“กอบศักดิ์” เสนอผู้สมัครสดใหม่อายุน้อย 100 ล้านให้ชาวบางแค ย้ำไม่ได้มาเล่นๆ พปชร.เป็นพรรคอยู่นานแน่ เพื่อตอบโจทย์ปชช.ถาวร. ด้าน”ลุงชวน”ผู้ก่อตั้งตลาดน้ำคลองลัดมะยมชวนคนบางแคให้โอกาส พปชร.ทำงานต่อเนื่อง อย่าเรียกสืบทอดอำนาจ
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพปชร. นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค เดินทางมาเปิดศูนย์ประสานงานพรรคในเขตบางแค พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยและพบปะกับประชาชนในพื้นที่ โดยมีนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมให้กำลังใจ พร้อมเปิดตัวนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตบางแค
นายกอบศักดิ์ กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า เรายืนยันว่าจะเป็นพรรคที่อยู่นานแน่ๆ เราไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาเพื่อตอบโจทย์พี่น้องบางแคอย่างถาวร เราจะส่งผู้สมัครส.ข., ส.ก.,ส.ส.และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) จากที่นี่ ทุกคนจะช่วยกันเกื้อกูลประชาชนบางแคให้มีความสุขมากขึ้น ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตลาดบางแคทำให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ว่า อยากมีตลาดเป็นของตนเอง ซึ่งเราจะหาทางทำงานร่วมกับกทม.ว่าจะทำอย่างไรให้มีตลาดอยู่ใกล้กับชุมชน โดยประชาชนไม่ต้องเดินทางไปห้างสรรพสินค้าอย่างเดียว ไม่ต้องซื้อของแพงหรือจ่ายเพิ่มอีก 30% ให้กับห้างฯ เราต้ังใจทำการเมืองใหม่โดยมีส.ส.หนุ่มๆใหม่ๆสดๆ หากเทียบกับคนก่อนก็จะมีความหนุ่มกว่าและหล่อกว่า สดกว่าและมีความสามารถ เป็นนักธุรกิจอายุน้อย 100 ล้าน สร้างตนเองจากมือเปล่าจนมีถึง 9 ธุรกิจ จึงขอฝากนายกฤชนนท์ไว้ด้วย นอกจากนี้เรายืนยันว่าอยากทำงานร่วมกับชุมชนต่างๆ เพื่อเปลี่ยนชุมชนที่เคยทำมาหากินยากให้กลับมาทำมาหากินได้ง่าย
ด้านนายชวน ชูจันทร์ ผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวปราศรัยว่า เหตุผลที่เราต้องตั้งพรรค พปชร.เพราะคิดว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้มีความสำคัญที่ต้องพาประเทศของเราให้อยู่ในความสงบและสามารถพัฒนาไปได้ เราจะไม่ย้อนกลับไปสู่ที่เดิมเป็นอันขาด เพราะเราไม่มีเวลาจะกลับไปเป็นแบบนั้นอีก เราจึงต้องมาร่วมมือกัน การตั้ง พปชร.เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยร่วมกัน รักกัน และจับมือกันพัฒนาประเทศไทยอีกครั้ง เราจึงใช้ชื่อ พปชร. หมายถึงทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปให้ได้ ผ่านกับดักความยากจนและกับดักต่างๆที่เราประสบอยู่ โดยความสงบเรียบร้อยต้องเกิดขึ้นในสังคมไทย จะไม่กลับไปสู่จุดเดิมเป็นอันขาด ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันใช้ความสามารถของตนเองให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อขับเคลื่อนประเทศ
นายชวน กล่าวอีกว่า ตนได้รับมอบหมายจากพรรคให้ดูแลชุมชนและชุมชนฐานราก เพราะที่ผ่านมาตนเคยทำตลาดร้านค้าชุมชน ทำเรื่องน้ำ สถาบันการเงิน ฟาร์มและการเกษตร โดยเฉพาะการจัดการชุมชนที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมซึ่งตนเป็นผู้ก่อตั้ง และต่อมารัฐบาลได้ใช้เป็นโมเดลต้นแบบ ถือเป็นความร่วมมือจากชุมชนเล็กๆ จากคนๆเดียวกลายเป็นชุมชนที่สามารถจัดการตนเองได้ ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและยั่งยืน ชุมชนถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา ถ้าการพัฒนาไม่เริ่มต้นที่ชุมชนโดยเฉพาะการบริหารจัดการตนเอง แล้วจะไปเริ่มตรงไหน เราต้องวัดความเจริญที่ความสะอาด ความรัก ความสงบ และมีรายได้จากการประกอบอาชีพ ซึ่งมาจากการร่วมมือกันทำงานในทุกมิติ มีคนถามว่าภายในพรรคจะมีคนเข้าใจและทำตามแนวคิดของตนหรือ. วันนี้ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เรามีผู้ที่จะมาทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะนายกอบศักดิ์ที่จะมาช่วยดูแลเรื่องเหล่านี้ ตนเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนชุมชนสามารถเกิดขึ้นได้ การทำงานนับจากนี้เป็นต้นไปไม่มีอะไรเป็นข้อจำกัด และต้องไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา
“การทำงานต้องสืบต่อ อะไรที่รัฐบาลทำไว้ดีต้องทำสืบต่อไป หลายคนใช้คำว่าสืบทอดอำนาจ แต่ผมไม่ใช้ ตลาดคลองลัดมะยมผมดูแลต่อเนื่องมา 15 ปี อะไรดีต้องทำต่อเนื่อง อะไรที่ไม่มีผิดฝา ผิดฝั่งต้องเลิกได้ ประเทศไทยก็เหมือนกัน การทำงานต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญและไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ วันนี้เราจะมาร่วมมือกันทำงานให้สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปได้ ไม่มีอะไรเป็นข้อจำกัด เราต้องช่วยกัน วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราต้องจับมือกัน ช่วยกัน ทุกอย่างต้องเริ่มที่ชุมชน และชุมชนเท่านั้นที่จะเป็นตัวชี้วัดอย่างชัดเจนว่าเราจะทำอย่างไรกัน ผมอยากให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นที่เรามาปรับความเข้าใจกัน และท่านต้องเชื่อมั่นว่าเราจะทำงานร่วมกัน ยืนยันว่าพรรคนี้จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน”นายชวนกล่าว