'อนุทิน' โพสต์ ขอโทษทำไม่เหมาะผ่านสื่อ

'อนุทิน' โพสต์ ขอโทษทำไม่เหมาะผ่านสื่อ

"อนุทิน" โพสต์ ขออภัยทำไม่เหมาะผ่านสื่อ บอกจะทำงานตามแนวทางต่อไป จนกว่าประเทศไทยจะก้าวข้ามภาวะวิกฤตินี้

เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว อนุทิน ชาญวีรกูล แสดงความคิดเห็นถึงกรณีตำหนินักท่องเที่ยวบางคน ปฏิเสธรับหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ หลังกระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม องค์การอนามัย นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บนชานชาลา สถานีรถไฟฟ้าสยาม โดยเนื้อหาระบุว่า...


ผมไม่โกรธที่โดนด่า โดนวิจารณ์หยาบคาย

ผมไม่รู้สึกผิดขณะที่แสดงอารมณ์ และใช้คำพูดกับ"ฝรั่ง" คนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติคนไทย และมองเห็นมาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ตลก ขบขัน

ผมมั่นใจว่า 100% ของคนที่ด่าและวิจารณ์ผม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมและคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำกิจกรรมรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ในเช้าวันนี้

เพราะผมรู้ว่าคนที่ด่าและวิจารณ์ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมจึงไม่โกรธ แต่รู้สึกเสียใจที่มีการแปลเจตนาของผมผิดพลาดจากที่ผมต้องการจะสื่อสาร

ผมเพียงแต่จะบอกว่า ถ้าคนต่างชาติคนนั้น หรือคนไหนก็ตาม ไม่พร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่ควรจะเข้ามาในประเทศไทย ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ แต่ยังเห็นสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ปัดมือผมที่ยื่นหน้ากากอนามัย ให้ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใย และแสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยามความปรารถนาดีของคนไทย

ผมไม่รู้สึกผิดที่ตอบโต้ผ่านสื่อมวลชนไปยังคนต่างชาติคนนั้น และคนอื่นๆ ที่ดูอยู่ เพื่อให้ได้รับทราบเจตนาของผมในฐานะคนไทย ที่ต้องรับผิดชอบต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

ผมอดทน อดกลั้นมากพอที่จะไม่ตอบโต้กับคนต่างชาติคนนั้น ด้วยท่าทีแบบเดียวกับที่เขาทำกับผม และคณะแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข

ผมเป็นคนไทยที่ไม่เคยยอมให้ต่างชาติมาแสดงท่าที อาการเหยียด และดูถูกคนไทย

ผมมีเพื่อนต่างชาติเยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนดีที่ไม่เหยียดคนไทย แต่ต่างชาติบางคนที่แสดงท่าทีเหยียดคนไทย ผมไม่นับเป็นเพื่อน

ในบางประเทศ ในช่วงเวลานี้ มีข้อห้ามคนต่างชาติมากมาย แต่ในประเทศไทย เราเพียงขอให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตัวเอง และป้องกันคนอื่นติดเชื้อเท่านั้น เพราะเราไม่รู้ว่าใครเดินทางมาจากไหน ก่อนมาประเทศไทย

บางประเทศ ไม่รับคนจีนเข้าประเทศ แต่รับคนจากชาติต่างๆ เข้ามาอย่างไม่ระมัดระวัง ปรากฏว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นกว่าประเทศไทย เพราะเรามีมาตรการควบคุมโรคแบบของเรา ทำให้สถานการณ์ของเราดีกว่าบางประเทศในภูมิภาคนี้

เราทำด้วยความปรารถนาดี และห่วงใยคนไทย และคนต่างชาติเกือบ 100% ที่ได้รับหน้ากากอนามัย วันนี้ ยิ้มและขอบคุณรัฐบาลไทย ที่นำมาแจกให้ป้องกันตัวเอง มีเพียงรายเดียวที่เป็นกรณีปัญหา

ผมขออภัยที่แสดงอาการไม่เหมาะสมผ่านสื่อมวลชน ซึ่งมีผู้ชมหลากหลายรุ่นวัย แต่ผมไม่มีวันขออภัยคนต่างชาติคนนั้น ที่ไม่ให้เกียรติ และรังเกียจมาตรการควบคุมโรคของประเทศไทย

ผมจะทำงานของผม ตามแนวทางของผมต่อไป จนกว่าประเทศไทย และคนไทย จะก้าวข้ามภาวะวิกฤติทางสุขภาพนี้ ไปได้ด้วยความปลอดภัย