'สมชัย' โต้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์กกต. ชี้ชัดต้องยึด รธน.91(4)

'สมชัย' โต้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์กกต. ชี้ชัดต้องยึด รธน.91(4)

"สมชัย" โต้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์กกต. ชี้ชัดต้องยึดรธน.91(4) จี้ กกต.เปิดใจฟังทุกฝ่าย ชี้ถ้าเจตนาบกพร่อง ต้องรับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.62 ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร พรรคปชป. แถลงถึงสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อโดยไล่เรียงการคำนวณตามกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 ตั้งแต่ (1) ถึง (7) มาแจกแจงวิธีการคำนวณอย่างละเอียดต่อสื่อมวลชน ว่า เราต้องพิจารณากฎหมายสองฉบับคือ รัฐธรรมนูญมาตรา 91 และกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 โดยสิ่งที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งส.ส.กำหนดไม่ได้มีปัญหา เนื่องจากสามารถถอดค่าและนำมาคำนวณได้ แต่สูตรที่ตนคำนวณแตกต่างจากผลลัพธ์ที่ กกต.ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่า จะมีพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 25 พรรคที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในขณะที่สูตรของตนจะมีพรรคการเมืองได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 16 พรรค เนื่องจากต้องตัดพรรคเพื่อไทย(พท.) ที่ได้ส.ส.เขต 137 คน เกินกว่าจำนวนส.ส.พึงมี 111 คน ทำให้ไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ และตัดพรรคประชาชาติออก เนื่องจากได้จำนวนส.ส.พึงมีที่ 6.8316 และได้ส.ส.เขตมาแล้ว 6 คน ทำให้เศษที่เหลือสำหรับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถึง 1 คน จึงต้องตัดทิ้ง เท่ากับเหลือพรรคการเมืองที่จะได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ 14 พรรคการเมือง ซึ่งจะต้องนำมาปรับอัตราส่วนใหม่ให้รวมแล้วได้ 150 คน ตามที่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 กำหนดไว้ โดยส.ส.บัญชีรายชื่อที่ทั้ง 14 พรรคจะได้รับ มีรายละเอียดดังนี้ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ 21 คน พรรคอนาคตใหม่ 56 คน พรรคปชป. 22 คน พรรคภูมิใจไทย(ภท.) 13 คน พรรคเสรีรวมไทย 11 คน พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) 5 คน พรรคเศษฐกิจใหม่ 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) 4 คน พรรคชาติพัฒนา(ชพน.) 2 คน พรรคพลังท้องถิ่นไท 2 คน พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 1 คน พรรคพลังปวงชนไทย 1 คน และพรรคพลังชาติไทย 1 คน

นายสมชัย กล่าวว่า ส่วน 58 พรรคเล็กที่ไม่ได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นไปตามที่กฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 (5) ที่กำหนดว่า การจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าว มีส.ส.เกินจำนวนที่จะพึงมีได้ ซึ่งเป็นข้อความเดียวกับที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 91(4) เนื่องจากทั้ง 58 พรรคได้คะแนนน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประชากร 71,057.4980 จึงต้องตัดทิ้งไปตั้งแต่แรก

ทั้งนี้ ตนจะนำสูตรคำนวณของตนจัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้ กกต.อย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์นี้ และอยากให้ กกต.ดูข้อความในกฎหมายเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 (5 ) ที่กำหนดไม่ทำให้พรรคการเมืองมีส.ส.เกินกว่าจำนวนที่พึงมีให้ดี ๆ ว่าแปลว่าอะไร ซึ่งในขณะนี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือนกว่าจะถึงวันที่ 9 พฤษภาคมที่ กกต.จะต้องประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการร้อยละ 95 จึงอยากให้ กกต.จัดเวทีรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ทั้งนักกฎหมาย นักคณิตศาสตร์ หรือจะเชิญตนก็ยินดี และสุดท้ายเมื่อได้รับข้อมูลครบถ้วนค่อยตัดสินใจว่าสูตรที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร

“ผมขอให้ กกต.เอาการติดยึดกับประโยคที่บอกว่าถูกแล้วออกไปจากหัวก่อน ไม่อยากให้ กกต.ติดยึดสิ่งที่เคยเผยแพร่ไป ควรเปิดกว้างรับฟังก่อน ไม่มีใครกดดัน กกต. ท่านต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกใช้สูตรใดในการคำนวณส.ส.บัญีรายชื่อและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตัวเองด้วย เพราะหากคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อผิด ก็ถือว่าบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่แต่เป็นการบกพร่องเจตนาหรือไม่เจตนาต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง หากบกพร่องโดยตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่สังคมพยายามสะท้อนถึง กกต.แล้วก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วย อย่างไรก็ตามหากมีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อผิดพลาด ก็ไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะสามารถแก้ไขผลลัพธ์ให้ถูกต้องได้ ส่วนข้อเสนอให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้นเห็นว่าก่อนวันที่ 9 พฤษภาคมไม่มีช่องทางที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ กกต.จึงต้องตัดสินใจเอง ผมอยากให้ กกต.ยึดหลักไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีหน้าตาที่ต้องเสีย แต่ต้องให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ อย่าติดยึดเรื่องการเสียหน้า เมื่อผิดก็แก้ไข เชื่อว่าสังคมเข้าใจ” นายสมชัย กล่าว