'วันเฉลิม' ในแฟ้มคดีเห็นต่าง รัฐบาล-กองทัพ 'เร่งดับไฟ'

'วันเฉลิม' ในแฟ้มคดีเห็นต่าง รัฐบาล-กองทัพ 'เร่งดับไฟ'

กองทัพภาคที่ 1 เพิ่มความเข้มข้น ในการดูแลรักษาความปลอดภัย และความถี่ในการลาดตระเวนพื้นที่เขตพระราชฐาน รอบๆ พระราชวังสวนจิตรลดา

หลังมีความพยายามติด ‘โบว์สีขาวเชิงสัญลักษณ์ กระถางต้นไม้หน้าลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ถูกทหารนอกเครื่องแบบเข้าสกัด และนำตัวส่งตำรวจได้ทันท่วงที

การจัดแคมเปญดังกล่าว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ทวงคืนความเป็นธรรมให้ ต้าร์นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้หลบหนีคดีจากประเทศไทย ถูกอุ้มหายไปจากที่พักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

หลังมีการประโคมข่าวถูกดำเนินคดีในยุค คสช.หลายข้อหา และหนึ่งในนั้นคือ ม.112

จุดประสงค์การติด ‘โบว์สีขาว’ พื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจยังคงใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งคนเห็นต่างทางการเมืองมาทุกยุคสมัย และใช้ ‘กองทัพ’ เป็นกลไกขับเคลื่อน

สถานที่สำคัญทั้ง กระทรวงกลาโหม กองทัพบก กองทัพภาคที่ 1 ต่างตกเป็นเป้าหมาย

ทันทีที่เกิดเหตุ ฝ่ายกฎหมาย กองทัพบกได้รื้อแฟ้มคดี สรุปตัวเลขการดำเนินคดีกลุ่มผู้เห็นต่างในช่วง 5 ปี คสช. พบว่า มีผู้ถูกดำเนินคดีกว่า 300 คดี เป็นคดีที่สิ้นสุดแล้วกว่า 150 คดี ส่วนอีก 150 คดีถูกโอนไปยังศาลพลเรือนและอยู่ระหว่างการสืบพยานหลักฐาน มีทั้งคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คดีครอบครองอาวุธสงคราม และคดีความมั่นคงเกี่ยวกับการยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116

แต่ไม่พบ วันเฉลิมเคยต้อง คดี ม.112 และปัจจุบันเหลือเพียงคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะมีข้อมูลทำให้เชื่อได้ว่าเป็นแอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ” ด้วยการโพสต์ข้อความให้ร้ายทหาร ในขณะที่คดีขัดคำสั่งไม่มารายงานตัว จบไปพร้อม ๆ กับการสิ้นสุดของ คสช.

คดี วันเฉลิมกำลังกลายเป็น น้ำผึ้งหยดเดียวที่ หน่วยงานความมั่นคงเริ่มวิตก เพราะพิเคราะห์แล้วว่า ประชาชนกว่า 70% เอียงเอนไปในทางที่เชื่อว่า การหายตัวไปของ วันเฉลิมที่กรุงพนมเปญ เป็นผลพวงจากการแจ้งความดำเนินคดีของ คสช.

สอดคล้องกับท่าทีเฉยเมยของ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในช่วงแรก ที่เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงอย่างดี คอยสุมไฟให้ลุกโชนและมีแนวโน้ม กระแสจุดติดขยายเป็นวงกว้าง

เมื่อ ‘ลานพระบรมรูปทรงม้า’ กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ทวงคืนความเป็นธรรมให้ ‘วันเฉลิม’ รัฐบาล ก็วางเฉยต่อไปอีกไม่ได้ 

จึงรีบประสานทางการกัมพูชา ทั้งทางเปิด -ทางปิด โดยกระทรวงต่างประเทศ และความสัมพันธ์ส่วนตัวในระดับรัฐบาล เร่งไขความกระจ่าง ให้คดีนี้จบ และจุดไม่ติด โดยเร็ว