สภาฯ เสนอรัฐบาลตั้งผู้ตรวจการกองทัพ

สภาฯ เสนอรัฐบาลตั้งผู้ตรวจการกองทัพ

“สภาฯ” เสนอตั้งผู้ตรวจการกองทัพ ตรวจสอบใช้งบ-รับเรื่องร้องเรียนทหารชั้นผู้น้อย แนะเร่งปฏิรูปกองทัพ-จัดตรวจสุขภาพจิตกำลังพลทุก 3 เดือน

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.63 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาญัตติด่วน ซึ่งเสนอโดยส.ส.จากหลายพรรค เพื่อให้สภาฯ แสดงความเห็นต่อกรณีที่เกิดเหตุโศกนาฎกรรมทหารคลั่งกราดยิงประชาชน ในพื้นที่อ.เมือง จ.นครราชสีมา ช่วงวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ และเสนอแนะความเห็นต่อรัฐบาลถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงกู้คืนระบบเศรษฐกิจภายในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเห็นของส.ส.ที่ส่งข้อเสนอไปยังรัฐบาล มีสาระสำคัญ คือ ให้ทหารเร่งปฏิรูประบบงานภายใน โดยเฉพาะมาตราการดูแลกำลังพลในหน่วยงานที่มีความเครียดจากการปฏิบัติภารกิจ รวมถึงความเครียด หรือมีแรงกดดันจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการรับใช้ราชการ 

ทั้งนี้ มีข้อเสนอให้มีแนวทางบำบัดทางจิตใจกำลังพล ผ่านสถานพยาบาล โดยเสนอให้เป็นมาตรการที่กองทัพต้องตรวจสอบสุขภาพจิตของกำลังพลเป็นประจำ ทุกๆ  3 เดือน 

นอกจากนั้นขอให้ทหารยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธทั่วประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะหัวหน้าหน่วยงานที่กำกับกระทรวงกลาโหมและคลังอาวุธแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง 

นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่  อภิปรายเน้นถึงการปฏิรูปกองทัพ พร้อมระบุว่าพร้อมสนับสนุนแนวทางปฏิรูปกองทัพตามที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่ย้ำว่าจะเร่งสะสางปัญหาภายในกองทัพ รวมถึงปฏิรูปกองทัพภายในระยะเวลาของอายุราชการที่เหลืออยู่ ขณะที่การตรวจสอบภายในกองทัพ เสนอให้มีผู้ตรวจการกองทัพ ที่ประกอบด้วยบุคคลภายนอก เพื่อตรวจสอบการใช้งปบระมาณ และรับเรื่องร้องเรียนจากพลทหาร หรือข้าราชการชั้นผู้น้อย ทั้งนี้เพื่อสร้างหลักประกันไม่ให้นายทหารชั้นผู้น้อยได้รับความยุติธรรมจากประเด็นที่ได้รับความเดือดร้อน 

พร้อมเรียกร้องให้มีพื้นที่สาธารณะเพื่อพูดถึงเหยื่อที่ถูกกระทำ เพื่อแสดงความไว้อาลัย ให้เกียรติและยอมรับนับถือบุคคลที่เป็นเหยื่อจากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายการอภิปรายของนายปิยบุตร ได้เอ่ยชื่อบุคคลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมกราดยิงประชาชนที่จ.นครราชสีมา เพื่อยกย่องเป็นเกียรติประวัติกลางที่ประชุมสภาฯ ด้วย 

ขณะที่มาตรการทางด้านเศรษฐกิจ เสนอแนะรัฐบาลควรเร่งฟื้นความเชื่อมั่นให้ประชาชนด้านการดูแลความปลอดภัย รวมถึงจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาฯ ได้ใช้เวลาอภิปรายแสดงความคิดเห็นเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 19.00น. แต่ยังมีส.ส.แสดงเจตจำนงอภิปรายจำนวนมาก ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 สั่งพักการประชุม เพื่อให้ส.ส.ได้เตรียมตัวเข้าร่วมการประชุมร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563 วาระ 2-3 ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์  ส่วนส.ส.ที่ยังค้างการอภิปรายให้ยกไปอภิปรายต่อในการประชุมครั้งถัดไป จากนั้นได้ปิดประชุม