'อันวาร์' ชำแหละ 'ประชาธิปัตย์' ตกต่ำ จี้ยกเครื่องนโยบายใหม่
'อันวาร์' มาตามนัด 'ประชุมใหญ่สามัญประจำ' วันนี้ ชี้ 'ประชาธิปัตย์' ตกต่ำ จี้ยกเครื่องนโยบายใหม่ พร้อมตั้งคณะกรรมการพรรคใหม่ฟื้นฟู
ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดี เวลา 09.30 น. "พรรคประชาธิปัตย์" จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 โดยมี เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เป็นประธานคณะกรรมการจัดการประชุมใหญ่สามัญ โดยมีวาระสำคัญ อาทิ วาระที่ 4 แผนยุทธศาสตร์ของพรรคดำเนินการกิจกรรมสำหรับปีต่อไป โดยเฉพาะการหารายได้การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ในทางการเมืองและการพัฒนาบุคากรทางการเมือง และวาระที่ 5 เลือกตั้งเหรัญญิกพรรค แทนตำแหน่งที่ว่างลง
ทั้งนี้ ก่อนการประชุมพบว่า อันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ในฐานะรองเลขาธิการประชาธิปัตย์ ได้แจกเอกสารข่าวให้กับสื่อมวลชน โดยระบุว่า "อันวาร์ ชำแหละแผล-เปิดแผนยุทธศาสตร์ติดปีกประชาธิปัตย์" โดยมีเนื้อหาระบุถึงความตกต่ำของพรรคที่มาจากความผิดหวังกับการกระทำของพรรค ที่ไม่สามารถลบล้างได้เลย ตั้งแต่เรื่องดีแต่พูด เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น ดังนั้นถึงเวลาต้องยกเครื่องนโยบายพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก เพื่อให้พรรคหลุดพ้นจากความตกต่ำ และกลับมาครองใจประชาชนได้
อันวาร์ สาและ รองเลขาธิการ และ สส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ปัตตานี อภิปรายแสดงความคิด เห็นในการประชุมใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่โรงแรมรามาการ์เดนท์ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวโน้มตกตำ่ลงอย่างต่อเนื่อง และไม่มีวี่แววพลิกฟื้นในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้เป็นเพราะ ว่าพรรคเดินผิดทาง เปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤต ส่งผลให้แพ้เลือกตั้ง สูญเสียที่นั่ง ส.ส.ในทุกเขตเลือกตั้ง โดย เฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ กทม.ที่แพ้เลือกตั้งจนเหลือศูนย์
“ผมวิเคราะห์เหตุแห่งความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ว่า มาจากประชาชนผิดหวังกับการกระทํา ของพรรค และพรรคไม่สามารถลบล้างข้อครหาที่เป็นตราบาปของพรรคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีแต่พูด-เอาดี ใส่ตัว เอาชั่วให้เพื่อน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่มีความเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวกันในระหว่างสมาชิกพรรค”
อันวาร์ กล่าวต่อไปว่าวันนี้ ถึงเวลาที่พรรคต้องยกเครื่องการทํางาน ยกเครื่องนโยบายของพรรค ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกและสถานการณ์บ้านเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างจริงจัง เพื่อทําให้พรรคหลุด พ้นจากความตกตำ่ และหวนกลับมาครองใจประชาชน เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน ไม่ปล่อยให้ประชาชน ว้าเหว่สิ้นหวัง
“โจทย์ใหญ่ที่สุดที่พรรคต้องให้ความสําคัญยิ่งยวด ในการแสวงหาทางแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ สุขของประชาชน และเพื่อความมั่นคงยั่งยืนของประเทศ มีอยู่ 3 ประเด็นด้วยกันคือปัญหาหนี้สินของพี่น้อง ประชาชนหลายสิบล้านชีวิต-ปัญหาความอยู่รอดของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหลายล้านราย-ปัญหาโครงสร้าง ระบบเศรษฐกิจ ภายใต้บริบทใหม่ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องการการปฏิรูปอย่างจริงจัง เพื่อ การพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น และลดการพึ่งพาปัจจัยภายนอกให้น้อยลงอย่างมีดุลยภาพ”
“การแก้ปัญหาความตกตำ่ของพรรค ด้วยการเปลี่ยนแปลงแก้ไขตราสัญลักษณ์ที่อยู่คู่กับพรรคมา 74 ปี โดยการถือวิสาสะของใครบางคนในพรรค ไม่น่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่ทางแก้ที่ถูกต้องควรต้อง แก้ไขที่คน ต้องเติมคุณภาพและประสิทธิภาพของคนในพรรค ให้มีขีดความสามารถทํางานเพื่อประโยชน์สุข ของประชาชนได้ดีขึ้น”
โอกาสนี้ นายอันวาร์ ยังได้เสนอแนะยุทธศาสตร์การฟื้นฟูพรรค 3 ประการคือการยึดมั่นในอุดมการณ์ พรรคที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค-ยึดมั่นในคําสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และยึดมั่นในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข พร้อมกับเสนอให้มีการจัดตั้งคณะ กรรมการฟื้นฟูและพัฒนาพรรค ทําหน้าที่ขับเคลื่อนการฟื้นฟูและพัฒนาพรรคอย่างเป็นระบบ เพื่อให้พรรค ประชาธิปัตย์ กลับมาครองใจประชาชน และเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้อย่างแท้จริง