'หมอวรงค์' สมัครสมาชิกปชป.เตรียมสู้ศึกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

'หมอวรงค์' สมัครสมาชิกปชป.เตรียมสู้ศึกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

"หมอวรงค์" สมัครสมาชิกปชป.เตรียมสู้ศึกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โวหากชนะเลือดไหลกลับแถมมีเลือดใหม่เพิ่ม ไม่ปฏิเสธหนุน "ประยุทธ์" นั่งนายกฯต่อ

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2561 น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตสส.พิษณุโลก ผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายวิรัตน์ วิริยพงษ์ อดีตสส.สุโขทัย ในฐานะตัวแทนกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์มาให้กำลังใจ โดยน.พ.วรงค์ สมัครผ่านระบบแอพพลิเคชั่น D-connect พร้อมกับโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และบ่นว่ายากจัง ก่อนที่จะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ระบบการโอนเงินดังกล่าวทำให้สมัครสมาชิกยาก แต่ก็ยอมรับกติกา

ส่วนการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น ในขณะนี้ถือเป็นของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเป็นแชมป์เก่าที่ครองตำแหน่งมายาวนานถึง 13 ปี แต่จากการเดินสายลงพื้นที่ได้รับการตอบรับดีมาก มีอดีตสส.ที่คิดจะย้ายพรรครวมทั้งที่ย้ายไปแล้วติดต่อมาว่า หากตนได้เป็นหัวหน้าพรรคจะกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งจะได้เห็นเลือดไหลกลับเข้าประชาธิปัตย์ รวมถึงมีผู้สมัครเลือดใหม่ในพื้นที่ภาคอีสานและเหนือจะมาร่วมงานกับพรรคด้วย เพราะเมื่อตนได้บริหารพรรคก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะเป็นคนพูดจริง ทำจริง กล้าคิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจ โดยจะมีการกระจายอำนาจให้กับประธานสาขาพรรค ในวันที่เราเป็นรัฐบาล ประธานสาขาพรรคก็จะทำงานร่วมกับเราไปด้วย

ส่วนกรณีที่มีข้อครหาว่าหากได้เป็นหัวหน้าพรรคจะทำให้ประชาธิปัตย์กลายเป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งนั้น น.พ.วรงค์ กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นแนวคิดของคนที่สนับสนุนตนซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงพรรคให้เข้มแข็งขึ้น หากเปิดตัวออกมาแล้วคนจะตกใจ ซึ่งเมื่อถึงเวลาจะให้ออกมาชี้แจง

เมื่อถามย้ำถึงจุดยืนในการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่าจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ น.พ.วรงค์ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ กล่าวเพียงว่า ยังไม่ได้มองไกลถึงขนาดนั้น

ขณะนี้มุ่งที่การแข่งขันในตำแหน่งหัวหน้าพรรคก่อนและไม่ได้ติดยึดกับตัวบุคคล การร่วมรัฐบาลต้องมีการหารือกันก่อน โดยตนยึดนโยบายสำคัญเรื่องการปราบการทุจริตที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ไม่ได้คิดประเด็นประชาธิปไตยหรือเผด็จการ เพราะเป็นคำที่ชาวบ้านไม่ได้อะไร และเบื่อแล้ว ต้องการความชัดเจนว่าชาวบ้านจะได้อะไรมากกว่า ซึ่งหากได้เป็นหัวหน้าพรรคก็จะมีนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ ทั้งนี้ในวันที่ 7 ตุลาคมนี้จะลงพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อพบปะสมาชิกและอดีตประธานสาขา เพราะทราบมาว่าคู่แข่งคือนายอภิสิทธิ์ จะลงพื้นที่ภาคใต้ จากนั้นในวันที่ 8 ต.ค.จะเดินทางมาสมัครลงแข่งขันอย่างเป็นทางการ