้งหลักใหม่ โดยนัดชุมนุมที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ บนถนนรัชดา แต่ ทหาร-ตำรวจ ไม่ประมาทตรึงกำลังเข้มในพื้นที่โดยรอบของ “สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” เพราะหากประมาทอาจจะโดนแกงได้

 

เนื่องจากเป้าหมายจริงของ “แกนนำม็อบราษฎร” ยังอยู่ที่ “สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ไม่เปลี่ยนแปลง