'บัตรเขย่ง' ที่ผ่านมาก็เคยมี?

'บัตรเขย่ง' ที่ผ่านมาก็เคยมี?

รองเลขาธิการ กกต. แจง "บัตรเขย่ง" ที่ผ่านมาก็เคยมี?

นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กกต. ชี้แจงถึงกรณีที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกับยอดบัตรที่ใช้ เป็นจำนวน9 ใบ ว่า อาจเกิดการเขย่งในจำนวนผู้มาใช้สิทธิ กับบัตรที่ใช้ ซึ่งอาจมีสาเหตุจากกรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแสดงตนใช้สิทธิ แต่ไม่รับบัตรเลือกตั้งแล้วเดินออกจากหน่วยเลือกตั้งไปก่อน ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ จากหน่วยเลือกตั้งที่มีกว่า 92,000 หน่วยทั่วประเทศ จากการตรวจสอบซ้ำไปยังหน่วยลงคะแนน หากพบว่าหน่วยใดรายงานข้อมูลผิดนั้น ก็จะพบได้ว่าเกิดการผิดพลาดที่หน่วยเลือกตั้งใด

ส่วนกรณีที่จำนวนบัตรดีไม่ตรงกับการคำนวณคะแนนรวมของทุกพรรคการเมืองนั้น นายกฤช กล่าวว่า อาจมีสาเหตุมาจากการนับบัตรที่หน่วยเลือกตั้ง ที่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในการนับ แต่ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบกับคะแนนรวมเพราะคะแนนมีการนับและเขียนไว้อย่างชัดเจนที่กระดานในหน่วยเลือกตั้งของทุกหน่วย ทั้งนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ที่ผ่านมาพบการเขย่งของบัตรในลักษณะนี้เช่นกัน

\'บัตรเขย่ง\' ที่ผ่านมาก็เคยมี?

ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ากกต.จะแจกใบแดงมากถึง 45 ใบ นายกฤช กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวเท็จ การพิจารณาเรื่องร้องเรียนและคัดค้านต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกกต. ซึ่งมีขั้นตอนของการดำเนินการแต่ยังไม่ได้ตั้งธงว่า จะให้ใบเหลืองใบแดง จำนวนเท่าไร และพรรคไหน ซึ่งข่าวที่ปรากฏเรื่องใบเหลืองใบแดงนั้นไม่เป็นความจริง สำหรับผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จทำให้เกิดความเสียหายและสร้างความสับสนนั้น กกต.จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป

เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผอ.สำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน สำนักงานกกต. กล่าวว่า ในกระบวนการไต่สวน สืบสวน สอบสวน หากมีมูลก็จะแจ้งข้อกล่าวหาไปยังฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยเป็นกรณีร้องเรียนกล่าวหา 71 เรื่อง และมีความปรากฏต่อสำนักงานกกต. 40 เรื่อง ซึ่งจะได้ตรวจมูลคดีและตั้งกรรมการไต่สวน ท้ายที่สุดจะต้องส่งเรื่องทั้งหมดให้คณะกรรมการกกต.ลงมติ
ฟากฝั่งพรรคการเมืองตั้งข้อสังเกตต่อกรณีตัวเลขที่คลาดเคลื่อน อาทิในส่วนของนาย นพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุว่า ตัวเลขที่ประธาน กกต.แถลงเมื่อวันที่ 24 มี.ค.กับการที่กกต.แถลงวันที่ 28 มี.ค.ไม่ตรงกัน การแถลงล่าสุดพบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มมาประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ถือเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะตัวเลขดังกล่าวควรจะมีความชัดเจน ขณะที่ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิก็เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านเสียง ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก จึงอยากให้ กกต.ชี้แจงว่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นมานั้น มาจากอะไร

ด้านน.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แถลงภายหลังขอบคุณหลังกกต.ประกาศผลคะแนนเลือกตั้ง 100% อย่างไม่เป็นทางการ แต่ต้องรอดู กกต. ว่าจะเคาะจำนวนคะแนนเสียงต่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คนจำนวนเท่าไร ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ กกต.เปิดคะแนนรายหน่วยเลือกตั้ง และข้อมูลทั้งหมด แม้ทาง กกต.จะแจ้งว่าให้เราเดินไปเอาที่ กกต.จังหวัด แต่ประเทศไทยมี 77 จังหวัด หากจะให้ผู้ตรวจสอบเดินทางไปที่ กกต.จังหวัดด้วยตัวเอง กว่าจะครบ คงใช้เวลานานเกินไป ขณะที่ประชาชนเฝ้ารออยู่ กกต.มีข้อมูลทั้งหมดอยู่ในมืออยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของท่านในการเปิดข้อมูลเหล่านี้แบบออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด อย่าผลักภาระให้ประชาชนผู้ต้องการตรวจสอบเป็นคนขวนขวายด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์ความโปร่งใสและประสิทธิภาพของกกต.เอง